พระบรมราชาธิบาย ว่าด้วยลายจีนซึ่งเขียนเครื่องถ้วยกระเบื้องกังไส

บรรดาเครื่องภาชนะต่าง ๆ ที่ทำด้วยกระเบื้องกังไส มีลายเขียนครามก็ดี สีก็ดี บรรดาที่ทำในเมืองจีนแล้ว ย่อมมีเค้ามูลเป็นที่ตั้งทั้งสิ้น ตามคำกล่าวมาว่า มีพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่ง ทรงพระราชดำริที่จะผูกลายสำหรับเขียนภาชนะต่าง ๆ จึงให้ประชุมนักปราชญ์ ซึ่งมีความรู้แลสติปัญญา คิดผูกลายขึ้นให้อ่านออกเป็นการแสดงสวัสดิมงคล ลายซึ่งนักปราชญ์ทั้งหลายได้คิดขึ้นนั้นต่างๆกัน นับด้วยร้อยเป็นอันมาก เพราะฉะนั้น เครื่องภาชนะอันมาแต่เมืองจีน จึงมีเป็นลายอย่างหนึ่งเหมือนกันมากๆ ถึงว่าจะต่างโดยวิธีวางหย่อมวางระยะ ก็ยังสังเกตได้เป็นพวกๆ เช่น ลายภาพ ฮก ลก ซิ่ว ลายโป๊ยเซียนเป็นต้น หาได้เขียนถ่ายอย่างจากของที่เป็นอยู่จริงอย่างเช่นฝรั่ง ฤๅเขียนตามกระบวนลายซึ่งเป็นความคิดของช่างผูกขึ้น เช่นลายกระหนก ลายทรงข้าวบิณฑ์ ซึ่งออกจากใบไม้ดอกไม้อย่างไทยเราเขียนไม่ ลายที่จีนเขียนโดยลำพังตัวเองแล้วย่อมเป็นนิมิตมงคล ตามที่นักปราชญ์ทั้งหลายได้ผูกขึ้นไว้แล้วทั้งสิ้น ยกเสียแต่ลายซึ่งทำตามตัวอย่าง เช่นเทพ เทพนม นรสิงห์ เป็นต้น ซึ่งเราเขียนสั่งออกไป ฤๅเป็นลายใหม่ ๆ ซึ่งผู้เขียนเป็นแต่ช่างเขียนสามัญ คิดจะยักลายให้แปลกไปไม่รู้เค้ามูล จะเขียนขึ้นโดยไม่มีนิมิตมงคลบ้าง ของเช่นนี้โดยจะมีก็น้อย แลย่อมเป็นของใหม่ๆ ทั้งสิ้น

ในลายซึ่งนักปราชญ์ได้ผูกขึ้นเหล่านั้น ย่อมประกอบด้วยนิมิตมงคล ใน ๓ อย่าง คือ ฮก ๑ ลก ๑ ซิ่ว ๑ เป็นพื้นทั่วไปโดยมาก นอกจากฮก ลก ซิ่ว มีมงคลอื่นเจือปนอีกนั้น คือ ในกระบวนโป๊ยเซียน คือ เทวดาผู้สำเร็จทั้งแปด มงคลแปด ยันต์แปด แลประกอบด้วยธาตุทั้งหลาย คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง ฤๅไม้ด้วยอีกอย่างหนึ่งบ้าง ผู้ซึ่งชอบตรวจดูลายของจีนที่เขียนในภาชนะต่าง ๆ ควรจะสังเกตดูตามแม่ลายฤๅที่ตั้งแห่งนิมิตมงคล ซึ่งเขาผูกขึ้นไว้ อันจะได้กล่าวโดยสังเขป พอเป็นตัวอย่าง ดังจะว่าต่อไปนี้

