- คำนำ อธิบดีกรมศิลปากร
- นิทานเรื่องพระศรีเมือง
- นิทานเรื่องพระศรีเมืองต่อจากบทละคอน
- ตอนที่ ๑ พระศรีเมืองเรียนวิชา
- ตอนที่ ๒ หงส์อาสาหาคู่ให้พระศรีเมือง
- ตอนที่ ๓ พระศรีเมืองเข้าเมืองยโสธร
- ตอนที่ ๔ พระศรีเมืองได้นางสุวรรณเกสร
- ตอนที่ ๕ ท้าวพินทุทัตให้ธิดาเสี่ยงคู่
- ตอนที่ ๖ อภิเษกพระศรีเมือง
- ตอนที่ ๗ ท้าวโขมพัสตร์ให้ไปรับพระศรีเมือง
- ตอนที่ ๘ พระศรีเมืองชมสวน
- ตอนที่ ๙ พระศรีเมืองทูลลาท้าวพินทุทัต
- ตอนที่ ๑๐ พระศรีเมืองรบกับพระยาจันทร
ตอนที่ ๘ พระศรีเมืองชมสวน
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงนางสุวรรณเกสรมารศรี |
แต่สองอนุชาภูมี | มาอยู่ยังธานีเป็นหลายวัน |
นางให้มีจิตคิดฝันใฝ่ | จักไปชมมิ่งไม้ในสวนขวัญ |
จึงบังคมทูลพระทรงธรรม์ | พันปีจงทรงพระเมตตา |
แต่พระเสด็จมาปกเกศ | ในนิเวศน์ก็นานหนักหนา |
ยังมิได้เสด็จยาตรา | ไปประพาสพฤกษาในอุทยาน |
ขอเชิญเสด็จพระภูวนาถ | ไปชมพรรณรุกขชาติในสวนสาณฑ์ |
ชวนสองอนุชาชัยชาญ | ไปชมเล่นให้สำราญใจ ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองรัศมีศรีใส |
ได้ฟังสายสมรอรไท | จะชวนไปชมสวนอุทยาน |
พระเร่งชื่นชมภิรมย์ใจ | แจ่มใสไพบูลย์เกษมศานต์ |
ประจงกรชวนชมยุพาพาล | ภูบาลรับขวัญกัลยา |
ซึ่งเจ้าจะชวนไปสวนศรี | พี่มีความยินดีเป็นหนักหนา |
ว่าแล้วลีลาศยาตรา | มาตรัสสั่งเสนาทันใด |
ให้เร่งเตรียมพลโยธา | พรุ่งนี้เวลาปัจจุสมัย |
จะออกไปชมพรรณมิ่งไม้ | ยังในสวนศรีอุทยาน ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | เสนาก้มเกล้ารับสั่งสาร |
ออกมาสั่งทุกพนักงาน | ให้เตรียมการตามมีพระบัญชา ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ครั้นรุ่ง | พระสุริยาพวยพุ่งพระเวหา |
จึงชวนทั้งสองพระอนุชา | มาเข้าที่สรงสนานวารี |
ให้ไขสหัสธารา | สุคนธาทิพรสรังสี |
ทรงเครื่องเรืองรัตน์รูจี | ล้วนแล้วมณีนิลใน |
ทั้งนางสุวรรณกัลยา | หกองค์กนิษฐาศรีใส |
ต่างองค์ทรงเครื่องอันอำไพ | วิไลลักษณ์บรรจงอลงการ์ |
ครั้นเสร็จพระเสด็จลีลาศ | กับสองนุชนาฏเสนหา |
ทั้งเจ็ดกษัตริย์ศรีโสภา | มายังเกยรัตน์มณี ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ ขึ้นยังเกยแก้วอันโอภาส | เสนาอภิวาทบทศรี |
ส่วนองค์ผู้ทรงสวัสดี | ขึ้นทรงพาชีชัยชาญ |
เจ็ดนางนั้นทรงพระวอทอง | อันปิดป้องบังแสงพระสุริย์ฉาน |
พระสนมกรมในบริพาร | พนักงานหน้าหลังพรั่งพรู |
ตามพระประเทียบเรียบเรียง | โขลนจ่าเดินเคียงเป็นคู่คู่ |
ทั้งดนตรีปี่กลองมลายู | เดินงานตามหมู่เป็นหลั่นไป |
อภิรุมชุมสายรายรัน | พัดโบกทานตะวันสว่างไสว |
เสนาแห่แหนแน่นใน | เสด็จไปยังสวนอุทยาน ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ มาถึง | ยังสวนดอกไม้ไพศาล |
ชวนสองอนุชาชัยชาญ | ภูบาลเสด็จจรลี |
เที่ยวชมมิ่งไม้ในสวนขวัญ | ด้วยนางสุวรรณเกสรศรี |
