สรรคที่ ๒๔

ภุชฌงคปยาตรฉันท์

๑๒ ลำดับนั้นพระนลตรัส สุภาพอัตถะตักเตือน
มิควรแท้จะแชเชือน จะชักช้ามิคลาไคล
๏ สตรีเดียวและเที่ยวมา ณะโรงม้าประสงค์ใด
ผิใครเห็นมิเว้นใคร จะนินทาอนาจาร
๏ นิกรนรจะค่อนกล่าว สตรีสาวจะฉาวฉาน
กระทบคำจะช้ำนาน จะเชิดหน้าประสาไหน
๏ สมรเจ้าจะเฝ้าฟัง จะนิ่งนั่งฉนี้ไย
คระไลคลามิช้าไป ณะเรือนเจ้านะเยาวมาลย์ ๚
๑๒ ลำดับนั้นสตรีเก ศินีเล่หะชำนาญ
บ่ลืมล้วนสำนวนฃาน สำเหนียกเค้าสำเนาคำ
๏ ก็สู่วังบ่รั้งรอ แสดงข้อคะดีฃำ
บ่บกพร่องทำนองจำ ทำนูลเจ้าลำเภาศรี
๏ ไฉนเธอประคองสอด พระกรกอดกุมารี
ไฉนอุ้มกุมารมี พระเนตรน้ำก็พร่ำพรู
๏ ไฉนเธอดำรัสหยาว สตรีสาวสำรวยตรู
จะสู่โรงดุรงค์ดู ทำนองไฝ่จะใกล้ชาย
๏ ประชาสิ้นจะนินทา จะวางหน้าก็น่าอาย
จะหยาวเล่นมิเว้นวาย จะเวียนว่ามิน่าฟัง
๏ ไฉนเธอดำรัสไล่ และเร่งให้คระไลวัง
ไฉนครวญกำศรวญดัง กำศรดด้วยศิฃาดูร ๚
๑๒ พระไภมีฉวีทอง ยุบลถ่องธยินทูล
หทัยนางบ่ว่างภูล เทวศพางจะวางวาย
๏ คนึงแน่พระนลเจียว ธอยู่เดียวก็แดดาย
ระกำกรมระทมกาย ระทวยกอบกมลเกรียม
๏ พระนางทรงจำนงใจ จำนองนัยะธรรมเนียม
ก็ใช้เกศินีเคียม ประนมคัลพระมารดา
๏ และทูลองค์พระชนนี ประดุจที่คำนึงมา
พระโฉมตรูธรู้สา รถีหรือก็คือนล
๏ เพราะวาหุกประกอบกิจ บ่เพี้ยนผิดพระทรงพล
ชำนาญม้าวิชากล ประเล่ห์นั้นบ่ผันแปร
๏ จะเรียกน้ำจะเรียกไฟ ก็เรียกได้ประดุจแด
ผกาเหี่ยวประเดี๋ยวแล ประดุจดอกผกาแมน
๏ ตำแหน่งแต่งกระยาหาร ชำนาญการก็เหลือแสน
ประชาสิ้นณะดินแดน มิสามารถเสมอเลย
๏ ประกอบกิจประการสรรพ ก็เหมือนกับพระนลเคย
บ่เพี้ยนความพระทรามเชย ทำนูลแจ้งแถลงการ
๏ พระนลไซร้ก็วาหุก ธำรงทุกขะทนทาน
พระกานดายุพาพาล จะขอสอบระบอบฟัง
๏ จะซักความจะถามเค้า คะดีเล่าณะหนหลัง
จะทดลองทำนองดัง พระนางตรึกหทัยตรอง
๏ พระแม่จงดำรัสหา บุรุษสารถีปอง
จะไถ่ความจะถามลอง มิช้าตูจะรู้ใจ
๏ มิฉันนั้นก็ให้ตู เสด็จสู่ณะโรงหัย
จะควรการสถานใด ก็แล้วแต่พระชนนี
๏ จะทูลองค์ชนกนาถ นรินทร์ราชภูมี
ฤฉันใดไฉนดี ก็แล้วแต่พระมารดา ๚
๑๒ ลำดับนั้นพระชนนี ก็ทูลภีมะราชา
บ่บกพร่องทำนองกา ระบุตรีธมีจง
๏ พระภีมาธิราชผู้ ชนกรู้ธิดาทรง
