๑๘. พิธีจองเปรียง

ครั้นมาถึงเดือน ๑๒ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ แรมค่ำ ๑[๑] พิธีจองเปรียงนั้น เดิมได้โปรดให้ขอแรงพระบรมราชวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าฝ่ายใน และข้าราชการที่มีกำลังพาหนะ มาทำกะทงใหญ่ ผู้ต้องเกณฑ์ต่อเป็นถังบ้าง ทำเป็นแพหยวกบ้าง กว้าง ๘ ศอกบ้าง ๙ ศอกบ้าง กะทงสูงตลอดยอด ๑๐ ศอก ๑๑ ศอก ทำประกวดประขันกันต่าง ๆ ทำอย่างเขาพระสุเมรุทวีปทั้ง ๔ บ้าง และทำเป็นกะจาดชั้น ๆ บ้าง วิจิตรไปด้วยเครื่องสด คนทำก็นับร้อย คิดในการลงทุนทำกะทงทั้งค่าเลี้ยงคนเลี้ยงพระช่างเบ็ดเสร็จก็ถึง ๒๐ ชั่งบ้าง หย่อนกว่า ๒๐ ชั่งบ้าง กะทงนั้นวัน ๑๔ ค่ำเครื่องเขียว วัน ๑๕ ค่ำเครื่องขาว แรมค่ำ ๑ เครื่องแดง ดอกไม้สดก็เลือกหาตามสีกะทงและมีจักรกลไกต่างกันทุกกะทง มีมโหรีขับร้องอยู่ในกะทงนั้นก็มีบ้าง เหลือที่จะพรรณนาว่ากะทงผู้นั้นทำอย่างนั้น ๆ คิดดูการประกวดประขันกันจะเอาชนะกัน คงวิเศษต่าง ๆ กัน เรือมาดูกะทงตั้งแต่บ่าย ๔ โมง เรือชักลากกะทงขึ้นไปเข้าที่แต่บ่าย ๕ โมง เรือเบียดเสียดแน่นกันหลีกไม่ใคร่จะไหว ดูเป็นอัศจรรย์ เรือข้าราชการและราษฎรมาดูเต็มไปทั้งแม่น้ำ ที่ต้องขอแรงทำกะทงนั้น ในพระบรมราชวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ คือกรมหมื่นสุรินทรรักษ ๑ กรมหมื่นรักษรณเรศร ๑ กรมหมื่นเดชอดิศร ๑ กรมหมื่นพิพิธภูเบนทร ๑ ขุนนาง คือ ท่านเจ้าพระยาอภัยภูธร ๑ ท่านเจ้าพระยาพระคลัง ๑ ท่านพระยาศรีพิพัฒน์ ๑ พระยาพิชัยวารี ๑ พระยาราชมนตรี ๑ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี ๑ รวม ๑๐ กะทง เวลาค่ำเสด็จลงพระตำหนักน้ำ ทรงลอยพระประทีป

เจ้าพระยาพระคลัง พระยาศรีพิพัฒน์ ได้ชักชวนขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยที่เข้ามาเฝ้าตามเสด็จลงไปอยู่ที่โรงเรือหลังพระตำหนักน้ำรักษาด้านนอกอยู่ ครั้นเสด็จกลับขึ้นมาทอดพระเนตร์เห็น ก็ได้พระราชทานส่วนพระราชกุศลทรงปราศรัยด้วยทุกคน ด้วยแต่ก่อนเสด็จลงลอยพระประทีปแล้ว ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยที่เข้าไปเฝ้าต่างคนต่างไปบ้านก่อนเวลาเสด็จขึ้น การที่เจ้าพระยาพระคลังทำลงเป็นอย่างเป็นธรรมเนียมติดมาจนทุกวันนี้

ครั้นถึงปีจออัฐศก ศักราช ๑๑๘๘[๒] ก็โปรดให้ทำอีกคราวหนึ่ง แต่ได้เริ่มการตริตรองมานานก็ทำวิเศษดีกว่าปีระกาขึ้นไปอีก แล้วจึ่งดำรัสว่าไม่รู้เลย ลงทุนรอนมากมายหนักหนา ตั้งแต่นี้ไปอย่าให้ทำอีกเลย ตั้งแต่นั้นมาพระบรมวงศ์เธอและพระเจ้าน้องนางเธอฝ่ายในกับเจ้าคุณปราสาท ทำถวายเป็นกะทงเครื่องสดทั้งนั้น สูง ๔ ศอก ๕ ศอก ๖ ศอกบ้าง มาเสมอทุกปี ท่านก็ประกวดประขันกันเองไม่ยอมแพ้กัน ในกระบวนเครื่องสดคราวหนึ่งก็สิ้นค่าเลี้ยงค่าแจกอยู่ใน ๒๓ ชั่ง

ครั้นมาถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ทำถวายอยู่ ๒ ปี แล้วจึงมีรับสั่งว่า พระองค์เจ้าฝ่ายในผลประโยชน์ก็มีน้อยต้องเกณฑ์โถยาคูและกะทงและดอกไม้ทุกปี ก็ต้องเสียเงินเป็นหลายชั่ง จึ่งโปรดให้ยกเลิกเสีย



[๑] พุธที่ ๒๑ พฤศจิกายน

[๒] พ.ศ. ๒๓๖๙

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