กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

๏ เกลื่อนกรูหมู่จัตุรงค์ เปนกันกงเรียบเรียงไป
ทรงช้างระวางใน เทพลีลาหลังคาทอง ฯ
๏ เกลื่อนกรูหมู่แห่ห้อม เรียงไสว
เสด็จพุดตาลทองไคล หว่างเขรื้อง
ทรงช้างระวางใน มีชื่อ
เทพลีลาเยื้อง ย่างแหน้หลังดี ฯ

๏ เครื่องสูงเพราเพริศพราย ชมชุมสายซ้ายขวาเคียง
ธงไชยธงฉานเรียง ปี่กลองชนะตะเต่องครึม ฯ
๏ กลองทองตีครุ่มครึ้ม เดิรเรียง
จ่าตะเติงเติงเสียง ครุ่มครื้น
เสียงปี่รี่เรื่อยเพียง กระเวก
แตร้นแตร่นแตรฝรั่งขึ้น หวู่หวู้เสียงสังข์ ฯ

๏ นักสนมกรมชแม่มี่ ขี่ช้างกูบรูปโลมใจ
พักตราอ่าผ่องใส นุ่งห่มโอ่โสภาจริง ฯ
๏ นักสนมกรมชแม่เจ้า ทังหลาย
ขี่ช้างกูบดาวราย แจ่มหน้า
พักตราผ่องใสสาย สุดสวาท
นุ่งห่มโอ่โถงผ้า อร่ามริ้วทองพราย ฯ

๏ เพริศเพราเหล่าฝ่ายห้าม รูปทรงงามตามเสด็จไป
ผมมวยรวยริมไร ม่านปีกนกวกวงวัง ฯ
๏ เพริศเพราเหล่านางห้าม งามนัก
รูปงามตามแลลักษณ์ ลูบท้อง
ผมมวยรวยไรอรรค ชาเยศ
ม่านปีกนกปกป้อง ห่อหุ้มคลุมเดิร ฯ

๏ เที่ยวเล่นเปนเกษมสุข แสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง
เร่งร่ายผายผาดผัง หวัวริกรื่นชื่นชมไพร ฯ
๏ สุขเกษมเปรมหน้าเหลือบ ลืมหลัง
แสนสนุกปลุกใจหวัง วิ่งหรี้
เดิรร่ายผายผันยัง ชายป่า
หวัวร่อรื่นชื่นชี้ ส่องนิ้วชวนแล ฯ

๏ พังพลายหมู่หลายซร้อง ในเถื่อนท้องร้องระงมดง
ธารน้ำคร่ำกันลง เล่นน้ำแน่นแตร้นชมกัน ฯ
๏ ฝูงช้างสล้างใหญ่น้อย พังพลาย
ทอกโทนพินายหลาย ส่ำถ้วน
ทองแดงเผือกเนียมราย ในเหล่า
ลงท่าน้ำดำป้วน เล่นร้องฮูมแปร๋น ฯ

๏ กระบือโคโขล่ร้องเที่ยว เขาเสี้ยมเสี้ยวเสียวใจหาย
เลมหล้าอาหารชาย ป่าริมทุ่งวุ้งวงเขา ฯ
๏ กระบือโคโขล่ร้องเที่ยว เหลือหลาย
เขาเซี่ยมเสียวใจหาย ขาดขว้ำ
เลมหล้าอาหารชาย ริมป่า
ลงล่องท่องท้องน้ำ ปลักแฉ้กลางตม ฯ

๏ กวางทรายร่ายกินหญ้า สุกรป่าพาพวกจร
สุนัขในไล่เห่าหอน ตามเปนหมู่พรูเพรียกเสียง ฯ
๏ กวางทรายร่ายเสพย์หญ้า ดงดอน
หมูป่าพาเพื่อนจร ลูกล้อม
สุนัขจิ้งจอกหอน หลายเหล่า
เปนหมู่พรูเพรียกห้อม เห่าอื้ออึงเสียง ฯ

๏ กระทิงวิ่งทั้งคู่ ล่ำเติบตรูดูกำยำ
หน้าด่อนท่อนตัวดำ เขาเข้าวงก่งรอมงาม ฯ
๏ กระทิงวิ่งทั้งคู่ ขันขำ
ล่ำเติบดูกำยำ โป่งป้อม
หน้าด่อนท่อนตัวดำ แรงเลิศ
เขาเค่าวงก่งง้อม แปล่มเสี้ยมรอมงาม ฯ

๑๐

๏ มีหมีพีดำขลับ ขึ้นไม้ผับฉับไวถึง
เรี่ยวแรงแขงขังขึง กัดโพรงไม้ได้ผึ้งกิน ฯ
๏ มีหมีดำขลับหน้า เปนมัน
ขึ้นไม้ผับฉับพลัน ขบขึ้ง
เรี่ยวแรงแขงข้างขยัน สามารถ
กัดฉีกไม้ได้ผึ้ง คาบเคี้ยวพลางหวาน ฯ

๑๑

๏ เสือโคร่งยงปีบเปรี้ยง แอบโจนเฉียงเสียงพึงกลัว
ร้ายยวดหนวดเพราพัว ลองเล็บเล่นเผ่นโผนผาย ฯ
๏ เสือโคร่งยงปีบเปรี้ยง สยองหัว
ศัพทสำเนียงพึงกลัว ทั่วแคว้น
ร้ายยวดหนวดเพราพัว ตามุ่ง
ลองเล็บเล่นเผ่นแหล้น โลดเลี้ยวโผนผาย ฯ

๑๒

๏ เสือเหลืองเมืองเชื่องหน้า อ้ายพรานป่าหล้ากินฉมัน
เรี่ยวแรงแขงดุจกัน กับเสือโคร่งโกงเสมอสมาน ฯ
๏ เสือเหลืองยงแยกเขี้ยว ยิงฟัน
อ้ายค่างลายสพายสมัน คาบเคี้ยว
ปีบเปรี้ยงเสียงขยาดขยัน ไวว่อง
ปูนเปรียบเสือโคร่งเลียว โลดแหล้นเสมอสมาน ฯ

๑๓

๏ เสือดาวคล่าวขึ้นไม้ วิ่งว่องไวได้โดยพลัน
สัตว์ใดไปใกล้มัน โจนยุดถนัดกัดกินไป ฯ
๏ เสือดาวคร่าวขึ้นไม้ มองขยัน
วิ่งว่องไวฉับพลัน นั่งไม้
สัตว์ใดใกล้กลายมัน ในร่ม
โจนยุดถนัดกัดได้ ขย่ำก้มกินหลัง ฯ

๑๔

๏ ลมาดผาดเริงแรง ฟันคางแขงแกล้งกัดวัลย์
เถาใหญ่ใกล้ปากมัน กัดขาดสนิธติดปากไป ฯ
๏ ลมาดอาจร่านเหรี้ยว แรงขยัน
ฟันฟางคางแขงวัลย์ กิ่งเกี้ยว
เถาใหญ่ใกล้ปากมัน คาคาบ
กัดขาดสนิทติดเขี้ยว ย่ำย้ำกินพลาง ฯ

๑๕

๏ โคแดงแจ้งกินอยู่ ยืนเปนหมู่คู่เคียงคลา
ลูกน้อยค่อยตามมา เที่ยวเล็มรบัดกัดปลายกิน ฯ
๏ โคแดงแจ้งอยู่ล้อม กินเกลียง
ยืนเป็นหย่อมพร้อมเพรียง พรั่งหน้า
ลูกน้อยค่อยตามเคียง แนบแม่
เที่ยวเล็มรบัดกัดหญ้า อ่อนอ้วนปลายเคลีย ฯ

