บทที่ ๔

ม้าใช้อิเหนา ไปสืบทัพจรกา

ต่อบทร้อง “หวังจะช่วยชิงชัย” หน้า ๖

ม้าใช้ ไหนใครเป็นขุนพล แน่ะ ตานั่นช่วยพาไปสักที
ขุนพล ทำไม ธุระอะไรนั่น ชาวด่านหรือ ดีละ จะหาเจ้าพนักงานนำทางอยู่เดี๋ยวนี้ นึกว่าจะให้ไปผูกคออยู่แล้ว เคราะห์ดีออกมาเสียก่อน ยังไง ทางข้างหน้ายังอิกสักกี่ร้อย มีน้ำที่ไหนมั่ง พลับพลาอยู่ที่ไหนฮะ ดูทำท่าแน่ะ นี่แกไม่รู้หรือว่ากองทัพผู้ใด
ม้าใช้ ถึงจะรู้ไม่รู้ฉันก็จะไม่ทำให้แปลกอะไรกัน อย่าเพ้อไปเลยคุณ ดีฉันไม่ใช่ขุนด่านหน้าทะเล่อเหมือนคุณนึกดอก
ขุนพล ชะเจ้าขุนด่านหน้ากล้อ นี่ไม่รู้จริงจริงหรือว่ากองทัพใคร จึงทำป่อไปยังงั้น บอกกันเสียจริงจริงเถอะจะบอกให้
ม้าใช้ ก็บอกแล้วนี่นะว่าไม่ใช่ขุนด่าน ฉันเป็นนายทหารของสมเด็จพระบรมอรรคราโชรสกรุงกุเรปันรับสั่งใช้ให้มาดู ว่าทัพท่านเป็นทัพใครดอกคุณ
บ่าวขุนพล แอยังงั้นผมบอกมั่ง เจ้าคุณทั่นเป็นเจ้าคุณขุนพลแม่ทัพหน้า ของสมเด็จบรมกระษัตริย์เจ้ากรุงจรกา รู้หรือยังละ เจ้าของเขาโตกว่าเจ้าของแก
ม้าใช้ พ่อคุณเถอะ บอกสักหน่อยเถอะ ว่าจรกานั่นคือใคร มาทำไม
ขุนพล เอ๊ เจ้านี่เซ่อมาแต่ไหน พระองค์ผู้ทรงนามจรกาธิราชนั้น คือผู้ที่จะเป็นสามีของพระราชบุตรีกรุงดาหานั้นซิ อย่าทำเซ่อไปหะ หน้าซีด อย่าตื่นไป ไม่เป็นไร เจ้าของเราพระไทยดี อดทนไม่ลงโทษแก่ผู้ที่ไม่รู้ ไม่ตั้งใจทำผิดทางยุติธรรมดอก
ม้าใช้ อะไรละ ฉันหน้าตื่นหรือ ฮะ ฮะ ฮะ ท่านว่าเอาที่ฉันไม่เคยเป็นเลยสักที ตั้งแต่เกิดมาเป็นตัว เอาเถอะ แม้นจะเป็นขึ้นคราวนี้ คุณอย่านึกว่าเป็นเพราะตกใจ ถ้าจะเป็นก็เป็นเพราะมาได้ยินไอ้การที่ไม่ควรจะได้ยินดอก ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ จรกาสามีของสมเด็จพระราชบุตรี
ดาหา ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ จะเป็นอย่างไรนะ รูปร่างจะเป็นพรรณไหน ฮะ ฮะ ฮะ
บ่าวขุนพล (หัวเราะ) ชะ ทำไมนะ ขันจริงพิโธ่ แค่นด้วย นี่หรือนายทหาร หิ หิ หิ หิ หิ หิ หิ หิ หิ ไม่รู้จักเจ้าชีวิตรก็ได้ด้วย ทะไม่น่ะ รูปท่านก็เป็นคนอย่างข้านี่แหละ จะแปลกอะไร เว้นแต่ท่านทรงเครื่องอะไรอะไรงามกว่าข้าเท่านั้น
