๕๑

ฝ่ายฮั่นสินขณะเมื่อตั้งทัพอยู่นั้น มิได้มีความประมาทเลย จึงให้หานายทัพนายกองทั้งปวง เข้าไปสั่งกำชับว่า แต่บรรดาเรากะเกณฑ์ราชการไว้ประการใด ก็ให้หมั่นตรวจตรากันอย่าประมาท ถ้าฉุกมีกิจราชการขึ้นอย่าให้เสียการได้ นายทัพนายกองทั้งปวงก็รับคำฮั่นสิน ในขณะนั้นเสียวเก๋าเอาเนื้อความไปบอกแก่ฮั่นสินว่า หลีโจเฉียซึ่งท่านใช้ให้ไปเกลี้ยกล่อมพระเจ้าฌ้อปาอ๋องนั้นกลับมาแล้ว ฮั่นสินได้ฟังดังนี้ก็มีความยินดีนัก จึงสั่งให้หาหลีโจเฉียเข้ามาแล้วไต่ถามกิจราชการในพระเจ้าฌ้อปาอ๋องนั้น หลีโจเฉียก็เล่าเนื้อความทั้งปวงที่ได้ล่อลวงพระเจ้าฌ้อปาอ๋องให้ฮั่นสินฟังทุกประการ 

ฮั่นสินได้ฟังดังนั้นก็ตบมือหัวเราะแล้วว่า ครั้งนี้ซินแสไม่ไปเอง พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็หายกทัพมาไม่ เราก็จะช้าอยู่ไม่ได้จะต้องเลิกทัพไปเอง แล้วฮั่นสินจึงว่าบัดนี้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องยกมาแล้วแต่ยังตั้งไกลอยู่เราจะทำประการใด จึงจะล่อให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องเข้ามาในช่องเขากิวลิสารนี้ได้ หลีโจเฉียได้ฟังฮั่นสินว่าดังนั้นก็หัวเราะ จึงว่าการทั้งนี้ง่วนโซ่ยก็รู้อยู่แล้วแต่จะแกล้งลองใจข้าพเจ้าหรือ ข้าพเจ้าก็จะว่าให้ฟังจะต้องกับดำริท่านหรือไม่ ฮั่นสินได้ฟังหลีโจเฉียว่าก็ยกมือขึ้นคำนับแล้วว่า ซินแสว่าไปเถิดข้าพเจ้าจะฟังดูก่อน หลีโจเฉียว่าอันพระเจ้าฌ้อปาอ๋องนั้นต้องกลอุบายของง่วนโซ่ยเสียทีมา หลายครั้งแล้ว เห็นจะเกรงสติปัญญาอยู่ ถึงครั้งนี้เราจะยกออกไปรบ แล้วจะแกล้งทำเป็นเสียที ถอยมา ก็เห็นพระเจ้าฌ้อปาอ๋องจะหายกตามมาไม่ ข้าพเจ้าคิดว่าเวลาพรุ่งนี้เชิญฮั่นอ๋องให้ไปทูลกับพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง แล้วแกล้งว่ากล่าวให้หยาบช้าให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องโกรธ ถ้าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องโกรธแล้วก็จะไล่ตามฮั่นอ๋องเข้ามา ถึงขุนนางทั้งปวงจะรู้ในกลอุบายของเรา จะทูลทัดทานพระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็เห็นพระเจ้าฌ้อปาอ๋องจะหาฟังไม่ ถ้าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไล่ฮั่นอ๋องเข้ามาแล้ว แลยังหาถึงที่สำคัญของเราไม่จะรออยู่ ข้าพเจ้าจะออกทูลเยาะเย้ยให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องโกรธขึ้นอีก ไล่ตามข้าพเจ้าเข้ามาทางประมาณร้อยสองร้อยเส้นให้จงได้ ซึ่งข้าพเจ้าคิดอ่านอย่างนี้ท่านก็มีสติปัญญาเป็นอันมาก ยังเห็นดีแลชั่วเป็นประการใดบ้าง ฮั่นสินได้ฟังหลีโจเฉียว่าดังนั้นก็ยกมือขึ้นคำนับแล้วว่า ซึ่งซินแสคิดอุบายอย่างนี้ต้องกับความคิดข้าพเจ้าแล้ว ฮั่นสินก็พาหลีโจเฉียเข้าไปหาฮั่นอ๋อง เล่าเนื้อความซึ่งฮั่นสินกับหลีโจเฉียคิดอ่านกันดังนั้นให้ฮั่นอ๋องฟังทุกประการ ฮั่นอ๋องก็เห็นชอบด้วยแล้วจึงว่า