๑๖

๏ โคเพลาะฉะเพาะทุ่งออก แร่งเป็นศอกหนอกสูงเถลิง
เขาโตโคล่ร้องเริง เมียลูกน้อยค่อยตามกัน ฯ
๏ โคเพลาะฉะเพาะทุ่งแหล้น ลองเชิง
แร่งศอกหนอกสูงเถลิง เถื่อนเถ้า
เขาโตโคล่ร้องเริง ชมหมู่
เมียลูกน้อยค่อยเคล้า แม่เนี้ยวกินนม ฯ

๑๗

๏ ฝูงฟานผ่านเถื่อนถ้อง เดิรเปิบร้องก้องพงไพร
เที่ยวกินถิ่นฐานใด มีน้ำหญ้าอาหารเนา ฯ
๏ ฝูงฟานผ่านเถื่อนถ้อง แถวไศล
เดิรเปิบร้องก้องไพร เกลื่อนกลุ้ม
เที่ยวกินถิ่นฐานใด แดนโป่ง
มีหญ้าน้ำพงผุ้ม บ่ายเข้านอนเนา ฯ

๑๘

๏ ลมั่งพรั่งดงกว้าง เขาสองข้างกางโจงโครง
รูปร่างกวางโอ่โถง ฝีเท้าวิ่งยิ่งกว่ากวาง ฯ
๏ ลมั่งเขาคู่ตั้ง กางโกง
สองข้างเคียงโจงโครง แตกต้น
รูปร่างกวางโอ่โถง ดีกว่า
ฝีเท้าวิ่งยิ่งพ้น แล่นล้ำเลยกวาง ฯ

๑๙

๏ สิงคนัดเขาเสี้ยมเสี้ยว บิดเปนเกลียวเรียวสูงแหลม
ตัวต่ำดำมอมแมม ย่อมแล่นโลดโดดโจนลอย ฯ
๏ สิงคนัดเขาเสี้ยมเซี่ยว สูงแหลม
บิดเปนเกลียวเรียวแนม คู่หยื้น
ตัวต่ำดำมอมแมม คราวตื่น
ย่อมแล่นโลดโดดขึ้น สู่ฟ้าโจนลอย ฯ

๒๐

๏ เลียงผาอยู่ภูเขา หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
รูปร่างอย่างแพะหมาย ขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน ฯ
๏ เลียงผาอยู่พ่างพื้น ภูเขา
หนวดภู่ดูเพราเขา ไปล่ท้าย
รูปร่างอย่างแพะเอา มาเปรียบ
ขนเหม็นสาบหยาบร้าย กลิ่นกล้าเหมือนกัน ฯ

๒๑

๏ งูเหลือมเอื้อมพันไม้ หางกระหวัดไว้ใฝ่อาหาร
เนื้อกวางย่างเดิรพาน หย่อนตัวกระหวัดรัดกลมกิน ฯ
๏ งูเหลือมเกี่ยวไม้ใฝ่ อาหาร
หางกระหวัดโยนยาน แย่งไว้
เนื้อกวางสุกรฟาน เดิรด่วน
หย่อนตัวกระหวัดรัดไว้ ปากอ้าอมกิน ฯ

๒๒

๏ งูเหลือมกินสุกร อึ้งทึ่งนอนห่อนเลื้อยไป
หน่อไม้ขึ้นมาไช ท้องแทงตลอดรอดคลาคลืน ฯ
๏ งูเหลือมกินลมั่งเนื้อ กวางฟาน
บ่ห่อนสุดคลาคลาน อิ่มอึ้ง
นอนใกล้ก่อไผ่สาน แซมหน่อ
แทงตลอดหลังขาดขรึ้ง เมื่อเลื้อยคลายไป ฯ

๒๓

๏ หมูเม่นเห็นพรอมแพรม ขนตัวแหลมแซมนักหนา
ใครปะจะจับมา พองขนสบัดสลัดถูกแทง ฯ
๏ หมูเม่นขนเสี้ยมทั่ว กายา
ขนแหลมแซมหนั่นหนา แน่นซร้อง
ใครปะจะจับมา ดูเล่น ก็ดี
พองขนสบัดสลัดต้อง ติดหน้าถูกแทง ฯ

๒๔

๏ เสือปลาล่ากินปลา ริมน้ำท่าหาเหยื่อแฝง
ปลาว่ายสวายหางแดง ฉวยได้ถนัดกัดเร่กิน ฯ
๏ เสือปลาปลาเวียนหว้าย ตีแปลง
ริมท่าหาเหยื่อแฝง อยู่ใกล้
ปลาว่ายสวายหางแดง เปนหมู่
ฉวยถูกถนัดกัดได้ คาบเว้เร่กิน ฯ

๒๕

๏ กระต่ายหลายพงศ์พรรค์ เต้นชมจันทร์หันตัวตาม
ซ่อนซุ้มชุมเหลือหลาม ยามออกเล่นเต้นชมกัน ฯ
๏ กระต่ายหลายพวกพ้อง พรรค์งาม
ชมชื่นแสงจันทร์ตาม ไล่เหล้น
ซ่อนซุ้มชุมเหลือหลาม หลายเหล่า
ยามเมื่อออกเล่นเต้น โลดเลี้ยวชมกัน ฯ

๒๖

๏ เสือกระต่ายลายเขียนขีด ตัวกระจิดนิดกว่าแมว
อยู่ป่าตาบั้งแบ๊ว ขบกระต่ายแล้วแง้วคำราม ฯ
๏ เสือกระต่ายลายขีดขั้น เปนแถว
กระจิดกว่าแมวเหมือนแมว ปากเขี้ยว
อยู่ป่าตาบั้งแบ๊ว มองหมอบ
ขบกระต่ายตายเคี้ยว ย่ำย้ำคำราม ฯ

๒๗

๏ กระจงกระจิดเตี้ย วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอนดู[๑]
เหมือนกวางอย่างตาหู มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง ฯ
๏ กระจงกระจิดหน้า เอนดู
เดินร่อยเรี่ยงามตรู กระจ้อย
เหมือนกวางอย่างตาหู ตีนกีบ
มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย แนบข้างเคียงสอง ฯ

๒๘

๏ ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย ชนีอุ่ยอุ้ยร้องหา
ฝูงค่างหว่างพฤกษา ค่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง ฯ
๏ ฝูงลิงยวบยาบต้น พวาหนา
ฝูงชนีมี่กู่หา เปล่าข้าง
ฝูงค่างหว่างพฤกษา มาสู่
ครอกแครกไล่ไขว่คว้าง โลดเลี้ยวโจนปลิว ฯ

๒๙

๏ ลิงลมชมเชยคู่ ขึ้นนั่งอยู่ผู้คนหมาย
ลมพัดบัดเดียวหาย พัดทิศใดไปตามลม ฯ
๏ ลิงลมชมคู่ต้น ยางทราย
คนนั่งตั้งใจหมาย ยื่นกล้วย
ลมพัดบัดเดียวหาย วิววู่
พัดทิศใดไปด้วย ด่วนคล้ายตามลม ฯ

๓๐

๏ ลิงจุ่นงุ่นเงื่องเซื่อง ค่อยกระเตื้องเงื่องคลาคลาน
หางสั้นมันงมงาน จับตัวไล่ได้ง่ายดาย ฯ
๏ ลิงจุ่นงุนหง่อยหน้า ซมซาน
ค่อยกระเตื้องเงื่องคลาคลาน ร่ายไม้
หางสั้นมันงมงาน กินอยู่
จู่จับเอาตัวได้ ง่ายแท้ควรเห็น ฯ

