๖๐ ประกาศเรื่องรับเบี้ยหวัดแทนกัน

ลงวันจันทร์ เดือน ๑๑ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก

วันจันทร์ เดือน ๑๑ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระสิงหบัญชร พระรจนารังสรรค์ จางวางกรมช่างสิบหมู่ ทำเรื่องราวกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า กรมช่างสิบหมู่ ที่ได้รับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดนั้น ไม่มีตัวเข้ามารับพระราชทานน้ำพิพัฒสัตยาเหมือนอย่างรับพระราชทานเงินเบี้ยหวัด แลเลขไพร่หลวงช่างสิบหมู่ซึ่งสักไว้นั้น ก็ปิดบังเอาไว้เปนอาณาประโยชน์โดยมาก ครั้นถึงกำหนดพระราชทานเบี้ยหวัดแล้วก็จ้างวานคนอื่นๆ เข้ามารับพระราชทานแทนไปเปนประโยชน์แห่งตนตามรายชื่อซึ่งยื่นหางว่าวไว้ ครั้นได้ทรงทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทดังนั้น จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ดำรัสถามพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศร์ ๆ จึงกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า เบี้ยหวัดทุกวันนี้จ้างวานคนอื่นเข้ามารับนี้ทุกแห่งทุกกรม จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สั่งพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศร์ ให้เอาตัวเจ้ากรม ปลัดกรม สมุห์บาญชี สารวัด นายหมวดนายกองกรมช่างสิบหมู่มาชำระเอาตัวคนมารับราชการให้สิ้นเชิง อย่าให้คบคิดกันจ้างวานคนอื่นเข้ามารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดแทนคนในกรมไปเปนประโยชน์แห่งตนเปนประโยชน์ท่านผู้อื่นเปนอันขาด แล้วอย่าให้คบคิดปิดบังเอาเลขไพร่หลวงไว้ใช้สอยสืบต่อไป ปิดบังเอาไพร่หลวงไว้นั้นก็อยู่ในฉ้อพระราชทรัพย์เหมือนกัน การซึ่งจ้างวานคนเข้ามารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดไปนั้นก็เปนเช่นนี้อยู่โดยมาก จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปห้ามมิให้เจ้ากรม ปลัดกรม สมุห์บาญชีสารวัด นายหมวดกรมใดๆ จ้างวานคนอื่นเข้ามารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดแทนคนในกรมเปนอันขาด ถ้าแลกรมใดๆ ยังขืนจ้างวานคนเข้ามารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดแทนคนไปแล้วก็ดี แลจ้างวานเข้ามาแล้วยังไม่ได้รับเงินไปก็ดี เจ้าพนักงานจับได้แลมีผู้มาฟ้องร้องกล่าวโทษ ฤๅคนที่รับจ้างวานเข้ามานั้นกลัวพระราชอาญาเปนโจทย์ฟ้องกล่าวโทษขึ้น ว่าเจ้ากรม ปลัดกรม สมุห์บาญชี สารวัด นายหมวดคนนั้นกรมนั้น จ้างวานเข้ามารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดแทนคนนั้นๆ พิจารณาได้ความสัจจริงแล้ว จะให้เอาเบี้ยหวัดผู้นั้นตั้งปรับไหมเจ้ากรม ปลัดกรม สมุห์บาญชี สารวัดนายหมวดในกรมนั้น โดยฐานจัตุรคูณตามเงินมากแลน้อย ผู้ที่รับจ้างวานเข้ามารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดนั้น ถ้าแลตัวไม่ได้ว่ากล่าวขึ้นเจ้าพนักงานจับได้ จะให้ลงพระราชอาญาปรับไหมทวีคูณ ด้วยมิใช่ตัวผู้นั้นเข้ามารับแทนผู้นั้น เงินที่ปรับไหมได้มานั้น จะโปรดพระราชทานให้เปนบำเหน็จรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้ที่จับได้ แลผู้ที่มาลุกะโทษเปนโจทย์ว่านั้นส่วนหนึ่ง ส่วนหนึ่งให้ส่งพระคลังมหาสมบัติไว้จ่ายราชการต่อไป

อนึ่งคนซึ่งได้รับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดกรมใดๆ ป่วยเจ็บจะมารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดไม่ได้ ก็ให้เจ้ากรม ปลัดกรม สมุห์บาญชี สารวัดกรมนั้นๆ กราบทูลพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศร์ แลบอกเจ้าพนักงานให้รู้ ว่าคนนั้นๆ ป่วยเจ็บจะมารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดไม่ได้จงทุกหมู่ทุกกรมตามรับสั่ง จะโปรดให้เจ้าพนักงานกำกับกันคุมเงินไปพระราชทานแก่ผู้ซึ่งป่วยเจ็บนั้นทุกๆ คน ถ้าคนซึ่งป่วยเจ็บนั้นบ้านไกล ก็ให้เจ้ากรม ปลัดกรม สมุห์บาญชี สาบาล แล้วพาบุตรภรรยาญาติผู้ที่ป่วยเจ็บมารับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดจงทุกคน โปรดให้ตีพิมพ์ประกาศข้าทูลลอองธุลีพระบาท ในพระบรมมหาราชวัง แลในพระบวรราชวัง ให้รู้จงทั่วทุกหมู่ทุกกรมตามรับสั่ง.

หมายประกาศตีพิมพ์ ณวันศุกร์ เดือน ๑๒ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