ซึ่งท่านจะให้ข้าพเจ้าออกไปพูดกับฌ้อปาอ๋องนั้น เราก็จะมิต้องจัดคนให้คอยป้องกันตัวเราด้วยหรือ ฮั่นสินจึงว่าให้ค้วงฮีกับต่านโฮแต่งตัวขึ้นม้าไปกับท่านเถิด ถึงพระเจ้าฌ้อปาอ๋องจะไล่บุกบั่นจวนตัวเข้ามาเป็นประการใด ก็เห็นค้วงสีกับต่านโฮจะรบพุ่งป้องกันไว้ได้ แล้วฮั่นสินก็ว่ากับฮั่นอ๋องว่า ถ้าท่านเห็นพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไล่ติดตามเข้ามาแล้ว จงแกล้งล่อลวงให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องตามไปข้างเขากิวลิสารทิศตะวันตกให้จงได้ จึงจะต้องในกลอุบายของเรา ฮั่นสินว่าดังนั้นแล้วก็คำนับลาฮั่นอ๋อง กลับมา ณ ค่าย จึงสั่งขุนนางแลนายทัพนายกองทั้งปวงว่า เวลาพรุ่งนี้เช้ามาหาเราให้พร้อมกัน เราจะปรึกษาราชการ ครั้นเวลารุ่งเช้าขุนนางแลนายทัพนายกองทั้งปวงก็เข้าไปหาฮั่นสิน ณ ค่ายพร้อมกัน ฮั่นสินจึงพูดว่า แต่ฮั่นอ๋องยกมาจากโปต๋งทำศึกกับพระเจ้าฌ้อปาอ๋องมาถึงห้าปี ได้รบกันถึงเจ็ดสิบสองครั้ง ทหารผู้ใหญ่ผู้น้อยได้ความลำบากมานักหนา ก็ยังหาสำเร็จราชการแผ่นดินไม่ ครั้นเราเห็นว่าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องอ่อนกำลังลง ทแกล้วทหารก็น้อยกว่าเราถึงสองสามเท่า เราจะได้กระทำศึกกับพระเจ้าฌ้อปาอ๋องครั้งเดียวนี้ก็จะสำเร็จ ท่านทั้งปวงให้เป็นใจเดียวกัน ช่วยกันรบพุ่งให้เต็มมือเถิด ถ้าสำเร็จราชการแล้วเราท่านทั้งปวงก็จะมีความชอบเป็นอันมาก แผ่นดินก็จะได้เป็นสุข ไปช้านาน ซึ่งท่านจะรบครั้งนี้ถ้าเห็นได้ทีก็รีบติดตามไล่บุกบั่นเข้าไปให้ทัพพระเจ้าฌ้อปาอ๋องแตกให้ จงได้ ถ้าเสียทีก็ถอยมารักษาหน้าที่ไว้ให้มั่นคง แล้วให้ดูปลายธงสำคัญให้แม่น ถ้าเห็นธงโบกไปซ้าย ให้เปิดซ้ายเข้า ถ้าโบกขวาให้ขวาเข้า ถ้าเห็นธงหยุดอยู่ให้สงบทหารไว้ จงกำชับกันทุกหมวดทุกกอง อย่าให้เสียกระบวนได้ แล้วฮั่นสินจึงกะเกณฑ์ตามกระบวนพิชัยสงครามจัดเป็นแปดกอง เป็นกองฟ้ากองดินกองน้ำกองลมกองไฟกองฟ้าร้องกองเมฆกองควัน ให้นายทหารคุมทหารเลวไปซุ่มอยู่ทั้งแปดทิศ ให้อ๋องหลินเป็นกองฟ้าคุมทหารเลวสี่หมื่นห้าพัน ทหารเอกสิบหกคน ธงหกสิบสี่คัน ไปซุ่มอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ให้โลก้วนเป็นกองนํ้าคุมทหารเลวสี่หมื่นห้าพัน ทหารเอกสิบหกคน ธงหกสิบสี่คัน ไปซุ่มอยู่ทิศเหนือ ให้โจฉำเป็นกองควันคุมทหารเลวสี่หมื่นห้าพัน ทหารเอกสิบหกคน ธงหกสิบสี่คัน ไปซุ่มอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ให้หยินโป้เป็นกองฟ้าร้องคุมทหารเลวสี่หมื่นห้าพัน ทหารเอกสิบหกคน ธงหกสิบสี่คัน ไปซุ่มอยู่ทิศตะวันออก ให้แพอวดเป็นกองลมคุมทหารเลวสี่หมื่นห้าพัน ทหารเอกสิบหกคน ธงหกสิบสี่คัน ไปซุ่มอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ให้จิวพุนเป็นกองไฟคุมทหารเลวสี่หมื่นห้าพัน ทหารเอกสิบหกคน ธงหกสิบสี่คันไปซุ่มอยู่ทิศใต้ ให้เตียวหยินเป็นกองดินคุมทหารเลวสี่หมื่นห้าพัน ทหารเอกสิบหกคน ธงหกสิบสี่คัน