อะไรเป็น ฮก ลก ซิ่ว

ฮก คือ วาสนา

ลก ความบริบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ แลบริวารสมบัติ

ซิ่ว ความยั่งยืน

ว่าด้วยต้นคิดสิ่งซึ่งพึงปรารถนา ๓ ประการนี้ จะเกิดขึ้นที่ใด เมื่อใด

ธรรมที่พึงปรารถนา ๓ ประการนี้ ได้เกิดนึกกันขึ้นเมื่อใดที่ใด เห็นว่าจะเกิดขึ้นในหมู่ประชุมชน ซึ่งอยู่ฝ่ายเหนือประเทศอินเดียต่อแดนจีนนั้นก่อน เพราะอาจจะเทียบได้ในระหว่างคติจีน แลคติศาสนาพราหมณ์ จะยกแต่อย่างเดียวพอเป็นเอกเทศว่า ตามลัทธิข้างอินเดียซึ่งมาในคัมภีร์เวท คนที่อยู่สันโดษไม่เปิดช่องให้มีบุตร ผู้นั้นเป็นชนบาป ผู้ใดไม่มีบุตรซึ่งสำหรับจะเซ่นสรวงส่งสักการะเมื่อเวลาตาย ผู้นั้นเป็นคนอาภัพ เพราะฉะนั้น ผู้ใดไม่มีบุตร ต้องรับผู้ใดผู้หนึ่งเป็นบุตรเพื่อจะได้ส่งสักการะศพเมื่อเวลาตัวตายดังนี้ การที่ถือเช่นนี้ ฝ่ายจีนถือเหมือนกัน ไม่คลาดเคลื่อนเลย จึงต้องเห็นว่าเป็นลัทธิเดียวกัน เกิดขึ้นในฝ่ายเหนือประเทศอินเดียแลประเทศจีน แล้วถือตามกันแพร่หลายลงมาจนถึงชายทะเล ทั้ง ๒ ประเทศ

ข้อซึ่งว่าเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น ย่อมถือกันว่า เป็นธรรมเนียมมีมาแต่สร้างโลก แต่การสร้างโลกของชาติใดประเทศใด ย่อมกล่าวต่างๆ กัน แต่เมื่อจะคิดเอาส่วนข้างแน่นอนที่สุด ฮก ลก ซิ่ว นี้ คงเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า ๖,๐๐๐ปี เพราะพงศาวดารจีนที่ได้จดหมายไว้ มีเกินกว่ากำหนด ๖,๐๐๐ ปี แลคงจะเป็นเวลาพร้อมกับพระอิศวรพระนารายณ์ ตามที่มีเรื่องราวของสองประเทศนั้นยันถึงกัน

เทียบ ฮก ลก ซิ่ว ด้วยพระเป็นเจ้าทั้ง ๓

ฮก ลก ซิ่ว นี้ ถ้าจะเทียบด้วยพระเป็นเจ้าทั้ง ๓ ซึ่งนับถือกันในประเทศอินเดีย ก็เกือบจะลงรูปกันได้ คือ ตามในคัมภีร์มหาภารตะย่อมกล่าวยกย่องพระนารายณ์เป็นใหญ่ หาใช่พระอิศวรเป็นใหญ่ เช่นเราเข้าใจกันไม่ การที่ถือว่าผู้ใดเป็นใหญ่ เห็นจะเป็นไปตามหมู่ลัทธิต่างกัน ฤๅความปรารถนาของคนจำพวกนั้นต่างกัน พระนารายณ์เป็นพระเดชสำหรับที่สังหารผลาญโลก จะทำคุณให้แก่โลกนี้ก็ด้วยปราบปรามสัตว์บาปหยาบคาย จึงนับว่าเป็นผู้มีอานุภาพ มีวาสนาใหญ่ พระนารายณ์มีครุฑเป็นสิริประจำธงหน้างอนรถ ฤๅจะว่าทรงครุฑก็ตาม ถ้าหากว่า พวกจีนจะแปลคำ ฮก นี้ ว่าเป็นพระนารายณ์ ก็น่าจะเป็นได้ เพราะฮกมีอาการคล้ายพระนารายณ ส่วนสิริฤๅพาหนะเป็นค้างคาว ค้างคาว เป็นสัตว์ประหลาดอย่างหนึ่ง ซึ่งมีขามีแขนเหมือนสัตว์สี่เท้า แต่มีปีก จะว่าเป็นเครื่องหมายแห่งครุฑเลือนๆ มา ก็ชอบกลอยู่