๓๑

๏ ฝูงบ่างบ้างแดงด่าง ไต่หมากปรางบ้างแบนโผ
คนดูอยู่อะโข ย่อมทิ้งไล่ให้มันบิน ฯ
๏ ฝูงบ่างแดงด่างบ้าง ตัวโต
ไต่หมากปรางแบนโผ แล่นไม้
คนดูอยู่อะโข เนืองนั่ง
ย่อมทิ้งยิงกระสุนให้ ผึ่งท้องแบนบิน ฯ

๓๒

๏ ตะกวดเหี้ยเมียเข้าไข่ ในโพรงไม้ได้เปนรัง
ตัวน้อยกระจ้อยหวัง รูปจรเข้เล่ห์เหมือนกัน ฯ
๏ ตระกวดเหี้ยเมียเข้าไข่ ตีนตรัง
โพรงไม้อยู่เปนรัง ด่วนดั้น
ตัวน้อยกระจ้อยหวัง ดูรูป
อย่างจรเข้เล่ห์นั้น ห่อนเพี้ยนกันเหมือน ฯ

๓๓

๏ ลินแล่นแผ่นดินหลาย เห็นคนอายส้อนหน้าตา
คนเขาเอาตัวมา ขดตัวไว้ไม่คลี่คลาย ฯ
๏ ตัวลินเปนเกล็ดถั้ว กายา
หัวหางขดหน้าตา ซ่อนไว้
คนเขาเอาตัวมา ดูบ่อย
ยื้อคร่าแกะแคะได้ ไม่เขลื้อนคลาคลาย ฯ

๓๔

๏ ตัวตุ่นงุนคลาคลาน ได้อาหารเข้าในโพรง
ชอบกลต้นสำโรง เข้าเคล้าคู่อยู่เปนรัง ฯ
๏ ตัวตุ่นค่อยเตื่องเต้น หลังโกง
ฉวยสัตว์เข้าในโพรง ไต่เต้า
ชอบกลต้นสำโรง รังร่ม
พาคู่เคียงคลาเคล้า อยู่ถี้รวงรัง ฯ

๓๕

๏ ฝูงอ้นด้นแผ่นดิน กินรากไผ่ใบรวกผุย
ปล่องเห็นเปนขี้ขุย คุ้ยดินร่วงกลวงเปนโพรง ฯ
๏ ฝูงอ้นด้นข่วนฟุ้ง ดินขจุย
รากไผ่ไม้รวกผุย กัดแหง้น
เห็นช่องปล่องดินขุย ขุดอยู่
ดินร่วงกลวงทางแหล้น ลอดเลี้ยวในโพรง ฯ

๓๖

๏ กระเห็นเต้นคล้ายคล้าย ลายพรอมแพรมแกมดำเหลือง
ไต่บนต้นหมากเฟือง ลูกสุกห่ามตามกันกิน ฯ
๏ กระเห็นเต้นต่ายเหนื้อง มาเนือง
ลายด่างดำแกมเหลือง เล่าเหลื้อง
ไต่บนต้นหมากเฟือง กินเฟื่อง
หางค่องกิ่งไม้เปลื้อง คล่ำคล้ายชายคลาย ฯ

๓๗

๏ กระเอื้อยเลื้อยหางยาว ด่างดำขาวราวลูกอิน
สุกพร้อมย่อมมากิน เห็นเต้นไต่ไปตามกัน ฯ
๏ กระเอื้อยเลื้อยพู่ห้อย หางยาว
ลูกอินกินเมื่อคราว แก่ต้น
รูปร่างด่างดำขาว เขียนขีด
ตีนเต้นไต่ไปพ้น อยู่บ้างเบาบาง ฯ

๓๘

๏ กระแตไต่ไม้กระจ้อย ตัวน้อยน้อยโจนเรี่ยเรี่ย
โพรงปรูอยู่กับเมีย หางพัวเรียวเที่ยวไปมา ฯ
๏ กระแตไต่กิ่งน้อย ตามเมีย
ตัวกระจ้อยโจนเรี่ย ร่ายไม้
โพรงปรูอยู่เย็นเลีย โลมลูก
หางพู่เรียวเที่ยวไหล้ คู่เลี้ยวไปมา ฯ

๓๙

๏ ชมชมดรสกลิ่นกล้า หน้าเซี่ยมแสล้มแนมคู่เคียง
เล่าฦๅชื่อชมดเชียง คนหานักมักตามรอย ฯ
๏ ชมดเชียงเกลี้ยงกลิ่นกล้า หอมชวย
แชล่มคางหางพู่สวย เซี่ยมหน้า
ยืนคู่อยู่เคียงรวย รวยกลิ่น
คนตามถามซื้อข้า คงขึ้นขายรอย ฯ

๔๐

๏ กระรอกหางพัวพู่ โพรงไม้อยู่คู่ไล่ตาม
หางสลวยละลวยงาม วิ่งไปมาน่าเอนดู ฯ
๏ กระรอกหางพู่เหล้น ปลายมะขาม
โพรงไม้คู่อยู่ตาม โลดไหล้
หางสลวยละลวยงาม ขาวผ่อง
วิ่งไวไปมาให้ ชื่นหน้าเอนดู ฯ

๔๑

๏ ป้องข่างอย่างปึ้งก่า มาแปลกกันมันรู้บิน
เหนียงในใต้คางกิน อาหารได้ไป่รู้เลย ฯ
๏ ป้องข่างอย่างปึ้งก่าคล้าย โดยถวิล
แปลกแต่รู้แบนบิน ไล่ขู้
เหนียงในใต้คางกิน สัตว์เสพย์
อาหารใดไป่รู้ ห่อนแจ้งใจเอย ฯ

๔๒

๏ ตุกตู่หมู่ตุกแก อึ่งอ่างแย้แลบึ้งแตน
ผึ้งหลวงรวงเลื้อยแขวน บนปลายไม้ใหญ่รังรวง ฯ
๏ ตุกแกตุกตู่ร้อง คนแหงน ดูนา
แย้บึ้งปึ้งก่าแตน ต่อเฝ้า
ผึ้งหลวงรวงเลื้อยแขวน รังเรียบ
บนปลายไม้ใหญ่เถ้า แผ่นตั้งรวงเรียง ฯ

๔๓

๏ งูเขียวเที่ยวเลื้อยแล พบตุกแกย่อมสู้กัน
ตุกแกกัดงูพัน แรงงูมากปากคลาคลาย ฯ
๏ งูเขียวสายม่านเลื้อย ลายมัน
พบตุกแกกวดขัน เกี่ยงกล้า
งูขบกัดงูพัน รัดรอบ
แรงมากปากคลายอ้า ออกให้งูพลัน ฯ

๔๔

๏ งูเขียวรัดตุกแก ตุกแกแก่คางแขงขยัน
กัดงูงูยิ่งพัน อ้าปากง่วงล้วงตับกิน ฯ
๏ งูเขียวแลเหลื้อมพ่น พิศพลัน
ตุกแกคางแขงขยัน คาบไว้
กัดงูงูเร่งพัน ขนดเครียด
ปากอ้างูจึงได้ ลากล้วงตับกิน ฯ

๔๕

๏ ยูงทองย่องเยื้องย่าง รำรางชางช่างฟ่ายหาง
ปากหงอนอ่อนสำอาง ช่างรำเล่นเต้นตามกัน ฯ
๏ ยูงทองย่องย่างเยื้อง รำฉวาง
รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง เฉิดหน้า
ปากหงอนอ่อนสำอาง ลายเลิศ
รำเล่นเต้นงามหง้า ปีกป้องเปนเพลง ฯ