ไปซุ่มอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ให้จ๋งแต๋เป็นกองเมฆคุมทหารเลวสี่หมื่นห้าพัน ทหารเอกสิบหกคน ธงหกสิบสี่คัน ไปซุ่มอยู่ทิศตะวันตก ให้ค้วงฮีกับต่านโฮคุมทหารสิบหมื่นตามป้องกันฮั่นอ๋อง ให้เตียวเหลียงคุมทหารสิบหมื่นเป็นปีกขวา ตันแผงคุมทหารสิบหมื่นเป็นปีกซ้าย หลีแบ๊ถองคุมทหารเลวสองหมื่น ทหารเอกสองคนเป็นพระอาทิตย์ พระจันทร์ จำเอี๋ยงคุมทหารเลวสองหมื่นสองพัน ทหารเอกสิบสองคนเป็นจักรราศี ซาบู๊คุมทหารเลวสองหมื่นแปดพัน ทหารเอกยี่สิบแปดคนเป็นเทพยดายี่สิบแปดองค์ แฮเฮาหยินคุมทหารสองหมื่นเป็นกองแซงนอก ให้เล่าเก๋าคุมทหารห้าพันตรวจตระเวนอยู่หลังทัพหนุน ให้ปักเจียงหนึ่ง ซุยโค้หนึ่ง ฮวยโกคีหนึ่ง เตียวฉองหนึ่ง จองสูหนึ่ง ทั้งห้านายคุมทหารม้าคนละห้าพันเป็นกองแล่น ให้เล่าเตกคุมทหารสามพัน เอาธงไปปักไว้บนเขากิวลิสาร ให้เล่าเก๋าคุมทหารสองหมื่นห้าพัน อยู่รักษาค่ายฮั่นอ๋อง ให้ตันฮีหนึ่ง เล็กแกหนึ่ง ท่วงเต๊กหนึ่ง ยองแบ้หนึ่ง ทั้งสี่นายคุมทหารคนละห้าพันลัดไปตามทางน้อย ไปซุ่มอยู่ริมเมืองชีจี๋วใกล้เมืองแพเสีย แล้วฮั่นสินสั่งว่าถ้าเห็นกองทัพออกจากเมืองแพเสียแล้วเมื่อใด ก็ให้รีบยกทหารเข้าชิงเอาเมืองให้จงได้ จับครอบครัวพระเจ้าฌ้อปาอ๋องมาคุมไว้ แล้วเอาธงสำคัญปักไว้บนกำแพงทั้งสี่ด้าน กวนหยินนั้นฮั่นสินสั่งให้คุมทหารไปล่อพระเจ้าฌ้อปาอ๋องที่ตำบลหวยเค็ก ถ้าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องเข้าไปที่นั้นแล้ว ก็แตกไปตามแม่น้ำโอกั๋ง จึงสั่งให้จงลองขีเอียงฮีหนึ่ง เงาคุนเตาอุ๋ยเอียวบู๊หนึ่ง โจกุ๋นสุมาอ๋องเอ๊กหนึ่ง อีวกุ๋นสุมาลีเซงหนึ่ง สี่คนนี้ให้คุมทหารไปซุ่มอยู่ริมแม่น้ำโอกั๋ง ถ้ารู้ข่าวว่าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องแตกแล้ว ก็ให้ออกสกัดตีจับเอาตัวให้จงได้ ฮั่นสินสั่งดังนั้นแล้วแต่บรรดานายทัพทั้งปวงก็คำนับลาออกไปสิ้น ที่ยังไม่ต้องเกณฑ์ก็นั่งอยู่ แลนายทหารที่ลุกออกไปนั้นปรึกษากันคิดสงสัย จึงชวนกันกลับเข้ามาหาฮั่นสิน อ๋องหลินจึงถามฮั่นสินว่าง่วนโซ่ยกะเกณฑ์ข้าพเจ้าทั้งปวงซึ่งจะให้ซุ่มอยู่นั้นข้าพเจ้าก็แจ้งใจอยู่แล้ว แต่ยังมีความสงสัยอยู่ด้วยภูเขากิวลิสารไกลกันกับเมืองไภก้วนทางถึงพ้นแปดร้อยเส้น บัดนี้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็มีรี้พลถึงห้าสิบหมื่น มาตั้งค่ายอยู่ต้นทางที่ข้าพเจ้าจะยกไปซุ่มอยู่นั้นทั้งสี่ทิศ ง่วนโซ่ยจะให้ข้าพเจ้าทั้งปวงนี้ยกทหารไปทางไหน ท่านจะให้ฮั่นอ๋องออกล่อพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง แลท่านจะยกออกรบกับ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องนั้นที่ไหนขอให้ข้าพเจ้าแจ้งการทั้งนี้ด้วย ฮั่นสินได้ฟังอ๋องหลินถามดังนั้น จึงว่าเราจะชี้แจงที่ทางให้ท่านฟังก่อนจึงจะเข้าใจ อันภูมิฐานที่เขากิวลิสารนี้ เมื่อยังไม่ได้ยกมาเราก็ได้ใช้คนมาทำแผนที่ไปดูแล้ว เราจึงเกณฑ์ท่านให้ไปซุ่มอยู่ ถ้าเราไม่รู้หนทางชำนาญที่ไหนจะหมายเอาชัยชนะพระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ ครั้งนี้หลีโจเฉียลวงพระเจ้าฌ้อปาอ๋องให้ยกมาถึงเมืองไภก้วน เห็นพระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็จะคิดถอยหลังไป แต่เกินมาแล้วก็ต้องจำใจอยู่ ถ้าครั้งนี้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องแตกเราก็เห็นจะหนีกลับเข้าเมืองแพเสียเราก็คิดไว้แล้ว จึงเกณฑ์กองทัพให้ไปซุ่มอยู่ริมเมืองชีจี๋ว จะได้คอยสกัดพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไว้ อันเขากิวลิสารข้างทิศเหนือไกลเมืองชีจี๋วทางประมาณเก้าสิบเส้น ถึงพระเจ้าฌ้อปาอ๋องจะรบพุ่งบุกบั่นเข้าไป ก็เห็นว่ากองทัพเราจะยกไปช่วยกันทัน เราหาให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องเข้าเมืองแพเสียได้ไม่ จะให้เข้าอยู่ในที่ล้อม มิให้ถอยหลังแลรุกเข้ามาได้ จำเพาะจะให้หนีไปทางแม่นํ้าโอกั๋ง ซึ่งเราให้ทหารไปซุ่มอยู่นั้นเห็นจะจับพระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ที่นั้นเป็นมั่นคง แต่บรรดาทัพท่านทั้งปวงซึ่งจะไปซุ่มอยู่นั้น ให้เดินตรงไปทิศตะวันตกแดนเมืองเก๊าเหลงก่อน ถ้าถึงเมืองเก๊าเหลงแล้วจึงวกขึ้นทางใหญ่เฉียงเหนือ อย่าให้พวกกองทัพพระเจ้าฌ้อปาอ๋องเห็น เดินไปตามริมแม่น้ำอุยโหมาเมืองกุ๊ยเต๊กกุ๋นเมืองลีเซียนกวน แต่เมืองลีเซียนกวนมาจนเขากิวลิสารทางประมาณสองร้อยเส้น อันเขากิวลิสารนั้นเดิมเรียกว่าภูเขาเก้ายอด มีเขาเคียงกิวลิสารไปสี่เขา ข้างเหนือเมืองลีเซียนกวนมีภูเขาใหญ่อันหนึ่งชื่อแกถีสัว ข้างฝ่ายตะวันตกเมืองลีเซียนกวนมีเขาอันหนึ่งชื่อโซอ่องสัว เคียงเขาโซอ่องสัวชื่อเขาเซ้งหลีสาร ในหว่างเขาโซอ่องสัวกับเขาเซ้งหลีสารนั้นกว้างอยู่ประมาณสองร้อยเส้น ถ้าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องแตกจะกลับเข้าเมืองแพเสีย เห็นธงของเราไปปักไว้ก็เกรงอยู่หาอาจเข้าชิดไม่ จะหนีขึ้นทางทิศเหนือ ท่านทั้งปวงจงเร่งยกล้อมเข้ามาให้ได้ การทั้งนี้เราคิดไว้เสร็จแล้ว จึงให้ล่อลวงพระเจ้าฌ้อปาอ๋องเข้ามาที่นี่ ท่านทั้งปวงเร่งทำราชการเถิดจะได้ความชอบครั้งนี้แล้ว ทหารทั้งปวงได้ฟังฮั่นสินว่าดังนั้นก็กราบลงแล้วว่าง่วนโซ่ยนี้มีสติปัญญาลึกซึ้ง รู้ในกลอุบายหาผู้เสมอมิได้ ถึงคนแต่ก่อนที่ลือมาว่าดีหาเสมอท่านไม่ ความคิดท่านดังเทพยดาทีเดียว ทหารทั้งปวงก็คำนับลาฮั่นสินออกไปทำตามสั่งทุกประการ ครั้นฮั่นสินกะเกณฑ์นายทัพนายกองทั้งปวงสิ้นแล้ว นายทหารผู้หนึ่งจึงร้องเข้าไปว่า ง่วนโซ่ยเห็นข้าพเจ้าเหมือนไม้ท่อนก้อนดินหรือ จึงหากะเกณฑ์ข้าพเจ้าเข้าในกระบวนทัพไม่ ฮั่นสินได้ฟังดังนั้น แลไปดูเห็นห้วนโก้ยซึ่งเป็นบู๊เอี๋ยงหำที่ฃุนนางผู้ใหญ่ ฮั่นสินจึงว่าจะได้ดูหมิ่นท่านดังนั้นหามิได้ ท่านอย่าวิตกเลย ยังมีการสำคัญอยู่แห่งหนึ่งยิ่งกว่าการทั้งปวงที่เรากะเกณฑ์ไปอีก แต่ยังเกรงอยู่เกลือกว่าท่านจะทำมิได้ ถ้าเสียราชการแล้วก็เหมือนแกล้งฆ่าชีวิตคนเสียสิ้นทั้งร้อยหมื่น ความติเตียนก็จะมีแกเราว่าหามีนัยน์ตาไม่ แต่ท่านยังจะทำได้แล้วหรือ ห้วนโก้ยจึงว่าง่วนโซ่ยจะให้ข้าพเจ้าทำประการใด ข้าพเจ้าก็จะทำให้สำเร็จ ถ้าไม่ได้ราชการก็ให้ท่านเอาโทษข้าพเจ้าตามอาชญาศึกเถิด ข้าพเจ้าไม่เสียดายชีวิตเลย ฮั่นสินจึงว่าแต่บรรดานายทหารทั้งปวงก็ไปพร้อมก้นอยู่ ณ เขากิวลิสารแล้ว ตัวท่านจงเอาธงสำคัญของเราขึ้นไปถือไว้บนภูเขากิวลิสาร เอาทหารไปสามพันคอยรักษาธงไว้ให้ได้ ถ้าเห็นพระเจ้าฌ้อปาอ๋องตีไปข้างด้านไหนก็ให้โบกธงไปข้างนั้น การสิ่งนี้ยากนัก ท่านจงพิเคราะห์ดูให้ดีให้รู้ว่าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไปข้างไหนให้แน่ ห้วนโก้ยจึงถามฮั่นสินว่า ถ้าเป็นเวลากลางวันข้าพเจ้าจะโบกธงทหารทั้งปวงก็จะเห็น ถ้าเป็นเวลากลางคืน ง่วนโซ่ยจะให้ข้าพเจ้าทำประการใดเล่า ฮั่นสินจึงว่าถ้าเป็นเวลากลางคืนท่านจงเอาโคมผูกไว้ที่ธงเป็นสำคัญ ถ้าเห็นคนสงบอยู่ก็ให้หยุดโคมไว้ แต่บรรดาพวกเราถ้าเห็นโคมหยุดก็จะหยุดอยู่ ที่ยังตื่นวุ่นวายไปก็เป็นพวกข้าศึก ท่านจงกำหนดดูอย่าได้หมิ่นประมาทเลย ฮั่นสินสั่งกำชับห้วนโก้ยเป็นหลายครั้ง ห้วนโก้ยก็รับคำฮั่นสินแล้วคุมทหารสามพันขึ้นไปถือธงอยู่บนเขากิวลิสาร แต่บรรดาทหารทั้งปวงก็ยกไปตามฮั่นสินสั่ง ยังแต่กองทัพฮั่นอ๋องกับฮั่นสินก็ยกไปตั้งอยู่ ณ เขากิวลิสาร

ฝ่ายพระเจ้าฌ้อปาอ๋องให้ทหารมาสืบราชการในกองทัพฮั่นอ๋อง รู้ข่าวว่าทหารฮั่นอ๋องเข้มแข็งมากมายนัก จึงให้หากี๋โป้แลนายทหารทั้งปวงเข้าจัดกระบวนทัพใหม่ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องคุมทหารเป็นกองหน้า ให้จี๋วลันกับจงลิมวยคุมทหารเป็นกองหนุน ให้หงอจูกี๋คุมทหารอยู่รักษาค่าย ครั้นจัดแจงทแกล้วทหารพร้อมแล้ว พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็แต่งตัวตามกระบวนศึก ถือทวนขึ้นม้าโอจือแบ๊นำหน้าทหารทั้งปวงออกจากค่าย ครั้นมาใกล้ตำบลเขากิวลิสารทางประมาณสามร้อยเส้น ให้สงบทหารอยู่ จึงให้ม้าใช้ไปบอกฮั่นอ๋องว่าให้ยกทหารออกมารบกันให้ถึงแพ้แลชนะในครั้งเดียวนี้เถิด อย่าให้ฮั่นอ๋องฮั่นสินทำเป็นกลอุบายหลบหลีกเหมือนแต่ก่อน ให้รบกันโดยตรง ถ้าทำดังแต่ก่อนแล้วก็มิใช่ชาติผู้ชาย ฮั่นอ๋องได้ฟังดังนั้น ก็แต่งตัวใส่เกราะถือกระบี่ขึ้นม้าออกไปหน้าทหารทั้งปวง ค้วงฮีกับต่านโฮถือทวนขับม้าเคียงฮั่นอ๋องออกไปทั้งสองข้าง

พระเจ้าฌ้อปาอ๋องยืนม้าอยู่หน้าทหาร เห็นฮั่นอ๋องขับม้าออกมาจึงร้องว่าแก่ฮั่นอ๋องว่า แต่เรากระทำศึกกันมาถึงห้าปีแล้ว เรายังมิได้เห็นตัวออกมารบพุ่งให้เราเห็นฝีมือเลย แลบัดนี้ตัวยกทัพใหญ่มาจะทำศึกกับเราให้ถึงแพ้แลชนะ เรามีความยินดีนักด้วยจะได้สำเร็จการเสีย ทหารทั้งปวงจะได้อยู่เย็นเป็นสุข ครั้งนี้ตัวก็อย่าคิดย่อท้อทำหลบหลีกเหมือนแต่ก่อนเลย เสียแรงเกิดมาเป็นชายมีชื่อปรากฏอยู่ด้วยกันแล้ว เรามารบกันตัวต่อตัว