ส่วนพระอิศวรนั้น ข้างฝ่ายอินเดียถือว่าเป็นผู้ให้โภคสมบัติแลบริวารสมบัติแก่มนุษย์ทั้งปวง จึงเรียกว่า พระคุณ พระอิศวรมีโคเป็นพาหนะ ส่วน ลก ข้างจีนนั้นเล่า เป็นที่ตั้งแต่งโภคสมบัติแลบริวารสมบัติ มีกวางอันเป็นสัตว์สี่เท้าเป็นพาหนะทำนองเดียวกัน

พรหม ตามลัทธิข้างอินเดีย ใกล้ข้างเทวดาน้อยกว่าใกล้ข้างพระ พรหมย่อมเกิดขึ้นจากฤๅษีต่างๆ ด้วยความประพฤติดี มีอายุอยู่ยืนนานจนเลยเป็นพรหมไป ฤๅจุติไปเป็นพรหม ๆ มีหงส์ฤๅห่านเป็นพาหนะ ข้างฝ่ายจีน ซิ่ว เป็นผู้มีอายุยืนอย่างเดียวกัน สัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องหมายสำหรับ ซิ่ว คือนกดำ เป็นสัตว์สองเท้าคล้ายกับห่าน

การที่ยกขึ้นเทียบกันนี้ เป็นว่าโดยความคิดเทียบเคียงกันดู เพื่อจะให้เห็นว่า ธรรมที่ยกขึ้นว่าพึงปรารถนา ๓ ประการมาจากที่ใด แต่จะหาหลักอ้างอิงให้แน่นอนว่าเป็นครูเดียวกัน ยังหาเคยพบไม่ เพราะฉะนั้น การที่เทียบนี้ ต้องนับว่าเป็นแต่ลองเทียบดูเท่านั้น

ฮก ลก ซิ่ว โดยนาม

ฮก ลก ซิ่ว ถ้าจะไม่ตั้งรูปอะไรเป็นที่หมาย กล่าวแต่กิริยาของความเป็นไปแห่งอาการ ๓ อย่าง ซึ่งเป็นนามธรรมแล้วก็เป็นดังนี้

ฮก คือวาสนา ได้แก่ความเป็นใหญ่ เป็นอิสระ ฤๅมียศบรรดาศักดิ์ อาจจะให้การทั้งปวงสำเร็จได้ด้วยอานุภาพ

ลก ความบริบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ คือ ประกอบพร้อมด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค แก้วแหวนเงินทอง แลบริบูรณ์ด้วยบริวารสมบัติ มีบุตร ภรรยา ญาติมิตร คนใช้สอย เป็นต้น

ซิ่ว เป็นผู้มีอายุยืนนาน เพราะไม่มีโรค เป็นต้น

ธรรม ๓ ประการนี้ ย่อมเป็นที่ปรารถนาของมนุษย์ทั้งปวง เมื่อผู้ใดประกอบด้วยธรรมอย่างใด ก็นับว่าผู้นั้นเป็นฮก เป็นลก เป็นซิ่ว ฤๅผู้ใดประกอบพร้อมทั้ง ๓ ประการ ก็กล่าวว่าผู้นั้นประกอบพร้อมทั้งฮก ทั้งลก ทั้งซิ่ว ดีจริงหนอ ดังนี้ เพราะเหตุฉะนั้น ฮก ลก ซิ่ว จึงนับว่าเป็นมงคล เป็นที่ตั้งแห่งการซึ่งจะอำนวยพรแก่กัน

