๑๑ นิทานเรื่องท้าวรัตนราชได้นางในงาช้าง

กาลก่อนบังมี พระยาหัสดี เผือกผ่องผิวพรรณ อยู่ป่าหิมพานต์โพ้น ป่าใหญ่โน้นเนานานครัน บิดาพาจรจรัล เที่ยวอรัญมาช้านาน บิดาจึ่งสั่งสอน ลูกรักอุทร พ่อสอนพิศาล จะสู้ศัตรู ให้รู้ถิ่นฐาน ไชยภูมไชยชาญ อันเปนมงคล ถึงกำลังน้อย เจ็ดเท่าอย่าถอย ศัตรูแพ้พล มีอำนาจมาก เจ็ดภาคอนนต์ เจ้าอย่าร้อนรน กลัวศัตรูเลย สอนลูกมินาน บิดาถึงกาล ลูกเศร้ามิเสบย บริวารบิดา โศกาไฉนเลย ร่ำรักถึงเคย กินอยู่ด้วยกัน ลูกพระคชสาร จึ่งได้บริวาร ของบิดานั้น มีพระยาช้างดำ เลิศล้ำตัวขยัน บริวารช้างนั้น ห้าร้อยรักษา คชสารนั้นคิด ช้างเผือกสิ้นชีวิต เราจะเอาโยธา บริวารทั้งสิ้น เปนของอาตมา คิดแล้วจึ่งมา ร้องก้องโกญจไน บุตรคชเสตา ได้ยินเสียงมา กึกก้องหวั่นไหว ให้ส่งบริวาร คชสารเผือกไป ถ้ามิส่งให้ เราจักสู้กัน บุตรเศวตกุญชร ร้องตอบคำย้อน ว่าท่านอาธรรม์ แต่ก่อนอาไศรย ท่านไททุกวัน ครั้นท่านอาสัญ มาชิงบริวาร เราไม่ให้ไป จะทำอย่างไร ไม่กลัวคชสาร ช้างดำได้ยิน ไล่บุกรุกราน ต่างตัวต่างหาญ ขวิดคว้าสอยเสย ยุทธย้ายงายง่า จ้วงโจนโผนผ่า งวงงาหง้าเงย แทงแถบท้าวถีบ งางวงสอยเสย ถ้าทางคางเคย รุกรอยถอยรา เจ็ดวันราตรี ช้างเผือกถอยหนี ลืมคำบิดา ไม่ได้ไชยภูม จึ่งถึงอัปรา ช้างดำโสภา นั้นมีกำลัง เวลาราตรี ช้างเผือกนั้นหนี ไขรอยถอยหลัง บริวารทั้งหลาย ทั้งพลายแลพัง แตกตื่นสิ้นทั้ง ห้าร้อยหนีไป ช้างเผือกจึ่งจร พบต้นอุทุมพร ต้นหนึ่งอาไศรย ยังมีพระยา องค์หนึ่งอำไพ พระนามท้าวไท รัตนราชราชา เสวยราชสมบัติ ในนครรัตน์ เสนาอเนกใน พระนั้นออกไป ชมไพรพฤกษา ติดตามมฤคา พบคชสารศรี เห็นช้างซบเซา ส่วนพระองค์เจ้า ไปใกล้ด้วยดี จึ่งถามตามเหตุ แห่งคชสารศรี ท่านมาอยู่นี่ เพราะเหตุอันใด ช้างเผือกบอกว่า ช้างดำหนึ่งมา รุกรานข้าไทย สู้กันกับเขา แทบม้วยตักไษย กำลังข้าไซ้ น้อยกว่าเขานา จึ่งล่าราถอย เพราะกำลังน้อย ต้องค่อยรั้งรา อาไศรยไพรพฤกษ ยังนึกยุทธนา กว่ากำลังข้า จะมีพีแรง กระษัตริย์จึ่งถาม แต่ต้นจนความ ตามปัญญาแถลง ญาติท่านยังได้สอนได้สั่ง ไว้บ้างฤๅอย่าแคลง สิ่งใดได้แจ้ง ในยุทธชิงไชย ช้างเผือกได้ฟัง ระฦกได้หนหลัง บิดาสอนไว้ ด้วยกลสังเกต ที่เหตุภูมไชย จึ่งคิดขึ้นได้ ดีใจคชสาร ลืมลับอัปยศ ปัญญาถอยถด เพราะโทโสมาน โมหันธ์ฟั่นเฟือน คลาดเคลื่อนถิ่นฐาน ลืมคำอาจารย์ จึ่งอัปราไชย คิดแล้วบอกว่า แด่พระราชา ให้ทราบหฤไทย บิดาข้าสอน บวรภูมไชย พึ่งคิดขึ้นได้ ด้วยไทท้าวถาม