ให้เห็นฝีมือปรากฏไว้แก่ทหารทั้งปวงสักครั้งหนึ่งเถิด ฮั่นอ๋องได้ฟังพระเจ้าฌ้อปาอ๋องว่าดังนั้นก็หัวเราะ จึงร้องว่าแก่พระเจ้าฌ้อปาอ๋องว่า อันประเพณีแต่ก่อนนั้นถึงผู้ใดจะมีกำลังแลฝีมือเข้มแข็ง ก็หาสรรเสริญว่าดีกว่าผู้มีสติปัญญาไม่ ตัวท่านเป็นคนโทโสมากไม่มีความคิด กระทำศึกด้วยโวหาร จึงพารี้พลมาล้มตายเสียเป็นอันมาก หัวเมืองทั้งปวงก็ชวนกันติเตียนท่านอยู่เนือง ๆ ครั้นเราจะกระทำศึกกับท่านเหมือนท่านว่านั้น เราก็จะพลอยเป็นคนไม่มีความคิดโมโหมากเหมือนท่าน คนทั้งปวงก็จะพลอยติเตียนเราด้วยเรากลัวความอายนัก แล้วประการหนึ่งถ้าเป็นคนโทโสมากเหมือนตัวท่านฉะนี้ก็มักตายหาดีไม่

พระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ฟังฮั่นอ๋องว่าดังนั้นก็โกรธ ขับม้าเข้าไปเอาทวนแทงฮั่นอ๋อง ค้วงฮีกับต่านโฮก็เอาอาวุธเข้ารับทวนพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไว้ได้ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็เข้ารบกับค้วงฮีกับต่านโฮ ฮั่นอ๋องก็ชักม้าถอยเข้ามา ทหารเลวทั้งสองฝ่ายต่างคนก็ถอยหลังห่างออกไปข้างละห้าสิบก้าว ยืนดูพระเจ้าฌ้อปาอ๋องกับค้วงฮีต่านโฮรบกัน ขณะเมื่อพระเจ้าฌ้อปาอ๋องกับค้วงฮีต่านโฮรบกันครั้งนั้น ดูว่องไวเข้มแข็งขึ้นกว่าเก่าทั้งสองข้าง รบกันได้ห้าสิบเพลง ยังหาผู้ใดเพลี่ยงพลํ้าลงไม่ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องร้องตวาดเสียงดังฟ้าร้อง ม้าค้วงฮีกับต่านโฮตกใจถอยหลังไปหลายก้าว แต่ม้าต่านโฮเสียทีขวางตัวไป

พระเจ้าฌ้อปาอ๋องขับม้าสะอึกเข้าไป เอาทวนแทงถูกสีข้างต่านโฮตลอดไปตกม้าตาย ค้วงฮีขับม้าเข้าไปช่วยต่านโฮ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องเอาทวนแทงค้วงฮี ๆ หลบลงทัน ทวนถูกหมวกกระเด็นลงดิน ผมค้วงฮีหลุดกระจายอยู่ ค้วงฮีเห็นจะสู้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องมิได้ ก็ขับม้าเข้าปนอยู่กับทหารทั้งปวง พระเจ้าฌ้อปาอ๋องเห็นได้ทีก็รับม้าไล่ตามค้วงฮีเข้าไป

ฝ่ายจำเอี๋ยงกับตันบู จึงขับม้ารำทวนเข้ารบกั้นหน้าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไว้ พระเจ้าฌ้อปาอ๋อง ก็รำทวนเข้าไปจะรบด้วยจำเอี๋ยงกับตันบู พอแลไปเห็นฮั่นอ๋องยืนม้าอยู่ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องคิดแค้นฮั่นอ๋องนักก็ผละจากจำเอี๋ยงตันบู ควบม้าตรงเข้าไปไล่แทงฮั่นอ๋อง แฮเฮาหยินก็เอาทวนปัดทวนพระเจ้าฌ้อปาอ๋องเสียได้ ฮั่นอ๋องกับแฮเฮาหยินควบม้าหนีพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไป พระเจ้าฌ้อปาอ๋องขับม้าพาทหารไล่ตามฮั่นอ๋องไป ถึงชายป่าทางประมาณห้าสิบเส้น เห็นทหารฮั่นอ๋องแซงออกมาทั้งสี่ด้าน กี๋โป้จึงทูลพระเจ้าฌ้อปาอ๋องว่า พระองค์อย่าเพ่อรีบติดตามฮั่นอ๋องเข้าไปนัก ข้าพเจ้าเห็นทหารฮั่นอ๋องล้อมเข้ามาเป็นอันมาก ดีร้ายฮั่นอ๋องจะแกล้งล่อให้พระองค์ติดตามเข้าไป หมายจะเอาทัพซุ่มออกสกัดไว้มั่นคง

พระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ฟังดังนั้นก็เห็นชอบด้วย จึงรอม้าหยุดทหารอยู่ หลีโจเฉียจึงขับม้าออกไปหน้าทหารแล้วร้องว่าแก่พระเจ้าฌ้อปาอ๋องว่า เมื่อข้าพเจ้าไปสามิภักดิ์ทำราชการอยู่ด้วยท่าน ๆ มีความกรุณาชุบเลี้ยงข้าพเจ้าเป็นที่ปรึกษาผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าจะบอกกลอุบายประการใดท่านก็นับถือเชื่อฟังข้าพเจ้า คุณท่านหาที่สุดมิได้ ครั้งนี้ข้าพเจ้าเห็นท่านหลงเข้ามาในล้อมแล้วก็ให้คิดสงสารกลัวจะสิ้นอายุเสีย ท่านก็อย่าถือทิฐิเลยจงลงจากม้าเข้ามาหาข้าพเจ้า ๆ จะพาท่านไปขอโทษฮั่นอ๋องขอชีวิตท่านไว้ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ฟังหลีโจเฉียว่าดังนั้นก็โกรธ จึงร้องว่ามึงลวงกูให้ยกกองทัพมา กูพาซื่อเสียกลอุบายมึงครั้งนี้แล้ว กูก็มีความแค้นอยู่เป็นอันมาก หมายจะฟันมึงเสียให้ได้สักร้อยท่อน บัดนี้มึงกลับมาเยาะเย้ยอีกหรือ หลีโจเฉียได้ฟังพระเจ้าฌ้อปาอ๋องว่าดังนั้น ก็แกล้งตบมือ หัวเราะแล้วขับม้ารำอาวุธอยู่

พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็ยิ่งมีความโกรธนัก ขับม้าตรงเข้ามาหมายจะฆ่าหลีโจเฉีย ๆ ก็ขับม้าหนีพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง แล้วหัวเราะพลางแกล้งให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องโกรธ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องเป็นคนโทโสมาก มิได้หยุดยั้งตรึกตรองประการใด ก็รีบขับม้าไล่ติดตามหลีโจเฉียไปหมายจะฆ่าหลีโจเฉียให้ได้ หลีโจเฉียหนีพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไปประมาณทางร้อยเส้น ครั้นเห็นพระเจ้าฌ้อปาอ๋องล่วงเข้าไปถึงในที่ล้อมแล้ว ก็ชักม้าออกไปข้างทางหว่างภูเขานั้น

ฝ่ายพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไล่ตามหลีโจเฉียเข้าไปถึงช่องภูเขากิวลิสาร แลไปมิได้เห็นหลีโจเฉีย เห็นทหารฮั่นอ๋องล้อมเข้ามาทั้งสี่ด้าน คิดเฉลียวใจก็ชักม้าหยุดอยู่ พอทหารพระเจ้าฌ้อปาอ๋องตามไปทันถึงพร้อมกันเข้า พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็จัดเป็นหมวดเป็นกองปีกซ้ายขวาหน้าหลัง จัดยังมิทันสำเร็จทหารฮั่นอ๋องก็ตีระดมเข้ามา ไล่ฆ่าฟันทหารพระเจ้าฌ้อปาอ๋องแตกกระจายออกไป พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็ชักม้าจะถอยกลับมาค่าย พอได้ยินเสียงจุดประทัดสัญญาณขึ้น แลไปเห็นทหารฮั่นอ๋องล้อมเข้ามาอีกทั้งแปดทิศ จงลิมวยกับกี๋โป้แลทหารพระเจ้าฌ้อปาอ๋องทั้งปวง ก็ออกรบพุ่งป้องกันพระเจ้าฌ้อปาอ๋องอยู่ทั้งแปดด้าน หมายจะแหกออกไปให้ได้