แสดง ฮก ลก ซิ่ว โดยรูปมนุษย์

ฮก ลก ซิ่ว นี้ เมื่อจะกระทำนิมิตเครื่องหมาย ย่อมจะทำได้หลายอย่างหลายประการ เมื่อจะแสดงเครื่องหมายโดยรูปมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ประเสริฐกว่าสรรพสัตว์ทั้งปวง ข้างจีนย่อมทำรูปดังนี้

ฮก เป็นรูปเจ้าฤๅขุนนางสวมหมวก มีใบหูกางออกไป ๒ ข้าง มีมือถือยู่อี่ แสดงวาสนา

ลก เป็นรูปเศรษฐี สวมหมวกมีเส้าข้างหลังสูง มีผ้าคลุมลงไปเบื้องหลัง แสดงโภคสมบัติ มีมืออุ้มเด็ก แสดงบริวารสมบัติ

ซิ่ว เป็นรูปคนแก่ ถือไม้เท้ามือหนึ่ง ถือผลโถมือหนึ่ง แสดงความเป็นผู้มีอายุยืนแลมั่นคง

แสดง ฮก ลก ซิ่ว โดยรูปสัตว์

ฮก ใช้หมายด้วยค้างคาว ซึ่งเป็นสัตว์มีแขนมีขาเป็นสี่เท้า แต่มีปีก เป็นสัตว์ซึ่งไม่รู้จักลงยังแผ่นดินเหมือนนกทั้งปวง เป็นที่หมายแห่งวาสนา

ลก ใช้รูปกวางดาวซึ่งมีดวงขาว ๆ พร้อมไปตามตัว เปรียบดังกระแปะ แสดงโภคสมบัติ

ซิ่ว หมายด้วยนกดำ ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่มีผู้ใดได้เห็นตายอยู่ในที่แห่งใด เช่นกับเราพูดกันว่า กาไม่รู้จักตาย นอกจากมีผู้ทำอันตราย เพราะไม่ได้เห็นศพกาตายอยู่ในที่แห่งใด

แสดง ฮก ลก ซิ่ว โดยเครื่องประดับท้องฟ้า

เมื่อจะแสดง ฮก ลก ซิ่ว โดยเอาเครื่องประดับในท้องฟ้าเป็นนิมิต

ฮก ใช้รูปพระอาทิตย์ เพราะมีอานุภาพ อาจจะทำอันตรายแก่คนทั้งปวง ฤๅสิ่งทั้งปวงได้โดยรัศมีอันเร่าร้อน แต่รัศมีอันเร่าร้อนนั้นเอง อาจจะให้แสงสว่างแลให้ชีวิตแก่สัตว์แลพืชพันธุ์ทั้งปวงให้เป็นอยู่ได้

ลก ใช้พระจันทร์เป็นเครื่องหมาย เพราะมีรัศมีแจ่มใส เป็นที่ควรยินดี แลเป็นที่อุปการะแก่น้ำขึ้นลง เป็นต้น

ซิ่ว ใช้ดาวเป็นเครื่องหมาย เพราะดาวเป็นของไม่มีขึ้นมีแรม ย่อมตั้งอยู่ในท้องฟ้ายั่งยืน

แสดง ฮก ลก ซิ่ว โดยพฤกษชาติ แลบุปผชาติ

เมื่อจะแสดง ฮก สก ซิ่ว โดยพฤกษชาติแลบุปผชาติเป็นนิมิต

ฮก ใช้ดอกพุดตาน ฤๅโบตั๋น ซึ่งข้างจีนถือกันว่า เป็นดอกไม้วิเศษ ถ้าปลูกลงไว้แห่งใด ปลูกต้นไม้อื่นๆ ร้อยอย่างล้อมรอบ คงจะโน้มยอดฤๅหันดอกเข้าหา เป็นพระยาดอกไม้

