คำอธิบาย โคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัย

โคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัย เป็นงานพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าอภัย พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา ตับฉบับโคลงเรื่องนี้รวมอยู่ในหนังสือสมุดไทยเลขที่ ๙ มัดที่ ๑๓ ตู้ ๑๑๔ ชั้น ๒/๕ เรื่องโคลงกวีโบราณ ลักษณะตัวอักษรที่ใช้บันทึกเป็นตัวอักษรเส้นรง ในตอนต้นสมุดไทยมีข้อความว่า

“๏ ข้าพระพุทธเจ้า พญาตรัง จ่าโคลงบุราณไว้ได้ถวาย”

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า พระยาตรัง กวีผู้มีชื่อเสียงในสมัยรัชกาลที่ ๒ เป็นผู้รวบรวมกวีนิพนธ์โบราณที่ปรากฏในหนังสือสมุดไทยเล่มนี้ เพื่อถวายสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ ซึ่งต่อมาทรงดำรงตำแหน่ง กรมพระราชวังบวรสถานมงคลหรือวังหน้าในสมัยรัชกาลที่ ๓ ส่วนที่มาของต้นฉบับโคลงกวีโบราณนี้ ทรงอธบายไว้ในฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๔๖๑ ว่า “...ซึ่งได้ฉบับมาแต่พระราชวังบวรฯ เปนของพระเจ้าราชวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าวงจันทร์ ประทานแก่หอพระสมุดฯ” ปัจจุบันต้นฉบับสมุดไทยเรื่อง โคลงกวีโบราณ เก็บรักษาอยู่ที่งานบริการเอกสารโบราณ สำนักหอสมุดแห่งชาติ

โคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัยแต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ จำนวน ๒๕ บท เนื้อหากล่าวถึงการเดินทางจากกรุงศรีอยุธยาไปทางลพบุรี ซึ่งในโคลงนี้ เรียกว่า “นพบุรี” และน่าจะเดินทางต่อไปยังพระพุทธบาทสระบุรี แต่เรื่องราวที่ปรากฏในโคลงมีเพียงเดินทางไปเซ่นสรวงบูชาที่ศาลเจ้า สันนิษฐานว่าเรื่องราวอาจจะยังไม่จบหรือตอนท้ายอาจสูญหายไป กวีเดินทางผ่านเกาะพระ บางโขมด บางไทร โพธิ์สามต้น โพแตง เกาะเรียน เข้าเขตลพบุรีที่ทุ่งสมอคอน และหยุดบูชาเซ่นสรวงเทพารักษ์ที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง

ในโคลงบทแรกกวีระบุวันเวลาออกเดินทางว่า “เก้าคํ่าย่ำรุ่ง” แต่ไม่ได้ระบุเดือนปีที่แน่ชัด จากนั้นบรรยายภาพขบวนเดินทางซึ่งคึกคักด้วยเสียงฆ้องและปี่ เมื่อกวีเดินทางผ่านสถานที่แห่งใด ก็หวนคิดถึงนางผู้เป็นที่รักเสมอ กวีได้พรรณนาอารมณ์รัก เศร้า และระลึกถึงนาง โดยเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ สิ่งของ และสถานที่ต่าง ๆ ตลอดการเดินทาง ดังความว่า

๏ นพบุรีบุเรศเจ้า กรุงอยุทธ- ยาแฮ
นารายน์พิษณุภุช สืบสร้าง
เรียมร่ำก็ร่ำสุด แรงพี่ แล้วแฮ
เมืองก็ร้างเจ้าร้าง พี่ร้างมานอน ฯ

ในตอนท้าย กวีได้กระทำพิธีเซ่นสรวงบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ เจ้าป่าเจ้าเขา ปู่เจ้า เทพารักษ์ต่างๆ อธิษฐานให้ได้กลับไปหานางที่กรุงศรีอยุธยา และกล่าวถึงเหตุอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น

แม้ว่าโคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัยจะเหลือตกทอดมาเพียง ๒๕ บท แต่ก็ยังคงความงามทางวรรณศิลป์ตามขนบของนิราศ สะท้อนความเชื่อ เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนในสมัยอยุธยา นอกจากนี้ชื่อสถานที่บางแห่งยังคงปรากฏอยู่ นับว่าโคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัยเป็นวรรณคดีที่มีคุณค่า ทางวรรณศิลป์และคุณค่าทางสังคม

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