๔๖

๏ นกเขาเข้าเคียงคู่ ก่งคอคูคู่ขานขัน[๒]
กระทาทักปักกรอกัน บ้างขันไขว่ไล่ลามชน ฯ
๏ นกเขาขันคู่คู้ เคียงขยัน
คอก่งคูขานขัน คึ่นหน้า
กระทาทักปักกรอกัน เสียงเฉื่อย
ลามไล่ไขว่ขันจ้า แปลกขู้ชนแทง ฯ

๔๗

๏ ไก่ป่าจ้าเสียงเตี้ย พาลูกเมียเขี่ยหากิน
เห็นคนก่นวิ่งบิน เข้าเร้นรอกซอกซอนหาย ฯ
๏ ไก่ป่าขันเฉื่อยแจ้ว กลางดิน
ลูกเมียเขี่ยหากิน กกเหล้น
เห็นคนก่นวิ่งบิน ถาบตื่น
ซอกซอนซ่อนตัวเร้น พุ่มไม้สูญหาย ฯ

๔๘

๏ ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุกแดงแทงเดือยแนม
ปีกหางต่างสีแกม สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน ฯ
๏ ไก่ฟ้าหน้าก่ำกล้า ปากแหลม
หัวแดงแฝงเดือยแนม เนื่องแข้ง
ปีกหางต่างสีแกม ลายลวด
ตัวด่างอย่างคนแกล้ง แต่งแต้มขีดเขียน ฯ

๔๙

๏ นกหว้าหน้างามลาย คือดาวรายพรายเพริศเพรา
เที่ยวกินถิ่นลำเนา พาคู่เคล้าเฝ้าชมกัน ฯ
๏ นกหว้าหน้าเปรียบแต้ม ตรูเฉลา
ตัวลายพรายดาวเพรา เพริศหน้า
เที่ยวกินถิ่นลำเนา เคยอยู่
เคียงคู่เคล้าเฝ้าหล้า เก็บลิ้มเล็มกิน ฯ

๕๐

๏ พังพอนจรเคล้าคู่ พบพานงูอยู่สู้กัน
งูเห่าเอาขนดพัน พังพอนผันหันตัวตาม ฯ
๏ พังพอนจรเคล้าคู่ เรียงรัน
พบพานงูสู้กัน ขบเขี้ยว
งูเห่าเอาขนดพัน รัดรวด
พังพอนจรผันเลี้ยว ปลดเปลื้องตัวตาม ฯ

๕๑

๏ นกกดอดทนสู้ พบงูเห่าเอาปีกบัง
งูโพนพังพานหวัง จะขบตอดบรอดเลย ฯ
๏ นกกดอดทนสู้ งูขลัง
งูขบเอาปีกบัง เข็ดเขี้ยว
งูเลิกพังพานหวัง ขบตอด
ตอดบรอดเลยเลี้ยว หลีกเลี้ยวสูดหนี ฯ

๕๒

๏ ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู
หนูงูสู้ดูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู ฯ[๓]
๏ ดูงูขู่ฝุดฝู้ พรูพรู
หนูสู่รูงูงู สุดสู้
งูสู้หนูหนูสู้ งูอยู่
หนูรู้งูงูรู้ รูปทู้มูทู ฯ[๔]

๕๓

๏ นกกะเรียนเวียนลงหนอง ตรอมเที่ยวย่องร้องแกร๋แกร๋
ริมทุ่งกระทุงลอยแพ เดียรดาษแลแหล่เหลือหลาย ฯ
๏ นกกะเรียนเวียนว่อนน้ำ เลงแล
ลงย่องร้องแกร๋แกร๋ แจ้มจ้า
ริมทุ่งกระทุงลอยแพ ลงล่อง
บินกลาดกลุ้มท้องฟ้า ร่อนร้องเหลือหลาย ฯ

๕๔

๏ นกแก้วแจ้วเสียงใส คลอไคล้คู่หมู่สาริกา
นกตั้วผัวเมียคลา ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรี ฯ
๏ นกแก้วแจ้วรี่ร้อง เร่หา
ใกล้คู่หมู่สาริกา แวดเคล้า
นกตั้วผัวเมียมา สมสู่
สัตวาฝ่าแขกเต้า พวกพ้องโนรี ฯ

๕๕

๏ นกกระจิบกระจาบมั่ว ปากตะกั่วชายชมพู
นกไส้นกกรอดดู จ้อแจ้อยู่พรูเพรียกไพร ฯ
๏ กระจิบกระจาบน้อยน่า เอนดู
ปากตะกั่วชายชมพู แห่งห้อม
นกไส้กรอดดูฟู พองปีก
จอแจพรังพรั่งพร้อม เพรียกร้องในไพร ฯ

๕๖

๏ กางเขนรำเขนหาง บ่าวขุนพลางกางปีกรา
จินโจ้แกงจืดมา ร้องแจ้วจ้าป่าวังเวง ฯ
๏ กางเขนรำไต่ต้น พฤกษา
บ่าวขุนกางปีกรา ปากอ้า
จินโจ้แกงจืดมา พูดเพรียก
นกพริกร้องแจ้วจ้า ป่าก้องวังเวง ฯ

๕๗

๏ นกขมิ้นเหลืองหลากหลาย มีสพายหมายสองคาง
เหลืองอร่ามงามปีกหาง เห็นสำอางช่างมีพรรณ ฯ
๏ นกขมิ้นเหลืองก่ำป้อง ปีกหาง
มีสพายหมายสองคาง ค่างแก้ม
เหลืองอร่ามงามปีกหาง เห็นเลิศ
สร้อยสำอางอย่างแต้ม แต่งให้มีพรรณ ฯ

๕๘

๏ ชมคู่หมู่ซั้งแซว ร้องโฉดแก้วแล้วบินไป
เลียนนกหกใดใด ย่อมเลียนได้ไท้เสียงแมว ฯ
๏ ซั้งแซวเสียงแจ้วส่ง เอาใจ
ร้องโฉดแก้วบินไป มุ่งไม้
เลียนนกสิ่งใดใด เหมือนอยู่
ไม่เพี้ยนเลียนได้ไท้ เล่ห์ร้องเสียงแมว ฯ

๕๙

๏ นกคุ่มซุ่มอยู่นอน ในดงดอนส้อนไคลคลา
ลายเลือนเหมือนนกกระทา แต่ตัวน้อยค่อยเก็บกิน ฯ
๏ นกคุ่มซุ่มอยู่ข้อย ไปมา
ดงดอนซ่อนกายา กระจ้อย
ลายเลือนเหมือนนกกระทา กระแจ่ม
แต่ว่าตัวน้อยน้อย ค่อยเถี้ยวเก็บกิน ฯ

๖๐

๏ นกเงือกอยู่ในโพรงไม้ ผัวฟักไข่เมียผันผาย
เล่นชู้อยู่เสบยสบาย ผัวหมายไว้ให้รวงรัง ฯ
๏ นกเงือกอยู่ซอกไม้ เรียงราย
ผัวฟักเมียผันผาย ด่วนได้
เล่นชู้อยู่เสบยสบาย ลืมคู่
ผัวอดอาหารให้ อยู่เฝ้ารวงรัง ฯ