ลก ใช้ดอกเบญจมาศ ซึ่งมีกลีบสลับซับซ้อน แสดงความมั่งคั่ง

ซิ่ว ใช้ต้นสน เพราะเหตุว่า ต้นสนเป็นไม้ที่ใหญ่ แลทนยิ่งกว่าไม้อื่นๆ ในเมืองจีน

แสดง ฮก ลก ซิ่ว ด้วยผลไม้

เมื่อจะแสดง ฮก ลก ซิ่ว ด้วยผลไม้เป็นนิมิต

ฮก ใช้ส้มมือซึ่งเป็นผลไม้อันงาม ฤๅจะว่าเป็นอัศจรรย์เพราะมีสัณฐานอย่างมือ มีนิ้วเหยียดออกดังมือฮกก็ว่าได้

ลก ใช้ผลทับทิม ซึ่งมีเมล็ดมาก แสดงความบริบูรณ์

ซิ่ว ใช้ผลโถ ซึ่งเป็นผลไม้มีรสบริโภคชุ่มชื่นน้ำใจ เป็นอุปการะแก่ความมีอายุยืนนาน

เมื่อเขียนภาชนะต่างๆ อันเป็นที่แคบเช่น ปากขวด เชิงขวด เป็นต้น จะนำลายใหญ่ๆ ไปเขียนลงไม่ได้ นักปราชญ์ทั้งหลายนั้นจึงได้คิดลายอันเป็นเครื่องหมายเล็กๆ ให้เหมาะแก่ที่ซึ่งจะเขียนเป็นลายต่างๆ มากอย่าง จะยกขึ้นกล่าวเป็นตัวอย่างแต่สำรับเดียว คือ ฮก ทำเป็นลายมีสัณฐานคล้ายรูปค้างคาวต่อๆ กัน ฤๅคล้ายกระจัง เช่นเราเรียกกันว่า คอเสื้อ เป็นเครื่องหมายของ ฮก

ลก ใช้ลายสัณฐานคล้ายลูกคลื่น อันเขียนโดยกระบวนลาย มิใช่คลื่นจริงๆ เมื่อเขียนรีดผอมหนักเข้าก็เป็นรูปคล้ายๆ รั้ว ซึ่งเราเรียกกันว่า ลายราชวัติ เป็นเครื่องหมายของ ลก

ซิ่ว ลายซึ่งขีดไปเป็นเส้นๆ แล้ววงม้วนกลับ แปลว่ายาว ซึ่งเราเรียกกันว่า ประแจจีน เช่นนี้ เป็นเครื่องหมายของ ซิ่ว

หลักเครื่องสังเกต ฮก ลก ซิ่ว

การซึ่งผู้ใดจะคิดพยายามพรรณนาเครื่องหมายแห่ง ฮก ลก ซิ่ว ให้ทั่วถึงถ้วนถี่ได้ในเวลานี้ ยังเป็นการที่พ้นวิสัยจะทำได้อยู่ เพราะเหตุที่เราทั้งหลายเพิ่งได้ลงมือสังเกต แลจะหาจีนเป็นครูบาอาจารย์ก็ยาก เพราะเหตุว่า ผู้ซึ่งไม่ได้เป็นนักปราชญ์แลเป็นช่างจะบอกชื่อลาย ซึ่งนักปราชญ์แลช่างเขาคิดผูกพันขึ้นไว้ นอกจากได้สังเกตมากๆ อาศัยเค้าเงื่อนที่รู้แล้วค่อยเดาต่อไปนั้นไม่ได้

แต่ควรสังเกตไว้เป็นหลักว่า ถ้าเครื่องหมายสำหรับ ฮก แล้ว คงจะเป็นสิ่งซึ่งวิเศษหายาก มีอานุภาพมาก มีสง่า ฤๅรุ่งเรืองมากเป็นเกณฑ์ ถ้า ลก แล้ว มักจะเป็นสิ่งซึ่งมากโดยประมาณนับ ฤๅเป็นพืชพันธุแพร่หลายเป็นเครื่องเย็นชุ่มชื่น เป็นเครื่องมั่งคั่งสมบูรณ์เป็นเกณฑ์ ซิ่ว คงจะเป็นเครื่องที่ทนทานถาวร ฤๅยืดยาวเป็นเกณฑ์ เมื่อสังเกตตามทางเช่นนี้ คงจะเห็นได้ว่าลายอันนี้ ผู้เขียนตั้งใจจะให้เป็นนิมิตเครื่องหมายมงคลอันใด