แต่หลงลืมไป จึ่งอัปราไชย เพราะใจไม่งาม ได้คิดติดใจ กลับไปปราบปราม ชิงไชยกลางสนาม ด้วยกาฬหัสดี ขอบคุณท้าวไท ถ้าข้ามีไชย แก่คชสารศรี จะไปแทนคุณ ตามบุญอันมี แก่เจ้ากูนี้ สมควรทดแทน พระยารัตนราช จึ่งให้โอกาศ อนุญาตมิแคลน ให้เสนาใน ไพร่พลนับแสน เก็บผลดลแดน กล้วยอ้อยมาประทาน ช้างเผือกเปนสุข สบายคลายทุกข์ มีสุขสำราญ ค่อยมีกำลัง หายเหนื่อยคชสาร สองสามวันวาร สำราญสบาย รุ่งขึ้นวันหนึ่ง ช้างเผือกนั้นจึ่ง ทูลลาพระยาไป อยู่ป่าหิมพานต์ ห้าวหาญฤทธิไกร ร้องก้องพงไพร โกญจนาทอาจอง คชกาฬได้ยิน เสียงพระยาหัสดิน ร้องร่านผลาญดง ดุ่มเด่าเหย่าเหยาะ ขวิดละเมาะเปนผง แลเห็นโฉมยง หมายเมียงมุ่งเมิน ระเห็จเตร็จแตร้น กระหึมแปร๋แปร๋น ไล่แล่นจรเจิน หูหางด่างดุ้ง พวยพุ่งมุ่งเมิน ข้ามทรอกตรอกเตริน เข้าหยุดยืนยัน สู้กันช้านาน เจ็ดราตรีกาล ช้างเผือกผกผัน ถอยหาไชยภูม อันดีสู้กัน ได้ที่ไชยภูมนั้น เห็นมีกำลัง ช้างดำตามมา เห็นคชสารกล้า ใหญ่โตขึงขัง เรี่ยวแรงหนักหนา เหลือกว่ากำลัง ลุกล้มหลายครั้ง พลาดพลั้งปราไชย ครั้นช้างดำตาย จึ่งชวนโฉมฉาย มีไชยเลิศไกร ได้ช้างบริวาร ศฤงคารสมไสมย สวัสดีมีไชย บริวารถึงพัน อยู่ช้ามินาน ช้างสารจึ่งมา แทนคุณพระยา ท้าวไททรงธรรม์ นางอยู่ในงา สุดาดวงจันทร์ ถวายแก่กระษัตริย์นั้น เปนอรรคมเหษี จึ่งใช้บริวาร ให้เก็บผลาหาร ลูกไม้อันมี มามากหลายพัน ทำขวัญสวัสดี กระษัตริย์สองศรี จะคืนภารา จึ่งลาคชสาร พานางเยาวมาลย์ พร้อมทั้งเสนา ไปถึงกลางทาง พบไทรสาขา ต้นหนึ่งอันปรา กฎใหญ่สูงศรี มีเทพารักษ มีฤทธิสิทธิศักดิ์ สำนักโสภี สิงสู่อยู่ใน พระไทรเรืองศรี สมเด็จผู้มี เธอพานางไป กับพลโยธา เสนีเสนา แรมมาในไพร ไปถึงกลางทาง อาไศรยต้นไทร นอนแรมอยู่ใน ราตรีนั้นนา เทวดานั้นมา เห็นนางฉายา รักใคร่ไม่วาง ลักพากัลยา ไปสู่พิมาน ต้นไทรสาขา ชมชิดเสนหา ด้วยนางทันตหัดถี พระยารัตนราช ตื่นขึ้นพิศวาส ไม่เห็นเทวี ตกพระไทยไหวหวาด เจียนจะขาดอินทรีย์ ร้อนรนแสนทวี สิ้นชีพบรรไลย พานรจึ่งว่า แก่พระยาภูตา ปิศาจพิไสย ทำการโดยด่วน ไม่ควรกับใจ เหมือนดังท้าวไท รักนางถึงตาย

ฝ่ายพระยากัลปประไลย จึ่งตอบคำไป ว่ามีนิยาย มงคลสองสิ่ง อันยิ่งเฉิดฉาย อันหนึ่งเปนภาย ในใจมากมี พานรจึ่งถาม มงคลอันงาม ทั้งสามอันดี จงบอกออกความ ให้งามถ้วนถี่ อย่างไรว่ามี นิยายมงคล พระยาปิศาจ ประกาศนุสนธิ์ ตามเรื่องยุบล ดังนี้แลนา

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