๖๑

๏ ชาติบุษป์พุทธชาตซาบ กุหลาบกนาบทั้งสองทาง
เบงระมาดยี่สุ่นกาง กลีบบานเพราเหล่าดาวเรือง ฯ
๏ ชาติบุษป์พุทธชาตขึ้น เคียงกลาง
กุหลาบกนาบสองทาง กลิ่นฟุ้ง
เบงระมาดยี่สุ่นกาง ตรงกลีบ
สาวสาวฉวยชิงหยุ้ง เก็บร้อยรอยกรอง ฯ

๖๒

๏ เพกาสาเกกุ่ม ไม้ตาตุ่มทุมราชา
สุกรมมะยมพวา ไม้หมากข้าขานางเปล้า ฯ
๏ เพกาฝักย้อมกุ่ม ผลหนา
ตาตุ่มทุมราชา เนื่องหน้า
สุกรมมะยมพวา ชมพู่
สาเกไม้หมากข้า อิกเปล้าขานาง ฯ

๖๓

๏ กะจายสยายซร้องนาง ผ้าสไบบางนางสีดา
ห่อห้อยย้อยลงมา แต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม ฯ
๏ กะจายสยายคลี่ซร้อง นงพงา
สไบบางนางสีดา ห่อห้อย
ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมา โบยโบก
แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย แกว่งเยื้องไปมา ฯ

๖๔

๏ กะเช้าเจ้าบรรจง ปากแฉกตรงทรงหาบหาม
แล่งปืนของพระราม รูปงามดีมีสืบมา ฯ
๏ กะเช้านางแต่งเจ้า ผจงงาม
ปากแฉกทรงหาบหาม ห่วงห้อย
แล่งปืนของพระราม ยังอยู่
รูปร่างงามน้อยน้อย งอกขึ้นสืบมา ฯ

๖๕

๏ เล็บนางงามแสล้ม ต้นนางแย้มแกมดองดึง
สุพรรณิกากากระทึง ดอกราชพฤกษ์ซึกไทรไตร ฯ
๏ เล็บนางนวยแน่งน้อย พอพึง
นางแย้มแกมดองดึง อีกอ้อย
สุพรรณิกากากระทึง บานแบ่ง
ราชพฤกษ์ซีกดวงย้อย พู่เพี้ยงไทรไตร ฯ

๖๖

๏ ชงโคตะโกตะขบหว้า ต้นตุมกากาฝากลง
ชอบกลต้นมหาหงส์ มะเดื่อดูกลูกนมแมว ฯ
๏ ชงโคตะโกขบหว้า ดาดดง
ตุมกากาฝากลง ติดไม้
นมแมวมหาหงส์ เห็นอยู่
มะเดื่อดูกลูกออกได้ แส่ทึ้งสอยกิน ฯ

๖๗

๏ กำจัดสลัดไดขึ้น บนพื้นภูภู่เขาสูง
แคคางยางยูงดูง ต้นตะแบกแปลกกันบาน ฯ
๏ สลัดไดกำจัดต้น หางยูง
บนภูภู่เขาสูง หย่งหยื้น
แคคางยางยูงดูง ตรงโตรด
ตะแบกแปลกกันขึ้น เกลื่อนกลุ้มบานไสว ฯ

๖๘

๏ แคฝอยข่อยเข็มข้า ต้นกาลาน่าดอกบาน
งิ้วงับพลับพลึงปาน นิ้วมือเรียมเปรียบเทียนกลึง ฯ
๏ แคฝอยข่อยข่าขึ้น ขนัดขนาน
เข็มกาลาดอกบาน ที่แจ้ง
งิ้วงับพลับพลึงปาน มือเรียม
นิ้วแน่งงามดังแกล้ง ฟั่นด้วยเทียนกลึง ฯ

๖๙

๏ พุมเรียงเคียวคัดเค้า ต้นปู่เจ้าเหล่าจิงจำ
ต้นองุ่นขนุนสำ มลอมะก่อสะตอสะเตียน ฯ
๏ พุมเรียงเคียงคัดเค้า บานช้ำ
ปู่เจ้าเหล่าจิงจำ ไขว่ขึ้น
ต้นองุ่นขนุนสำ มลอมาก
มะกอสะตอสะเตียนพื้น เลี่ยนเกลี้ยงตลิบเตียน ฯ

๗๐

๏ กำจายรายท้องที่ ต้นลิ้นจี่ทีทางจร
กลำเพาะเงาะเรียงสลอน สท้อนพวงพะงวงชุม ฯ
๏ กำจายรายที่ท้อง ดงดอน
ลิ้นจี่ที่ทางจร ป่ากว้าง
กลำเพาะเงาะเรียงสลอน ทรงลูก
สท้อนลางสาดสล้าง ลูกเลื้อยพะงวงชุม ฯ

๗๑

๏ จิงจ้อยอยมโดย ดวงรายโรยโชยชายชม
ฉิ่งชี่ถี่ทางสม ร่มรื่นสนุกปลุกปลื้มใจ ฯ
๏ ยมโดยยอจิ่งจ้อ สลอนสลม
ดวงโรยโชยชายชม ชื่นหน้า
ฉิ่งชี่ถี่ทางสม เย็นเฉื่อย
ร่มรื่นสนุกริกหร้า ปลุกปลื้มใจหญิง ฯ

๗๒

๏ กล้วยไม้ห้อยต่ำเตี้ย นมตำเรียเรี่ยทางไป
หอมหวังวังเวงใจ ว่ากลิ่นแก้วแล้วเรียมเหลียว ฯ
๏ กล้วยไม้ห้อยย้อยคลี่ ดวงไสว
นมตำเรียรายไป กลิ่นกล้า
หอมหวังวังเวงใจ รสราค
ว่ากลิ่นแก้วแล้วข้า หยุดยั้ง แลเหลียว ฯ

๗๓

๏ ทองกวาวคราวดอกแดง เชิงจำแจงแดงเหียนหัน
ลำไยไม้มูกมัน เคี่ยมตะเคียนเลี่ยนรังเรียง ฯ
๏ ทองกวาวคราวดอกพร้อม แดงฉัน
เชิงจำแจงเหียงหัน เหี่ยวต้น
ลำไยไม้มูกมัน เฟืองฝ่อ
เคี่ยมตะเคียนเลี่ยนต้น หมู่ไม้รังเรียง ฯ

๗๔

๏ เจตพังคีสีเสียดสรล พรมคดปนคนทาดง
เล็บครุฑสุดสูงระหง ต้นเต่าร้างกร่างแต้วกะโดน ฯ
๏ สรลส้อยสีเสียดขึ้น เปนกง
พรมคดคนทาดง ด่านกว้าง
เจตพังคีสูงระหง พังอาด
เล็บครุฑต้นเต่าร้าง กร่างแต้วกะโดนหนา ฯ

๗๕

๏ ตรดตรวยสลวยร่มชื้อ สะตอสะตือชื่อหลายมาน
มะหาดมะตาดแสมสาร มะตูมมะขวิดจิตมูลเพลิง ฯ
๏ ตรดตรวยสลวยร่มชื้อ เสถียรสถาน
สะตอสะตือชื่อหลายมาน มากพ้น
มะหาดมะตาดแสมสาร สนับสนุ่น
มะตูมมะขวิดติดต้น ดกไม้เจตมูล ฯ

๗๖

๏ ปอเป้งเตงเตยตาล สรลตระการปานหางโต
ต้นทองตลองตองโพ สักสูงสุดพุดซากะถิน ฯ
๏ เตยตาลตอป่านเป้ง เตงอะโข
สรลเปรียบหางสิงห์โต ต่ำผุ้ม
ต้นทองตลองตองโพ ทเลเรียบ
พุทราสักสูงกลุ้ม ค่าไม้กะถินงาม ฯ