เครื่องหมายด้วยตัวหนังสือ

ในที่สุด เมื่อไม่ได้คิดลวดลายเป็นปริศนาอย่างหนึ่งอย่างใด ก็เขียนด้วยตัวหนังสือตรง ๆ ว่า ฮก ฤๅลก ฤๅซิ่ว เช่นนั้น แต่รูปแห่งตัวหนังสือที่เขียนนั้น ย่อมยักเยื้องไปได้ตั้งร้อยอย่าง คงอ่านว่าฮก ว่าลก ว่าซิ่ว อย่างเดียวกัน บางทีก็ประกอบด้วยลายขอบ เช่นลายซิ่วยาว อ่านว่า ซิ่ว แต่มักจะเขียนลายน้ำลงไว้ข้างล่าง เขียนคอเสื้อไว้ข้างบน ก็อ่านเป็น ฮก ลก ซิ่ว ได้เหมือนกัน

เขียน ฮก ลก ซิ่ว ไม่ครบสาม

สิ่งของบางสิ่ง เขียน ฮก ลก ซิ่ว ไม่ครบ ๓ อย่าง บางทีมีแต่ ๒ อย่าง บางทีมีแต่อย่างเดียวเช่นนี้ มักจะเป็นปริศนาให้ต้องคิดผสมกับภาชนะนั้น เช่น ถ้วยมีลาย ฮก อย่างหนึ่ง ซิ่ว อย่างหนึ่ง เมื่อรินน้ำลงในถ้วยนั้นเป็น ลก นับว่าเป็นครบ ฮก ลก ซิ่ว เช่นนี้ก็มี แต่บางสิ่งมีแต่อย่างเดียว จะเป็นเขาเขียนมงคลแต่อย่างเดียวสองอย่างรายไปตามชิ้น เช่นนั้นมีบ้างฤๅประการใด ยังสังเกตไม่ได้แน่

ลองเทียบ ฮก ลก ซิ่ว อย่างใหม่

การซึ่งจะกล่าวพรรณนาถึงเครื่องหมายแห่ง ฮก ลก ซิ่ว ไม่ถ้วนนั้น เพราะเหตุว่า ถ้าหากว่าเราจะลองคิดเครื่องหมาย ฮก ลก ซิ่ว เอาเอง ก็อาจจะคิดได้ให้สนิทสนมดี จนถึงถ้าหากว่าเราพบนักปราชญ์ ซึ่งเป็นต้นคิดตำรานิมิต ฮก ลก ซิ่ว เกือบจะเชื่อใจได้ว่า จะเห็นชอบว่าใช้ได้อยู่ คือ ถ้าจะถือเอาดอกกุหลาบ เป็น ฮก เพราะเป็นดอกไม้ที่งามรุ่งเรืองในเมืองเรา ดอกบานชื่น เป็น ลก เพราะเหตุมีเกสรแลเมล็ดมาก ดอกบานไม่รู้โรย เป็น ซิ่ว เพราะเหตุที่เป็นดอกไม้ทนทานเช่นนี้ ก็หวังใจว่าจะเข้าภูมิแบบลาย ฮก ลก ซิ่ว ได้