อุบายเล่ห์ระหัสปลง หทัยหาสวามี
๏ ธล่อองค์พระราชา อโยธยานครศรี
เสด็จสู่พระบูรี จะดูสารถียง
๏ ก็เห็นได้ประจักษ์จิต บ่พลาดผิดกมลปลง
และบัดนี้บุตรีทรง จะสอบซักตระหนักนัย
๏ เพราะผิดรูปพระนลอยู่ พระนางรู้บ่แน่ใจ
จำนงนางสอางวัย จะทราบแจ้งบ่แคลงกล
๏ ชนกทราบประสงค์ศรี พระภูมีธกังวล
กรุณราชธิดาดล เทวศด้วยสวามี
๏ ก็อวยตามพระทรามสวาดิ์ วิมลราชนารี
ธิดารู้ดำรัสภี มะราชานุญาตพลัน
๏ ก็ตรัสสั่งสตรีไป ณะโรงหัยะเร็วจรัล
และวาหุกขมีขมัน ดำรัสหาก็มาวัง
๏ เสด็จเฝ้ามเหษี พระนลมีกมลหวัง
จะเห็นนางสอางฟัง ดำรัสฃานประการไหน
๏ พระนลยลพระนางยืน บ่อาจกลืนพระชลนัยน์
จะแฝงฝืนจะขืนใจ มิอาจซ่อนกำศรดทรวง
๏ พระนางยลพระนลไซร้ พระทรามไวยก็เดือดดวง
หทัยกรมระทมตวง ระทวยตื้นอุรานาง ๚

นางทมยันตีตรัสว่า

๑๒ บุรุษเชี่ยววิชาเอย เฉลยคำบ่อำพราง
ก็ตัวท่านชำนาญทาง ประเทศทั่ววิถีไกล
๏ จะเคยเห็นจะเคยยิน นรินทร์เลิศระบือไกร
บ่รู้หน่ายสลายใน ปฏิญญาคุณาธาร
๏ สงวนสัตย์เสมอทรัพย์ สมรรถสัพพะสำนาร
ประจงธรรมประจำมาน ประจักษ์แม่นมโนมัย
๏ ณคราวซึ่งสโมสร สยุมพรพิธีไกร
สมาคมพระยมไฟ วรุณทั้งสุเรนทร
๏ ธแจ่มแจ้งแสดงอัตถ์ วิเศษสัตย์สถาวร
ผิแม้นเมื่อมิเมื้อมรณ มิเริศร้างพระนางไคล
๏ จะรักใครบ่รักสุด ประเล่ห์นุชประหนึ่งใจ
พระรักแล้วและแคล้วไป ก็เสื่อมสิ้นปฏิญญา
๏ ธคลาคลาดนิราศนาง ก็อ้างว้างวนาธวา
ผธมดินมลินกา ยะซัดเซพเนจร
๏ ก็ตัวท่านชำนาญทาง ประเวศกลางพนาดร
จะเคยยินนรินทร และรู้หรือธคือใคร
๏ กษัตริย์ทรงสุคุณเชิด ประเสริฐเลิศระบือไกร
กระเดื่องจบณะภพไตร ฉนั้นหรือก็คือนล
๏ ก็ฃ้านี้มเหษี พระนลหนีณะแนวพน
บ่มีผิดจะติดตน คะดีโทษสถานใด
๏ นรินทร์เลิศธเริศร้าง นิราศนางเพราะเหตุไร
ลำพังองค์ณะพงไพร กนิฐนิทร์สนิทนอน
๏ บ่ห่วงน้องบ่หมองมาน บ่สงสารพระสายสมร
ดำเนิรป่าอนาทร วิชนวันก็พรั่นพรึง
๏ พระนางไซร้ก็ไร้ผิด วิมลจิตตะสำนึง
เพราะเหตุใดไฉนจึง พระนลจากวิบากใจ
๏ พระอินทร์ยมวรุณเพลิง เถกิงกาญจน์วิมานไกร
จำนงนางสอางไร ณะชุมนุมสยุมพร
๏ พระอินทร์มาจะเปนผัว ขจรทั่วสถาวร
ประดานางสอางอร มิอยากได้ก็ไม่มี
๏ จะได้ผัวพระกาลไซร้ สตรีใดณะธาตรี