๗๗

๏ ปรูประระกำดก ต้นรกฟ้าหญ้านางแฝง
พัวพุ่มชุมแสงแซง ลูกติดต้นหล่นลงเนือง ฯ
๏ ปรูประเดียรตาดด้วย ระกำแดง
รกฟ้าหญ้านางแฝง ฝากเหรื้อง
พัวพุ่มชุมแสงแซง กางกิ่ง
ลูกดกตกลงเหนื้อง กลาดกลุ้มกลางกิน ฯ

๗๘

๏ พาดไฉนตะไคร้มะนาว เทียนช้างน้าวหาวมนทรี
ชเอมเขล็นเบญจกานี หงอนไก่สลับทับทิมบาน ฯ
๏ พาดไฉนตะไคร้เนื่อง มะนาวมี
ช้างน้าวหาวมนทรี หนาดน้ำ
ชเอมเขล็นเบญจกานี เทียนป่า
หงอนไก่ทับทิมกล้ำ กลีบช้อยแดงฉัน ฯ

๗๙

๏ น้อยหน่าหนาเปนเหล่า น้อยแหน่เล่าเต้าตามชม
นางนวลนวลนางสม หว้านน้ำกลุ้มกทุ่มนาขนาน ฯ
๏ น้อยหน่าน่าลูกพร้อม โตกลม
น้อยแหน่เต่าตามชม ชื่นผุ้ม
นางนวลนวลนางสม โสภิศ
หว้านน้ำมีเกลื่อนกลุ้ม กทุ่มท้องนาขนาน ฯ

๘๐

๏ ไผ่เทศงามผาดผุด ต้นเล็บครุฑพุทธรักษา
ทองสิบอย่างงามนานา เข้าตอกแตกแปลกดอกขาว ฯ
๏ ไผ่เทศงามเงื่อนแต้ม เลขา
เล็บครุฑพุทธรักษา โทษคุ้ม
ทองสิบอย่างตรูตรา งามเลิศ
เข้าตอกแตกดวงกลุ้ม แปลกด้วยดอกขาว ฯ

๘๑

๏ มังคุดลมุดหมากเหม้า เหล่าทุเรียนเนียรภูสี
มูลมังสังกรณี มีร้อนลิ้นอินทผาลำ ฯ
๏ มังคุดลมุดหมากเหม้า มากมี
ทุเรียนเนียรภูสี ค่าค้อม
มูลมังสังกรณี มีมาก
ต้นร้อนลิ้นขึ้นล้อม หมู่ไม้อินทผล ฯ

๘๒

๏ แทงทวยกล้วยกุตีบ ต้นปีบไสวไข่เน่าหอม
พองลมพนมพนอม น่องโลดเลียบหลาหลกปะโลง ฯ
๏ แทงทวยกล้วยตีบเลื้อย เครืองอม
ปีบไสวไข่เน่าหอม ทั่วเบื้อง
พองลมพนมพนอม ลำเจียก
โลดเลียบหลาหลกเหนื้อง น่องต้นปะโลงสาร ฯ

๘๓

๏ หมากม่วงพวงพรวนย้อย พิมเสนห้อยสอยมากิน
สุกห่ามตามใจถวิล เอาตะกร้อซอเกี่ยวลง ฯ
๏ หมากม่วงพวงห่ามย้อย ยามเห็น
พรวนพิมเสนเหลืองเปน ปากกร้อ
หมอนทองม่วงมันเย็น เดิรสู่
สอยแส่พลางหัวหร้อ หล่นกลุ้มชิงกัน ฯ

๘๔

๏ หมากม่วงดิบห่ามฝาน ใส่ในจานพานตบะรอง
นั่งล้อมห้อมเนืองนอง จิ้มน้ำปลางาปิกิน ฯ
๏ หมากม่วงดิบห่ามให้ ปอกฝาน
งาปิน้ำปลาจาน จุ่มจิ้ม
นั่งล้อมห้อมกินกราน กินอยู่
เข็ดฟันผันหน้ายิ้ม อิ่มเอื้อนราถอย ฯ

๘๕

๏ ชมร่มไม้ไทรไตร เรไรไพรแว่วแจ้วเสียง
เรื่อยเฉื่อยสำเนียงเพียง ปี่รี่เสนาะเพราะเพลงเครง ฯ[๕]
๏ เดิรเพลินชมร่มไม้ ไทรไตร
สดับศัพท์เรไรไพร แว่วแจ้ว
ระกำลำไยไพร เลือนเถื่อน
มังคุดลมุดแต้วแก้ว กุ่มกถุ้มทรม่วงมะงวง ฯ[๖]

๘๖

๏ หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง
ลิงไต่กะไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง ฯ[๗]
๏ หัวลิงหมากเรียกไม้ ลางลิง
ลางลิงหูลิงลิง หลอกขู้
ลิงไต่กะไดลิง ลิงห่ม
ลิงโลดฉวยชมผู้ ฉีกคว้าประสาลิง ฯ[๘]

๘๗

๏ ปุ้มไก่แลหงอนไก่ ต้นหางไก่แลสร้อยไก่
โหราเดือยไก่ไก่ ให้เทียนไก่ไก่จับนอน ฯ
๏ ปุ้มไก่หงอนไก่ต้น เรียงไสว
หางไก่แลสร้อยไก่ กกก้อง
โหราเดือยไก่ไก่ เมียงม่าย
ต้นเทียนไก่ไก่ร้อง ไก่เตี้ยจับขัน ฯ

๘๘

๏ เพกาต้นตุมกา โยทกากรรณิกา
ชุมกาแลสาบกา ต้นมะกากาจับนอน ฯ
๏ เพกาตุมกาต้น กาลา
โยทกากรรณิกา ถี่ก้อง
ชุมกาแลสาบกา กาสู่
ต้นมะกาการ้อง จับไม้กาหลง ฯ

๘๙

๏ ธารไหลใสสอาด มัจฉาชาติดาษนานา
หวั่นหว้ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว ฯ
๏ ธารไหลใสสอาดน้ำ รินมา
มัจฉาชาตินานา หวั่นหว้าย
จอกสร่ายกินไคลคลา เชยหมู่
ตามคู่มาคล้ายคล้าย ผุดให้เห็นตัว ฯ

๙๐

๏ นั่งเล่นเห็นหมู่ปลา พรั่งพรูมาเหล่าเหลือหลาย
กินเข้าเอาโปรยปราย ปลามาใกล้ได้เห็นตัว ฯ
๏ นั่งชมปลาหมั้วหมู่ เรียงราย
พรูพรั่งมาเหลือหลาย ว่ายหวิ้ง
กินเข้าเอาโปรยปราย ลงบ่อย
ปลาว่ายใกล้ได้ทิ้ง ห่อเข้าดูปลา ฯ

๙๑

๏ ปลาแปบแลปลาเป้า ปลาเข้าเม่าปลาคางเบือน
ปลาม้าหน้าคนเหมือน ปลากดกรายสวายหางแดง ฯ
๏ ปลาดุกปลาแปบเป้า แลเลือน
เข้าเม่าเหล่าคางเบือน มุ่งหม้าย
ปลาม้าหน้าคนเหมือน คนอยู่
ปลากดกรายสวายหว้าย โบกน้ำหางแดง ฯ