จัดโต๊ะให้เข้า ฮก ลก ซิ่ว

เมื่อลงปลายที่จะจบเรื่องกล่าวด้วย ฮก ลก ซิ่ว สังเขปนี้ จึงต้องกล่าวว่า ฮก ลก ซิ่ว แสดงธรรม ๓ ประการ ซึ่งมนุษย์ปรารถนาด้วยกันทั่วหน้า เมื่อผู้ใดปรารถนาจะให้พรผู้ใด โดยการที่จะจัดตั้งโต๊ะ จึงจำเป็นต้องจัดให้ประกอบด้วย ฮก ลก ซิ่ว ทั้ง ๓ ประการ ตามแต่ที่สามารถจะจัดให้เป็นได้ เช่น มีชาม ๒ ใบ ขวดใบหนึ่ง ชามใบหนึ่ง บรรจุผลส้มมือ ชามใบหนึ่งขังน้ำ ขวดปักไม้สน เช่นนี้ อาจจะนับว่าเป็น ฮก ลก ซิ่ว ได้ ถึงในสิ่งอื่นๆ ก็อาจจะประกอบให้เป็น ฮก ลก ซิ่ว ได้ ในภาชนะอันเดียว ฤๅแยกภาชนะได้ เช่นลายเขียนเหมือนกัน ถ้าตั้งเข้าในวิธีแสดงมงคลได้เช่นนั้น ก็นับว่าเป็นตั้งโต๊ะดี

เรื่องโป๊ยเซียน

ยังมาตราอื่นที่นับว่าเป็นมงคลใช้วาดเขียน นอกจาก ฮก ลก ซิ่ว ก็มีอยู่อีกมาก เช่นเซียนฤๅผู้สำเร็จ ข้างจีนเป็นที่นับถือ เขียนแต่ลำพังลายนั้นเป็นลายมากอย่างหนึ่ง มักจะเขียนแทรกแซง ใน ฮก ลก ซิ่ว ก็มีชุม ถ้าจะแบ่งเป็นลาย ซึ่งช่างมักจะหยิกยกมาเขียน ก็เป็นส่วนรูปของเซียนผู้นั้นอย่างหนึ่ง สัตว์ซึ่งเป็นพาหนะฤๅกำกับเซียนผู้นั้นอย่างหนึ่ง อาวุธฤๅบริขารของเซียนผู้นั้นอย่างหนึ่ง บางทีก็เขียนแต่รูปแลอาวุธฤๅบริขาร บางทีก็เขียนแต่เครื่องบริขาร ผู้ซึ่งจะสังเกตลายข้างจีน ควรจะเรียนรู้รูปเซียน ทั้งพาหนะแลอาวุธฤๅบริขารไว้ด้วย จึงจะสังเกตที่มาของลายนั้นได้ เมื่อเขาเขียนหยอดแทรกแซมไว้ในที่แห่งใด ใช้คุมเข้าเป็น ฮก ลก ซิ่ว ได้บ้าง เป็นมงคลเนื่องมาจากโป๊ยเซียนบ้าง จะได้อ่านออก

มงคลแปด

ยังมีเกณฑ์ที่สำหรับเขียนแทรก ฮก ลก ซิ่ว คือ เป็นมงคล ๘ อย่าง ข้างจีน ๒ อย่าง ๆ หนึ่ง คือมักจะเขียนอยู่ในหมวดลายฮ่อ แต่บางทีไปเขียนหยอดลงไว้ในลายอื่นแต่อย่างเดียว สองอย่างก็มีบ้าง บางทีก็ยกไปประกอบเป็น ฮก ลก ซิ่ว

ยันต์แปดคณะฉันท์

ยังมีลายอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นแต่เส้นขีด ๆ ไว้ระยะต่างกันทั้ง ๘ อย่าง ซึ่งเข้าใจได้ชัดเจนว่าเป็นคณะฉันท์ ซึ่งใช้หมายแทนครุ ลหุ เช่นนี้ก็มีเขียนบ้าง ลายซึ่งเป็นคณะฉันท์เช่นนี้ เป็นพยานให้แลเห็นชัดว่า คำที่กล่าวมาแล้วแต่ก่อนว่า ต้นเหตุแห่งลายนี้มาแต่ประเทศข้างเหนืออินเดีย เพราะฉะนั้น วิธีกำหนดคณะฉันท์จึงได้เป็นแบบเดียวกันกับภาษามคธ ลายเช่นนั้นมักจะมาแต่เมืองธิเบต ซึ่งหลวงจีนเป็นผู้ครองเมือง แลเมืองเกาหลีถือเป็นยี่ห้อสำหรับแผ่นดินด้วย