จะบ่ายเบี่ยงจะเลี่ยงหนี มิหมายสมพระยมยง
๏ พระเพลิงทั้งวรุณเล่า มนุษย์เราก็จำนง
ณะเหล่าเทพสี่องค์ สตรีไหนบ่ใคร่เคียง
๏ ก็ฃ้านี้สิหนีเทพ มิมุ่งเสพย์สวรรค์เวียง
จำนงห่อนจะอ่อนเอียง เสน่ห์นลวิมลศรี
๏ เพราะเหตุสัตย์ถนัดจิต มนัสนิตยะภักดี
หทัยหมายบ่หน่ายมี กมลมั่นบ่พรั่นพรึง
๏ เพราะรักเธอเสมอใจ เสน่ห์ในพระนลกรึง
ก็เหตุใดไฉนจึง พระนลจากวิบากกรม
๏ ณะวันซึ่งสยุมพร สุรามรสมาคม
พระอินทร์เพลิงวรุณยม ก็อยู่พร้อมพยานตู
๏ ธจับหัตถ์และตรัสว่า จะรักฃ้าจะเอ็นดู
เสน่ห์ล้ำจะค้ำชู พระเมียมิ่งบ่ทิ้งจร
๏ จะหมายออกถนอมเอื้อ มิเมื้อเมื่อมิเมื้อมรณ
จะไว้นางจะวางอร ณะอกใกล้หทัยเธอ
๏ ก็ไหนเล่ากถาสัตย์ เสน่ห์อัตถะอวยเออ
ก็ไหนเล่าจะบำเรอ พระนางน้องลำยองไย
๏ ก็ไหนเล่านิษัธนาถ พระนลคลาดพระนางไคล
ก็ไหนเล่านรินทร์ไอ ศวรรย์ขืนบ่คืนครอง ๚
๑๒ ดำรัสพลางพระทรามไวย พระชลนัยน์ก็ไหลนอง
สำเนียงสั่นประหวั่นคลอง กำศรดฝืนสอื้นองค์
๏ ลำดับนั้นพระนลนิ่ง ตลึงยิ่งพะวงทรง
พระเนตรพิศพระนางพงศ์ พิสุทธ์ผู้พระไภมี
๏ ฉวีฉายก็คลายแสง พระเนตรแดงเพราะโศกี
สดับนางสอางศรี พระไนษัธก็ตรัสไป ๚

พระนลผู้เปนวาหุกตรัสว่า

๑๒ สมรเอยเฉลยความ ก็ตรงตามพระทรามไวย
กถาสัตย์วิบัติไน ยะนุชแจ้งแถลงจริง
๏ ดำเนิรดงดำรงเขท ก็โดยเหตุกลีสิง
เพราะเหตุที่กลีอิง หทัยบ้าสกากล
๏ มไหสูรย์วิบูลย์ทรัพย์ วิบัติสัพพ์ยโศธน
หทัยเผลอมะเมอมนท์ จำนงมั่นพนันจริง
๏ ประจากนุชประดุจม้วย ก็เหตุด้วยกลีสิง
เพราะเหตุมีกลีอิง บำราศนางณะกลางดง
๏ สลายสัตย์สลัดสุข สลดทุกขะท่วมองค์
ประเภทภัยณะไพรพง ก็พานพ้องพระน้องหญิง
๏ วิโยคญาตินิราศวงศ์ ก็เหตุองค์กลีสิง
เพราะเหตุมีกลีอิง กมลมุ่นมะเมอมัว
๏ พระนางเดียวดำเนิรชัฎ อเนกสัตวะพึงกลัว
พยัคฆ์สีหะหมีตัว ก็โตเติบกำเริบใจ
๏ กลีไซร้ก็สิงตู ประจำอยู่บ่คลาดไป
วเนจรณะดอนไพร กลีสึงกระลึงตน
๏ พระนุชสาปกลีไว้ กลีไซร้ก็เสือกสน
ธำรงทุกขะเต็มทน บ่เพี้ยนเพลิงเถกิงผลาญ
๏ ทำงนทุกข์ประทุกถ้วน กลีล้วนจะรำคาญ
ระทวยกรมระทมนาน จะพักผ่อนบ่ห่อนมี
๏ พระนางสาปก็สมจิต ประหนึ่งพิษพระอัคนี
กระลึงกายบ่คลายชี วะป่วนปิ้มประลัยลาญ
๏ ณะบัดนี้กลีไซร้ ก็จากไปบ่ทนทาน