ฝ่ายจำเอี๋ยงกับตันบูค้วงฮีทั้งสามนาย ก็ยกทหารหนุนแน่นเข้าไปอีก ทหารพระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็รบหักออกไปมิได้ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องเห็นทหารฮั่นอ๋องล้อมเข้ามามากมายนัก ก็มิได้หมายที่จะรบพุ่งเอาชัยชนะ คิดแต่จะแหกออกไปให้ได้จึงขับม้าออกหน้าทหารทั้งปวง ไล่ฆ่าฟันทหารฮั่นอ๋องเป็นอลหม่าน ทหารฮั่นอ๋องทานกำลังพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไม่ได้ ก็แตกกระจัดกระจายออกไป พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็พาทหารทั้งปวงออกจากที่ล้อมได้ ฮั่นสินก็ยกทัพใหญ่ตีด้านหน้าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องไว้ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็ยิ่งมีความโกรธนัก กัดฟันขับม้าไล่บุกบันเอาทหารฮั่นสินด้วยสามารถ ทหารฮั่นสินก็รบพุ่งฆ่าฟันทหารพระเจ้าฌ้อปาอ๋องล้มตายเป็นอันมาก

ฝ่ายจี๋วลันซึ่งคุมทหารเป็นกองหนุน ครั้นรู้ว่าพระเจ้าฌ้อปาอ๋องเข้าอยู่ในที่ล้อมก็ขับทหารตีเข้าไปช่วยพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง ๆ เห็นดังนั้น ก็รีบฟันฝ่ากองทัพฮั่นสินออกไป พระเจ้าฌ้อปาอ๋องกับทหารที่เหลือตายนั้นประมาณสามหมื่นเศษพากันแหกออกไปได้ ก็รีบมา ณ ค่าย พอเวลาพลบค่ำหงอจูกี๋รู้ก็ออกไปคอยรับพระเจ้าฌ้อปาอ๋องอยู่นอกค่าย ครั้นพระเจ้าฌ้อปาอ๋องเข้าไปถึงค่าย นางหงอกี๋ก็ออกไปหาพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง ทูลถามด้วยข้อราชการต่าง ๆ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็เล่าให้นางหงอกี๋ฟังตามซึ่งได้รบพุ่งนั้น แล้วพระเจ้าฌ้อปาอ๋องจึงว่าฮั่นอ๋องยกทัพมาครังนี้มีกำลังศึกมากกว่ามากนัก ซึ่งเราขืนรบพุ่งไปก็เห็นจะหาเอาชัยชนะได้ไม่ เวลาค่ำวันนี้จำจะถอยทัพกลับไปเมืองแพเสีย กะเกณฑ์กองทัพหัวเมืองทั้งปวงบรรจบเข้าให้พร้อมกันจึงยกกลับมาใหม่ หงอจูกี๋จึงทูลพระเจ้าฌ้อปาอ๋องว่าข้าพเจ้าได้ยินข่าวว่าทัพฮั่นอ๋องยกไปกองหนึ่ง ตีเอาเมืองแพเสียได้จับครอบครัวไว้ได้สิ้นเข้าตั้งรักษาเมืองมั่นคงอยู่ ถึงเราจะยกไปก็เห็นจะป่วยการเสียเปล่า ครั้งนี้ข้าพเจ้าคิดว่าคนที่เหลือนั้นประมาณสามหมื่น กับคนที่อยู่รักษาค่ายนี้สองหมื่นเป็นห้าหมื่นด้วยกัน ยกหนีข้ามแม่น้ำโอกั๋งไปตั้งมั่นอยู่ ณ เมืองเกงฌ้อก่อน ถ้าซ่องสุมผู้คนได้มากขึ้นแล้วจึงยกมากระทำศึกไปใหม่

พระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ฟังหงอจูกี๋ว่าดังนั้น จึงว่าซึ่งเมืองแพเสียเสียแก่ข้าศึกแล้วเราก็ยังมิได้เห็นแก่ตาเป็นแต่ข่าวคำบอกเล่า ซึ่งจะถือว่าเอาเป็นแน่ยังไม่ได้ก่อน แล้วประการหนึ่งครอบครัวเรายังตกอยู่ในเมืองแพเสียนั้นสิ้น ซึ่งจะด่วนทิ้งเมืองเสียยังไม่ได้ จำจะยกทัพไปให้ถึง ถ้าได้ครอบครัวแล้วเราจะข้ามไปอยู่ ณ เมืองฌ้อตั๋งเหลากุ๋น ข้าวปลาอาหารก็บริบูรณ์ เราจะได้คิดการได้สะดวก ขุนนางทั้งปวงได้ฟังพระเจ้าฌ้อปาอ๋องตรัสดังนั้นก็เห็นชอบด้วย พระเจ้าฌ้อปาอ๋องจึงสั่งทหารทั้งปวงให้กินข้าวปลาอาหารเสียให้พร้อมกัน เราจะยกกลับไป ณ เมืองแพเสียแต่ในเวลาค่ำวันนี้ ทหารทั้งปวงก็รีบหุงข้าวปลาอาหารกินแล้ว จัดแจงหาบคอนสำเร็จพอเวลาดึกสงัด

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