๙๒

๏ ตะตรับคอยตรับหู หมู่ปลาบู่ว่ายเวียนแฝง
สร้อยส้าปลาหมอแขยง ปลาแมงภู่หมู่กระทงเหง ฯ
๏ ปลาตะตรับคอยกะตั้ง หูแขง
ปลาบู่ว่ายเวียนแฝง ฝั่งน้ำ
สร้อยส้าปลาหมอแขยง สังกวาด
แมงภู่ดูโลดล้ำ พรั่งพร้อมกะทุงเหง ฯ

๙๓

๏ ปลาอ้าวปลาเนื้ออ่อน ว่ายมาก่อนปลาหนามหลัง
กระแหหางแดงหวัง เข้าสู่ทุ่งมุ่งเลมไคล ฯ
๏ ปลาอ้าวเนื้ออ่อนหญ้า ตัวบัง
มาก่อนปลาหนามหลัง อยู่หน้า
กระแหหางแดงหวัง คลาแหล่ง
เข้าสู่ทุ่งเลมหล้า เหยื่อย้ำกินไคล ฯ

๙๔

๏ ปลากะโห้ชโดแฝง ช่อนชวาดแชวงแฝงครัน
หน้าสั้นปลานวลจันทร์ ปลาอ้องแอ้งปลาเสือหมู ฯ
๏ ปลาชะโดกะโห้ใฝ่ แฝงกัน
ช่อนชวาดแชวงสูบครัน ว่ายแว้ง
หน้าสั้นอิกนวลจันทร์ หลายเหล่า
ปลาทุกท้องอ้องแอ้ง หมึกเหม้าเสือหมู ฯ

๙๕

๏ กดคลังปลากสังมี ปลากระดี่ปลาดุกอุย
พ่นน้ำกะจายกะจุย ปลาหูช้างช้างเหยียบซิว ฯ
๏ กดคลังปลากสังหว้าย ชายงุย
ปลากระดี่ปลาดุกอุย แอบข้าง
พ่นน้ำกระจายกระจุย หลายเหล่า
ปลาชื่อหูช้างช้าง เหยียบบี้ปลาซิว ฯ

๙๖

๏ เทโพแลเทพา ตะเพียนพาพาพวกจร
ไอ้บ้าปลาสลุมพอน ผักพร้าเพรี้ยแลหนวดพราม ฯ
๏ เทโพพาพวกพ้อง เทพา
ปลาตะเพียนปลากาพา คู่เคี้ย
สลุมพอนไอ้บ้าปลา หลายหมู่
ปลาผักพร้าม้าเพรี้ย ว่ายไหล้หนวดพราม ฯ

๙๗

๏ ฝูงนาคมากหมู่มา ดำน้ำท่าหาอาหาร
ฝูงปลามาพะพาน ขบได้ถนัดกัดกินเนือง ฯ
๏ ฝูงนาคมากหมู่หมั้ว ดาขนาน
ดำน้ำหาอาหาร แกล่กล้ำ
ฝูงปลามาพอพาน พะปาก
ขบถนัดกัดใต้น้ำ ผุดขึ้นกินเนือง ฯ

๙๘

๏ งูเหลือมคอกระหวัดไม้ หางกระหวัดไว้ใฝ่อาหาร
วิดน้ำในห้วยธาร โพงไปมาเอาปลากิน ฯ
๏ งูเหลือมแบนท้องแผ่ คือกะดาน
วิดน้ำหาอาหาร ใฝ่กล้ำ
โครมครุ่นในห้วยธาร เสียงฉ่า
โพงสาดไปให้น้ำ ซ่านสิ้นกินปลา ฯ

๙๙

๏ งูเหลือมบนกิ่งไม้ ใบหนาใส่ซ่อนซอน
แกกาช้างวานร พอมาใกล้ได้ฉวยกิน ฯ
๏ งูเหลือมบนค่าไม้ ใบสลอน
คางซบแนบแอบนอน ซ่อนเร้น
แกกาค่างวานร ลืมร่าง
งูขบถนัดกัดเน้น ค่อยกล้ำกลืนกิน ฯ

๑๐๐

๏ จรเข้หลายว่ายเคียงคู่ เป็ดเปนหมู่ภู่เข้าไป
เป็ดบินสิ้นตกใจ คนพิศเพ่งเลงแลดู ฯ
๏ จรเข้ใหญ่น้อยว่าย ชลใส
ภู่ตามเป็ดน้อยไป เรื่อยรี้
เป็ดน้ำดำตกใจ บินตื่น
คนคล่ำเลงแลชี้ บอกให้กันดู ฯ

๑๐๑

๏ เป็ดหงส์ลงธารา คล่ำดำหาปลาตะเพียนเวียน
ไล่ลัดฉวัดเฉวียนเวียน หาปลาแปบแทบทันกัน ฯ
๏ เป็ดหงส์ลงท่องท้อง ธารา
เตร็จคล่ำดำหาปลา ก่ายหว้าย
แชวงแขยงม้ากา กดหลด
ได้แปบแทบกายหม้าย อ่าวค้าวตะเพียนเวียน ฯ

๑๐๒

๏ ตะพาบน้ำคลานขึ้นไข่ ฝังไข่ไว้ในหาดทราย
ตริวตราวเต่าม่านลาย ผุดดำคล้ายว่ายเห็นตัว ฯ
๏ ตะพาบน้ำคลานขึ้นไข่ ตีนตะกาย
ฝังไข่ในหาดซาย กลบเกลี้ยง
ตริวตราวขนุม่านลาย ตระเต่า
ดำผุดคล้ายว่ายเพี้ยง ก่ายกลุ้มหนาตัว ฯ

๑๐๓

๏ ปูกุ้งลอยก่งก้าม แลเหลือหลามย่ามเหยื่อหา
หอยโข่งหอยขมตา วัวก็มีที่ท้องธาร ฯ
๏ ปูกุ้งลอยก่งก้าม ไคลคลา
เหลือหลามย่ามเหยื่อหา สู่ส้อง
หอยโข่งหอยขมตา วัวเกลื่อน
สารพัดมีที่ท้อง ท่าน้ำธารสินธุ์ ฯ

๑๐๔

๏ เถาวัลย์พันพฤกษา ถีบชิงช้าช้าแกว่งไกว
ทำเพลงวังเวงไพร ส่งเสียงเรื่อยเฉื่อยละคอนเครง ฯ
๏ เถาวัลย์พันไม้หย่อน ลงมา
สาวนั่งถีบชิงช้า ห่วงห้อย
ทำเพลงวังเวงอา รมณ์ชื่น
เสียงส่งเพราะดอกสร้อย ฉ่ำร้องละคอนเครง ฯ

๑๐๕

๏ ลมพัดมาเรื่อยเรื่อย เย็นชวยเฉื่อยสำราญใจ
ปูผ้านอนหลับใน ใต้ร่มไม้ไทรสาขา ฯ
๏ ลมพัดมาเฉื่อยชื้อ เย็นใจ
ปูผ้านอนหลับใหล กลาดกลุ้ม
ฟูกหมอนเรียบกันไป หลายเหล่า
นอนอยู่ใต้ไทรผุ้ม ร่มไม้ไพศาล ฯ

๑๐๖

๏ ลางนางอาบน้ำท่า ทาขมิ้นเหลืองพึงชม
ทาแป้งแกล้งหวีผม ผัดหน้านวนยวลใจชาย ฯ
๏ ลางนางตักน้ำท่า อาบองค์
ขัดขมิ้นเหลืองบรรจง ลูบน้ำ
หวีเกล้าเอาเทริดทรง ผมปีก
ผัดหน้านวนงามล้ำ ยั่วเย้าใจชาย ฯ