เพราะพี่เพียรจำเนียรกาล กลีพ่ายสลายไป
๏ กษัยโศกวิโยคแล้ว ระลึกแก้วกระลอยใจ
พระนางน้องลำยองไย สมรแม่เสมอตา
๏ จะอยู่เย็นจะเปนสุข ฤท่วมทุกขะเทียมผา
วิมลมาลยะกานดา จะเปลี่ยวเศร้าจะเปล่าทรวง
๏ ก็จึงพี่จำนงมา จะพบหน้าพระนวลยวง
เสน่ห์นุชประดุจดวง กมลพี่บ่มีแปร
๏ คนึงเห็นบ่เว้นว่าง พระนุชนางวิไลยแข
ผิกายพรากบ่จากแด ดำรงในหทัยจง
๏ ก็แต่พี่ฉงนนัก พระนางศักดิสูงทรง
เสงี่ยมนวลสงวนองค์ ไฉนน้องจำนองใน
๏ จะเลือกผัวคำรบสอง จะถูกต้องทำนองไหน
ก็พรตซึ่งสำนึงใจ สลัดแล้วฤกานดา
๏ อเนกทูตดำเนิรดิน ทำนูลสิ้นพระราชา
พระไภมีบุตรีรา ชะเรืองฃัณฑ์วิทรรภ์ศรี
๏ ธอยู่เดียวก็เปลี่ยวนัก เพราะไร้รักสวามี
และบัดนี้พระนารี กำหนดเลือกพระภรรดา
๏ พระผิวทองจะสองผัว ระบอบชั่วระบือชา
ประภามัยประไพตา สลายสัตย์สลัดศีล
๏ ทำนองธรรมบ่จำจิต จำนงคิดจะป่ายปีน
จะกล่าวเทียบก็เปรียบมีน ผิขึ้นบกจะฟกกาย
๏ สดับข้อแสดงฃ่าว ระบือฉาวพระโฉมฉาย
พระภางคาสุรีหมาย จะชมนุชก็รุดมา ๚
๑๒ พระเอวบางศุภางค์ภัทร์ สดับอัตถ์พระราชา
สท้อนอกสทกกา ยะพรึงพรั่นประหวั่นทรวง
๏ ประนมหัตถ์ดำรัสทูล นเรสูรนิษัธหลวง
พระเนตรย้อยยะหยาดดวง กมลตื้นสอื้นพลาง ๚

นางทัมยันตีทูลว่า

๑๒ พระองค์เอยเฉลยตรัส สำแดงอัตถะอางขนาง
ธถือมีดและกรีดนาง ผิเจ็บแสนบ่แม้นคำ
๏ พระโปรดฃ้าและอย่าคิด วิมลจิตบ่จองกรรม
กมลชอลประกอบธรรม ประการโทษบ่ห่อนมี
๏ พระน้องไซร้มิได้หมาย ประดาชายณะภพตรี
ผิผิดองค์พระทรงศรี บุรุษหลายมิหมายปอง
๏ วรุณไซร้วิไลยศักดิ์ วิลาสลักษณะเรืองรอง
ประสงค์ข้าจะพาครอง ณะฟากฟ้าสถาวร
๏ พระเพลิงเพริศประเสริฐทรง สุภาพองค์สุรามร
ประสงค์ฃ้าจะพาจร ณะถิ่นเทวะเขมี
๏ พระยมเล่าเฉลาจิตร เฉลิมฤทธิศักดี
ประสงค์ฃ้าพระนารี ณะถิ่นฐานพระกาลฉาย
๏ พระอินทร์นั้นสวรรค์ราช วโรภาสประไพพราย
ประสงค์ฃ้าจะพาผาย สวรรค์เพื่อถนอมชม
๏ บ่ห่อนสมประสงค์สี่ สุเทพที่จะพาสม
ก็เหตุฃ้าอุรารมณ์ จำนงแน่พระนลเจียว
๏ เพราะฃ้าได้ถวายสัตย์ พระไนษัธพระองค์เดียว
กระลึงในหทัยเหนียว ตระหนักแน่นบ่แคลนคลอน
๏ สลัดสี่สุรารักษ์ สมัคภักดิภูธร
นรินทร์ฤทธิ์อดิศร ก็ย่อมแจ้งประจักษ์ใจ