ลายปลา ๒ ตัวอมหางกัน

ลายอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นรูปปลาไม่มีเกล็ด เขียนไว้แต่ตาอมหางกันเป็นวงกลม ย่อมใช้ประกอบกับลายคณะฉันท์แปด ซึ่งกล่าวแล้วข้างบนนั้นเป็นนิจ แต่บางทีเขียนแต่เฉพาะลายปลา กล่าวแล้วข้างบนนั้นเป็นนิจ แต่บางทีเขียนแต่เฉพาะลายปลาอมหาง อย่างเดียวผสมไว้ในลายอื่นๆ บ้าง พิเคราะห์ดูลายอันนี้ น่าจะเป็นลายที่สืบมาแต่ประเทศอินเดียเหมือนกัน แต่ที่ประเทศอินเดียเขาใช้หน้าปลาชนกัน หางปลาชนกัน ฤๅชนแต่หน้าปลาหางห่างกันออกไป เครื่องหมายอันนี้ว่า เป็นเครื่องหมายสำหรับพุทธศาสนา แต่เกาหลีก็รับเอาไปใช้เป็นยี่ห้อสำหรับแผ่นดินเหมือนกัน แต่ข้างจีนใช้ว่าเป็นเครื่องป้องกันฤๅเป็นสวัสดิมงคลในที่ต่างๆโดยมาก

เกณฑ์แม่ลายอย่างอื่น

จะพรรณนาด้วยเครื่องประกอบ เป็นที่ตั้งของการเขียนลวดลาย ซึ่งเป็นเกณฑ์แทรกนอกจาก ฮก ลก ซิ่ว ซึ่งได้กล่าวมาบ้างแล้วข้างบน ก็เป็นอันยากที่จะกล่าวให้ทั่วถึงได้ การที่ตรวจสังเกตก็ยังไม่ทั่วถึงกัน แลไม่รู้ทั่วถึงในประเทศบ้านเมือง ของข้างจีนที่จะสังเกตประกอบยาก เช่นเครื่องหมายตระกูล ฤๅจำพวกของมนุษย์ซึ่งเขาแบ่งในเมืองจีน เป็นอ่านหนังสือพวกหนึ่ง หาบฟืนพวกหนึ่ง ตกเบ็ดพวกหนึ่ง จูงกระบือพวกหนึ่ง อันเป็นเครื่องประกอบฤๅเป็นหลักของลายเขาไม้เช่นนี้ เป็นต้น คงยังจะมีอีกมากซึ่งผู้ศึกษาลายข้างจีนควรจะค้นคว้าต่อไป จะพรรณนาในที่นี้คงจะไม่ทั่วถึงไปได้

ธาตุ

อีกประการหนึ่ง กำหนดด้วยธาตุข้างจีน ก็มักจะใช้ประกอบในการสวัสดิมงคล นำมาเป็นนิมิตในการวาดเขียนได้ เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง ฤๅไม้ด้วย แต่ธาตุทั้งปวงนี้ก็มักจะรวมใช้เป็น ฮก ลก ซิ่ว ได้ เช่น ไฟ เป็น ฮก เป็นต้น เมื่อผู้ศึกษาลายได้พิจารณาโดยถ้วนถี่ คงจะสังเกตจับที่ตั้งของลายเขียนแห่งจีนว่าไม่ได้เขียนถ่ายจากของที่เป็นจริง ฤๅเขียนเดาๆ ไป คงมีเค้ามูลซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ตั้งสำหรับจะเขียนแสดงสวัสดิมงคลสิ้นทุกลาย ด้วยประการฉะนี้แล

(จบพระราชนิพนธ์เพียงนี้)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