๑๐๗

๏ จบเสร็จชมนกไม้ ในแหล่งไหล้พนัศสถาน
หญิงชายฟังสำราญ ที่ผิดอ่านวานแต้มเขียน ฯ
๏ จบเสร็จชมนกไม้ โคลงการ
ชมแหล่งไพรพนัศสถาน เถื่อนกว้าง
หญิงชายชื่นชมบาน ใจโลกย์
ใคร่อ่านวานเติมบ้าง ช่วยแต้มเขียนลง ฯ

๑๐๘

๏ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ไชยเชษฐสุริย์วงศ์เพียร
แต่งไว้ให้สถิตเสถียร จำเนียรกาลนานสืบไป ฯ
๏ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์เจ้า ทรงเขียน
ไชยเชษฐสุริย์วงศ์เพียร เลิศหล้า
แต่งไว้ให้สถิตเสถียร ในโลกย์
จำเนียรกาลนานช้า อ่านอ้างสรรเสริญ ฯ
๏ เจ้าฟ้า หนุ่มน้อยราช กุมาร
ธรรม์ ธำรงกลอนการ ยั่วแย้ม
ธิเบศร์ วราสถาน ไชยเชษฐ
สุริย์วงศ์ ทรงโคลงแต้ม แต่งไว้วานสงวน ฯ
๏ เจ้าฟ้า เลิศล้ำโพธิ สมภาร
กรมขุน หลวงพญากราน กราบเกล้า
เสนา นราบาน ใจชื่น ชมนา
พิทักษ์ รักษาเช้า ค่ำด้วยใจเกษม ฯ
๏ จบ จนจอมโลกย์เจ้า คืนวัง
บ พิตรสถิตยบัลลังก์ เลิศหล้า
ริ ร่างกาพย์โคลงหวัง ชนโลก อ่านนา
บูรณ์ พระโคลงเจ้าฟ้า ธิเบศร์เจ้าจงสงวน ฯ
๏ อักษรเรียบเรียงถ้อย คำเพราะ
ผู้รู้อ่านสารเสนาะ เรื่อยหรี้
บรู้อ่านไม่เหมาะ ตรงเทิ่ง ไปนา
ทำให้โคลงทั้งนี้ ชั่วช้าเสียไป ฯ
๏ อักษรสรรค์สร้างช่าง ชุบจาน
โคลงก็เพราะเสนาะสาร แต่งไว้
ผู้รู้อ่านกลอนการ พาชื่น ใจนา
ผู้บ่รู้อ่านให้ ขัดข้องเสียโคลง ฯ

[๙]เป็ดหงส์ลงธารา คลํ่าหาปลาตะเพียนเวียน
ไล่ลัดฉวัดเฉวียนเควียน หาปลาแปบแทบทันกัน ฯ
๏ เป็ดหงส์ลงท่องท้อง ธารา
เตร็ดคลํ่าดำหาปลา ก่ายหว้าย
ไล่แชวงแขยงม้ากา กดหลด
ได้แปบแทบกายหว้าย อ่าวค้าวตะเพียนเวียน ฯ

๏ แสมแก่กิ่งโกง ต้นเป็นโพรงตลอดปลาย
ตาตุ่มลุมพุมราย หน้าลูกอ่อนรอกซอนกิน ฯ
๏ แสมแก่กิ่งก้ม ปุ่มปลาย
ต้นโพรงโปร่งตลอดปลาย ยอดด้วน
ตาตุ่มพุมพุราย เรียงเรียบ
ลูกอ่อนรอกซอนหง้วน เลียบเลี้ยงกิ่งกิน ฯ

๏ โกงกางสล้างต้นเตี้ย เปี้ยวเก็บเขี่ยเรี่ยรายดิน
ตัวน้อยคอยเล็มกิน ยินเรือใกล้ไพล่ลงรู ฯ
๏ โกงกางสล้างต้นเตี้ย เต็มงาม
เปี้ยวเที่ยวเก็บกินตาม ไต่ผุ้ม
โคลนสลุดขุดได้หาม เพื่อนแย่ง
ตัวน้อยคอยเล็มกลุ้ม เรือใกล้รูลง ฯ

๏ ไชเลนเป็นแอ่งอู่ กำพวด (อยู่) ประจำวัง
ตาหูดูน่าชัง ครีบหางลายคล้ายปลาตีน ฯ
๏ ไชเลนเป็นแอ่งอู้ (ประจำวัง)
กำพวดตีแปลงปลัง ก่ายหว้าย
ตาหูดูน่าชัง เกล็ดเกรด
ครีบหางคางลายคล้าย รูปปลาตีนเหมือน ฯ

๏ กรรมใดให้ไกลห้อง จำจากน้องสองยามปลาย
น้ำตาพี่บวาย แต่ครวญคร่ำร่ำโศกา ฯ
๏ กรรมใดไกลแก้วพี่ กัลยา
สองยามความเสน่หา ห่างห้อง
ครวญคร่ำร่ำโศกา แสนโศก
เพราะนิราศสวาทน้อง อกดิ้นแดยัน ฯ

๏ สลัดไดไม่สลัดน้อง จำใจร้างห่างห้องมา[๑๐]
รักซ้อนถอนใจหา คือใจไม่เห็นอรอร[๑๑]
๏ สลัดไดไม่สลัดน้อง เพื่อนคลา
จำใจร้างห่างหา คลาดแคล้ว
รักซ้อนถอนใจหา ครวญครุ่น
ดีฤไข้ไม่เห็นแก้ว สุดรู้เรียมศัลย์ ฯ

๏ กำจัดพลัดน้องไกล ชมชื่อไม้ยิ่งโศกสูญ
หิ่งหายสวาทพูน เดินเปล่าข้างวังเวงใจ ฯ
๏ กำจัดพลัดน้องเร่ง รำพึง
ชมชื่อไม้ใจคะนึง โศกสร้อย
พลัดคู่จากคล้ายคลึง สูญสวาท พี่นา
เปล่าข้างอ้างว้างละห้อย ว่างเว้เรรน ฯ

๏ หิ่งหายหายใจไห้ คนใดได้ไห้ครวญหา
กรรมแล้วแก้วพี่อา จะละห้อยคอยหาเรียม ฯ
๏ หิ่งหายหายใจไห้ ครวญหา
กรรมใดได้ทำมา จึ่งร้าง
ครวญคร่ำร่ำโศกา ฤๅขาด ทุกข์เอย
ป่านฉะนี้สวาทผ้าง โศกสร้อยคอยเรียม ฯ

[๑] เอ็นดู

[๒] ต้นฉบับใช้ “ก่งฅอคูคู่ขานขัน”

[๓] ชื่อกาพย์เลื่อนลำ ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๖๖ ใช้ว่า “กาพย์บาทเลื่อนล้า”

[๔] ชื่อโคลงบาทเลื่อนลำ ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๖๖ ใช้ว่า “โคลงบาทเลื่อนล้า”

[๕] กาพย์ชื่อทันทีบท

[๖] โคลงชื่อทันทีบท ๑๒ คู่

[๗] กาพย์ชื่ออรรถอักษร

[๘] โคลงชื่ออรรถอักษร

[๙] กาพย์ห่อโคลงตั้งแต่บทนี้ไปจนจบ ล้อม เพ็งแก้ว เป็นผู้ค้นพบต้นฉบับในแบบเรียนโบราณเรื่อง “มณีจินดา”

[๑๐] อ.ล้อม เพ็งแก้ว เห็นว่าน่าจะเป็น “จำห่างห้องร้างน้องมา”

[๑๑] อ.ล้อม เพ็งแก้ว เสนอว่าบาทนี้น่าจะเป็น “ดีหรือไข้ไม่เห็นอร”

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