๏ ณะคราวกัมมะลำบาก พระนลพรากพระนางไป
พระน้องเดียวก็เที่ยวใน พนัสท่องทำนองตน
๏ ก็ถึงแทบวิทรรภ์สู่ ชนกผู้พหลพล
คนึงเธอเสมอชนม์ ก็ใช้พราหมณะตามหา
๏ ตลอดถิ่นนรินทร์เรือง ระบือเมืองอโยธยา
ประสบสารถีนา มะวาหุกก็ฉุกใจ
๏ เพราะพราหมณ์ขับกถากลอน ประดุจสอนประศาสน์ไป
ธยินขับสดับใน ยุบลชัดระหัสบรรพ์
๏ พระตรัสตอบกถาพราหมณ์ คะดีความบ่แผกผัน
ก็แจ้งจิตกนิฐอัน สดับอัตถ์พระตรัสแสดง
๏ จำนงตูจะรู้ชัด พระไนษัธะคำแหง
พระองค์เดียวธเรี่ยวแรง ชำนาญเร่งดุรงค์ไคล
๏ บุรุษอื่นบ่สามารถ จะขับราชรถใน
สถลเถินวิถีไกล ก็ร้อยโยชน์ประมาณมี
๏ มนุษย์อื่นทิวาหนึ่ง บ่มาถึงวิทรรภ์ศรี
อุบายตูจะดูที จะสอบสวนคำณวนใจ
๏ ก็ส่งฃ่าวสยุมพร สโมสรณะกรุงไกร
ฉนี้ดอกพระภูวไนย อุบายฃ้าพระนารี
๏ จะสาบาลถวายนาถ ณะเบื้องบาทพระภูมี
หทัยฃ้าบ่ราคี ถนอมสัตย์ถนัดใจ
๏ พระพายภูตะสากษิน ธเห็นสิ้นณะแดนไตร
และเปนยอดพยานใน พิภพนี้บ่มีปาน
๏ ผิแม้นฃ้าชล่าคิด ประทุฐจิตอนาจาร
พระพายเร่งมล้างปราณ มลายปลิดชิวิตตู
๏ พระอาทิตยะฤทธิ์เรื้อง ดำเนิรเบื้องอำพรผลู
ธเยี่ยมยอดโพยมดู พยานด้วยอุดมมาน
๏ ผิแม้นฃ้าชล่าคิด ประทุฐจิตอนาจาร
ระพีเร่งมล้างปราณ มลายปลิดชิวิตตู
๏ พระจันทร์เนาณะใจนร ยโศธรขจรชู
ประไพฟ้าประภาภู ประพาศหล้ากลาวาน
๏ ผิแม้นฃ้าชล่าคิด ประทุฐจิตอนาจาร
พระจันทร์เร่งมล้างปราณ มลายปลิดชิวิตไป
๏ พระพายทั้งพระอาทิตย์ พระจันทร์ฤทธิกำไร
พระคุณลบณะภพไตร บำรุงโลกนรากร
๏ ธโปรดเปนพยานตู สตรีผู้ทำนูลวอน
สุทัศน์เทพสุธรรมธร สุทักษ์ทิพยาการ
๏ ผิแม้นฃ้าชล่าคิด ประทุฐจิตอนาจาร
บ่ไว้วางมล้างปราณ มลายปลิดชิวิตเทอญ ๚
๑๒ จะกล่าวฝ่ายพระพายฟัง พระพจน์อังคนาเชิญ
สุภาพคำก็จำเริญ วิเศษสัตย์ชงัดใจ
๏ อนิลเปล่งกถาสุน ทราดุลย์ดำรัสไข
สำเนียงลมอุดมไพ เราะเลิศล้ำณะอัมพร

พระพายตรัสว่า

๑๒ พระไนษัธกษัตริย์เอย พระทรามเชยยโศธร
ดำรงสัตย์ดำรัสอร ก็แม่นมั่นฉนั้นเจียว
๏ สำรวมจิตสนิทสุด เสน่ห์นุชบ่ปล่อยเปลียว
มิปิดบังผิครั้งเดียว คนึงชั่วบ่ห่อนเปน
๏ บ่กอบกรรมกระทำอยาบ ผิคิดบาปก็เราเห็น
สงวนองค์พระนงเพ็ญ ประเล่ห์นวลสงวนใจ
๏ ถนอมศีลเสมอทรัพย์ บ่กลอกกลับณะกาลใด