ขุนพล เสือก พูดผิดผิดถูกถูก หลังจะลายละอ้ายนี่ เอาเสียเดี๋ยวนี้ละ อึ อึ
ม้าใช้ ช้าขอรับ ถ้าแลเจ้าของคุณอยู่ในธรรมไม่ลงโทษแก่ผู้ไม่รู้ไม่แกล้งเหมือนคุณว่าจริงแล้ว คุณก็เห็นจะไม่ทำโทษแก่คนที่พูดจริงดอกขอรับ แกพูดจริงดอก ฮะ ฮะ ฮะ น่าจะอยากรู้แท้แท้ ว่าชาวจรกาจะมีกระจกส่องหรือไม่มีหนอ
บ่าวขุนพล ดูเถอะขอรับ เมื่อแกพูดยังงี้จะให้ผมอดยังไงได้นี่ กระจกไม่มีก็นึกได้ ข้าหาใช่เมืองป่าไม่ดอกพ่อเอ๊ย จะได้ไม่มีกระจก ทำไมเมืองแกหายากนักหรือ
ม้าใช้ ฮะ ฮะ ฮะ อย่าโกรธขึ้งไปเลยเพื่อนเอ๋ย ข้าขอถามอิกคำเถอะ กระจกเมืองแกน่ะเขาส่องกันข้างหน้าหรือข้างหลัง ถามจริงจริง
บ่าวขุนพล บ้า บ้าแน่ ให้ข้าดิ้นปัดปัดไปเถอะ ฮะ ฮะ ฮะ ส่องกระจกข้างหลังก็มีด้วย พิโธ่ พิโธ่ นี่คนหรืออะไรน่ะหึ
ม้าใช้ ทำไมนะ ข้าจะว่าให้ฟัง ถ้าหากชาวเมืองแกมีกระจก เจ้าของแกก็คงมี ไม่ต้องสงสัย ถ้าเขารู้จักส่องมันข้างหน้าท่านก็คงรู้จักส่องมัน มันเห็นได้เหมือนกัน นี่ทำไมมันไม่เช่นนั้น น่าสงสัยนัก
บ่าวขุนพล อะไรล่ะ เจ้าข้าไม่รู้จักส่องกระจก อุบ๊ะ บ้า บ้าแน่
ม้าใช้ ช้า ฟังอิกก่อน เจ้ารู้แล้วสิว่ากระจกนั่นเขาใช้ส่องเพื่อจะให้เห็นหน้าว่ามันเป็นยังไง ยังงี้แหละข้าจึงนึกว่าเจ้าแก่ไม่มีกระจก หรือส่องไม่เป็น เพราะถ้าได้ส่องสักทีแล้วที่ไหนจะกล้าออกหน้าอวด อย่าว่าแต่ผู้หญิง ที่สุดผู้ชายก็อวดไม่ได้ นี่ไม่ยังงั้น เห็นผันออกลึกซึ้ง ผิดเชิงที่ข้าจะเชื่อ ว่าเมืองแกมีกระจกได้ แฮะ ถึงมีก็มีแต่ก่อนก่อน แต่เดี๋ยวนี้เห็นจะมีกฎหมายห้ามไม่ให้ใช้เป็นแน่ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ
ขุนพล เอ อ้ายนี่หยาบใหญ่ทีเดียวนี่หว่า ไม่ได้การ เห็นจะปล่อยตัวไปไม่ได้
ม้าใช้ ช้า ช้า ขอรับ ใต้เท้าอย่าเพ่อโกรธผม คำที่กระผมว่านี้ ถึงทำให้คุณโกรธเดี๋ยวนี้ก็จริง แต่เมื่อกระผมไปแล้ว คุณก็จะหายโกรธ ถึงโกรธก็แต่ต่อหน้าคน ภายหลังจะไม่ทำให้คุณเสียใจ เพราะไม่ทำโทษแก่ผู้ที่พูดจริง ให้เสียทางยุติธรรมของเจ้าคุณ เหมือนเช่นคุณอวดเมื่อกี้ ผมกราบลาก่อนละขอรับ (ไป)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