๑๒๐. งานพระศพกรมหลวงเทพพลภักดิ์

ครั้นณวันพุธเดือน ๖ แรม ๑๐ ค่ำ[๑] ได้แห่พระศพกรมหลวงเทพพลภักดิ์ ตั้งกระบวนแห่ไปเข้าพระเมรุใหญ่ท้องสนามหลวง ถวายไทยธรรมพระสงฆ์ราชาคณะฐานานุกรม เปรียญอันดับสดับปกรณ์ มีการมหรสพสมโภช ๓ วัน ๓ คืน ครั้นณเดือน ๖ แรม ๑๓ ค่ำ[๒] พระราชทานเพลิง

ครั้นมาถึงเดือน ๘ อ้ายพลายอีทรัพย์ ทาสพระศรีภักดี บุตรพระยาศรีพิพัฒนรัตนราชโกษาธิบดี ทำเรื่องราวมายี่นต่อเจ้าพระยาธรรมาว่า พระศรีภักดีรักใคร่กับเจ้าจอมอิ่ม บุตรพระยามหาเทพ (ปาน) พระศรีภักดีให้อีทรัพย์กับอีหนูทาสคน ๑ เข้าไปพูดจาแทะโลมเจ้าจอมอิ่ม ๆ ก็ยอมว่าจะไม่ทำราชการแล้ว จะคิดเดินออกไปอยู่กับบิดาเสียก่อน แล้วจึ่งให้ไปสู่ขอต่อภายหลัง เจ้าจอมอิ่มกับพระศรีภักดีก็รักใครกันให้ข้าวของกัน พระสำราญราชหฤทัย (อ้าว) นั้นรู้เห็นเป็นใจด้วย จะช่วยสู่ขอต่อพระยามหาเทพให้ ครั้นความกราบทูลทราบแล้ว โปรดให้กรมหลวงรักษรณเรศเป็นตุลาการ ชำระพิจารณาก็ได้ความจริงว่า เป็นแต่ให้หนังสือเพลงยาวและข้าวของเท่านั้น หญิงกับชายก็ไม่ได้พบพูดจากันในที่ใดตำบลใด จึ่งโปรดให้ลูกขุนปรึกษาโทษ ลูกขุนเชิญบทพระกฤษฎีกาปรึกษาโทษว่า ชายใดบังอาจสมรักด้วยนางใน ก็ให้ประหารชีวิตเสียทั้งชายทั้งหญิง พระสำราญราชหฤทัยก็เป็นพนักงานกรมวัง การทั้งนี้ก็เป็นในพระราชฐานรู้แล้วก็นิ่งเสีย กลับเข้าด้วยคนผิดต้องประหารชีวิตเสียด้วย ยายน้อยของอิ่มคน ๑ กับอีหนูทาสพระศรีภักดีคน ๑ เป็นคนชักสื่อ นายฟักนายอ่อนพี่เลี้ยงพระศรีภักดีรู้ความแล้วก็นิ่งเสียมิได้ห้ามปรามเห็นชอบไปตามกัน หมอยังเป็นทั้งหมอดูและหมอเสน่ห์ โกหกเที่ยวหากิน มาดูพระศรีภักดีว่าคงได้การสำเร็จตามความปรารถนาก็มีความผิด ขอให้เอาคนทั้ง ๘ ไปประหารชีวิตเสีย แล้วริบราชบาตรเป็นหลวงให้สิ้น อย่าให้ผู้ใดดูเยี่ยงอย่างต่อไป ก็โปรดให้เอาตามคำลูกขุนปรึกษา ครั้นณวันเดือน ๙ ขึ้น ๑ ค่ำ[๓] ก็เอาคนโทษไปประหารชีวิตเสียที่สำเหร่



[๑] ศุกรที่ ๑๘ พฤษภาคม

[๒] วันจันทร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม

[๓] จันทร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