จำนงนางบ่ว่างใน วิมลสัตยะสาทร
๏ สุรารักษ์พิทักษ์องค์ พระนุชทรงสถาวร
บ่เว้นว่างพระนางจร สุเทพสามก็ตามแล
๏ ตลอดสามฉนำเรา ก็ไฝ่เฝ้าบ่ห่างแห
พระนางน้องจะหมองแด ก็มุ่งสัตยะกลัดกรึง
๏ พระนลควรบ่ด่วนคิด แสดงจิตตะหวงหึง
พระนางหมายบ่หน่ายจึง อุบายนุชประดุจฃาน
๏ วิถีทางก็ห่างไกล บ่มีใครวิชัยชาญ
จะเร็วเร่งดุรงค์ปาน พระพายพัดกระพือพง
๏ ประมาณทางก็ร้อยโยชน์ ลำเนาโขดศิขรดง
บ่มีใครผิใช่องค์ พระนลเจ้านิษัธศรี
๏ ทิวาหนึ่งจะถึงเมือง วิทรรภ์เรืองสวัสดี
บุรุษใดมิได้มี จะเทียบเธอเสมอเหมือน
๏ ก็บัดนี้พระนลมา ประสบหน้าพระเพ็ญเดือน
มิควรแท้จะแชเชือน จำนงน้อมถนอมนาง ๚
๑๒ พระพายทรงดำรัสพลัน อมรชั้นสวรรค์พลาง
ก็ซ้องสาธุการกลาง นภากาศประหลาดเสียง
๏ ตระการเกลื่อนผกากลิ่น กระหลบสิ้นณะวังเวียง
นิกรเทพจำเรียง กุสุมทิพย์ธโปรยลง
๏ ลำดับนั้นพระไนษัธ วิบูลย์ฃัติยะเอกองค์
สดับเทพแสดงทรง กำเนิดปรีดิมีมา
๏ หทัยหน่ายก็หายสิ้น เสน่ห์จินตนาหา
พระเนตรพิศพระภรรยา บ่รู้อิ่มอุราเลย
๏ ถวิลรักสมัคมิตร สมานจิตพระทรามเชย
มิคิดคลาดสวาดิ์เคย สวัสดิ์คู่พบูจันทร์
๏ คนึงพลางพระไนษัธ ก็อยิบวัสตระเฉิดฉัน
ธสวมเสื้ออะเคื้อพลัน ระลึกหน้าพระยางู
๏ ก็คืนรูปนิษัธนาถ นรินทร์ราชระบือภู
วิไลยลักษณ์ประจักษ์ดู ประเจิดดุจวิพุธยง
๏ มเหษีสิรีรัตน์ ตระหนักชัดถนัดองค์
พระนางโถมกระโจมทรง กระหวัดรัดพระภัสดา
๏ พระนลเปรมเกษมจิต ธจุมพิตพระชายา
สำผัสนางสอางตา ก็เอิบอิ่มกระหยิ่มมาน
๏ พระกรกอดพระยอดรัก อำไพพักตร์ประภาวาน
พระน้องนางธร้างนาน พระนลรัดกระหวัดองค์
๏ พระตรัสเรียกพระลูกเจ้า พระลูกเฝ้าพระบาทบงสุ์
ธลูบไล้ไชมทรง เสน่ห์สองตระกองศรี
๏ พระนางซบพระพักตรเสือก พระเศียรเกลือกพระสามี
ประเดี๋ยวทรงพระโศกี ประเดี๋ยวส่างพระนางสรวล ๚
๑๒ ลำดับนั้นพระมารดา วิทรรภ์ราชินีหวน
หทัยถึงคนึงนวล พะวงหาธิดาศรี
๏ ธทราบฃ่าวพระไนษัธ วิมลฃัติยะศักดี
เสด็จมาณะธานี ประสบพักตรพระเพ็ญจันทร์
๏ ก็ถ่องทูลวิทรรภ์นาถ นรินทร์ราชระบือธรรม์
พระนลผู้พระเขยขวัญ เสด็จแล้วพระภูมี
๏ พระนางเล่าถวายสิ้น พระภูมินทร์ก็ยินดี
ชนกทั้งพระชนนี ธเบิกบานสราญเลอ
๏ ดำรัสให้พระเขยรัก ธผ่อนพักพระกายเธอ
สนานกายสบายเปรอ เสบยปลดกำศรดทรวง
๏ ณะวันรุ่งก็จุ่งเฃ้า เสด็จเฝ้าชนกหลวง
มไหสูรย์วิบูลย์ปวง สำราญเถิดพระลูกยา ๚
๑๒ ลำดับนั้นพระนลทรง สวัสดิ์องคะเอี่ยมอา
นุภาพแผ้วภิย์โยนา ยกาธิปธราธร
๏ ธเนาในนิเวศน์นาง บ่เหินห่างพระบังอร
ถนอมมาลย์ตระการกร ตระกองกอดพระกานดา
๏ พระนางนิทร์สนิทแนบ เสน่ห์แอบพระราชา
พระเบนเบียดกระเสียดกา ยะนุชน้อมถนอมชม
๏ สเริงราชฤดีเปรม สราญเอมอุรารมณ์
สมานรักสมัคสม สมรมาศเสมอวงศ์
๏ พระเล่าเรื่องณะเบื้องหลัง พระน้องฟังก็พิศวง
บำราศนางณะกลางดง ระกำด้วยกลีดล
๏ ดำเนิรป่าผลาหาร บำรุงปราณก็ขัดสน
ถวิลเจ้าลำเนาพน จะหวนสู่พธูอร
๏ กลีมันก็บันดาล หทัยปานพระเพลิงรอน
จำนงคืนก็ขืนจร ประจากเจ้าลำเภาศรี
๏ เพอินพบประสบองค์ อุรงค์ฤทธิศักดี
ทำงนทุกขะอัคคี เถกิงใกล้จะไหม้งู
๏ ธเรียกพี่ก็รี่ไป ณะกลางไฟบ่ไหม้ตู
และช่วยองค์อุรงค์ชู ชิวิตไว้มิให้ตาย
๏ พระยางูธรู้คุณ ก็ค้ำจุนบ่ห่างหาย
เพราะพิษนาคบ่จากกาย กลีหย่อนกำลังยง
๏ อุรคแปลงพระรูปฃ้า ก็บ่ายหน้าณะแนวพง
พนาลีวิถีจง หทัยเฝ้าพระราชา
๏ นรินทรขจรศักดิ์ บำรุงรักอโยธยา
กระหลบเกียรติ์พระภางคา สุรีแกล้วสกากล
๏ ธทรงทราบวิชาบาศก์ นรินทร์ราชเรืองพล
ก็สอนฃ้าณะกานน ตระหนักแน่บ่แปรผัน
๏ และบัดนี้ก็พี่มา ประสบหน้าพระนวลจันทร์
จำนงน้อมถนอมวรรณ วิลาสผู้พระนารี ๚
๑๒ พระนางยินนรินทร์ตรัส แสดงอัตถะโดยมี
พระนุชนางศุภางคี ก็บรรยาถวายนล
๏ จำเดิมพลัดกษัตริย์พราก ประสายากก็จำจน
ดำรงกายบ่วายชนม์ ประจวบรัฏฐะเจที
๏ พระเจ้าป้าธการุณ คุณาดุลย์สวัสดี
ก็เลี้ยงรักสมัคมี สุภาพจิตสนิทจริง
๏ ธรู้จักและรักฃ้า พระนางป้าธยอดหญิง
และน้องไซร้ก็ได้พิง ประทังทุกขะทุกวัน
๏ มิช้าฃ้าทำนูลลา และคืนมานครขัณฑ์
คนึงองค์พระทรงธรรม์ ก็ใช้พราหมณะตามหา
๏ ก็บัดนี้พระคืนสู่ พระนุชผู้พระชายา
จำนงน้องจะรองบา ทะตราบสิ้นชิวินทรีย์ ๚
๑๒ พระนลโลมพระโฉมเฉลา เฉลิมเยาวะภักดี
พระน้องนางบ่ห่างปรี ดิหรรษาภิรมย์สม
๏ ไชมเธอบำเรอรื่น ชลอชื่นอุราชม
พระราชาสุฃารมณ์ พระชายาสุฃานันท์ ๚

จบสรรคที่ ๒๔ ในนิทานเรื่องพระนล

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