ทั้งหกกนิษฐานารี | หมู่สนมสาวศรีกำนัลใน ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ พระชมพรรณรุกขชาติดาษดวง | ทรงผลพุ่มพวงงามไสว |
แกล้งกลั่นสรรเอามาปลูกไว้ | ล้วนไม้ทรงผลอันมีพรรณ |
ต้นเตี้ยต่ำต่ำไม่พักสอย | ลูกย้อยระย้าอยู่กับขวั้น |
ลางต้นกิ่งระมาประกัน | พิศดอกออกพรรณอันอำไพ |
ที่สุกหอมห่ามงามงอม | ขั้วค้อมน้อมลงพอเด็ดได้ |
ดอกดวงพวงห้อยแกว่งไกว | ใต้ต้นหล่นกลาดอยู่เรี่ยราย |
ปริงปรางนางคะนึงนานา | จาอุไรไฟกาหว้าหวาย |
มังคุดละมุดมังเรราย | สวายสอลออผลงามขจี |
ที่สุกแดงดังแสงสีชาด | ที่ดิบดาษดังเนียรกัณฐี |
พิศพรรณหลายหลากมากมี | พระชวนชี้ชมพลางทางเด็ดมา |
ยื่นให้พระน้องทั้งสองชม | เป็นบรมสุขหรรษา |
ลดเลี้ยวเที่ยวเก็บมาลา | ใส่ชายภูษาดำเนินไป |
เด็ดดอกไม้ทิ้งนางนารี | ทำเอามาลีมายื่นให้ |
พระหยอกยวนชวนชมกรมใน | เป็นสุขสนุกใจใครจะทัน |
ฉวยกิ่งชิงเด็ดดวงดอก | สัพยอกกับนางสาวสวรรค์ |
ชักฉุดยุดยื้อพัลวัน | บันเทิงเริงใจไปมา ฯ |
ฯ ๑๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางสุวรรณเกสรเสนหา |
ทั้งหกนงนุชสุดโสภา | พี่เลี้ยงกัลยากำนัลใน |
พากันเที่ยวเก็บบุปผา | ทุกพรรณมาลางามไสว |
พุดจีบพุดลาชบาไทย | พุดซ้อนหงอนไก่พิกุลกาญจน์ |
กระดังงาสารภียี่สุ่น | บุนนาครื่นรสหอมหวาน |
เด็ดดวงพวงสร้อยสุมามาลย์ | ตระการด้วยรสเร้ากำจายจร |
สุกรมยมโดยโหยหอม | พะยอมแย้มคลี่คลายเกสร |
ที่ตูมหุ้มกลีบผกากร | อรชรดังแก้วเจียระไน |
ที่แดงดังแสงมาถมยา | รจนาแอร่มแจ่มใส |
ที่เขียวเขียวขำอำไพ | ดังนิลในแนมนวลขจี |
มัดตร่ำจำปามหาหงส์ | โยทะกากาหลงคลายคลี่ |
เกดแก้วกรรณิกามาลี | มาลุลีลำดวนมาอวนกัน |
ซ่อนกลิ่นกลิ่นเกลี้ยงรวยรื่น | ชวยชื่นตลบทั้งสวนขวัญ |
เก็บดอกจำปามะลิวัลย์ | นางแย้มแซมกรรณกุณฑลทรง |
เด็ดได้ยื่นให้กนิษฐา | ทั้งหกกัลยานวลหง |
ชมพลางทางพาฝูงอนงค์ | เล่นระริกซิกทรงสำราญใจ ฯ |
ฯ ๑๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | องค์พระมณีรัตน์ศรีใส |
ทั้งพระพัทธวงศ์ทรงชัย | ตามเสด็จภูวไนยเก็บมาลา |
แลลอบชมองค์นางนงลักษณ์ | อัคเรศทั้งหกกนิษฐา |
ทรงโฉมประโลมลานตา | นางในใต้ฟ้าไม่เทียมทัน |
อรชรอ้อนแอ้นเอวองค์ | บรรจงดังองค์พระรังสรรค์ |
พิศวงด้วยทรงวิไลวรรณ | ในองค์นางกัลยาณี |
จำเริญจิตคิดความเสนหา | โฉมนางประภามารศรี |
พระพัทธวงศ์จงรักภักดี | พิศวาสเทวีศรีสุดา |
พระคอยลอบเลียงเมียงดู | กลัวจะรู้ถึงองค์พระเชษฐา |
แต่ชม้ายชายเนตรอยู่ไปมา | สองตาต่อตาก็ต้องกัน ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | โฉมนางประภาสาวสวรรค์ |
ทั้งนางศรีสุดาวิลาวัณย์ | กัลยาเห็นสองพระอนุชา |
ต่างองค์ทรงลักษณ์จำเริญสวัสดิ์ | ลํ้าหน่อจักรพรรดิในแหล่งหล้า |
ยิ่งมนุษย์บุรุษในโลกา | ดังเทวาในชั้นดุษฎี |
โฉมงามดังจะกลืนกินได้ | พิศวาสขาดใจทั้งสองศรี |
ลอบชำเลืองดูพระภูมี | กลัวว่าพี่นางจะรู้ไป |
ต่างองค์มีจิตคิดกระสัน | ป่วนปั่นรัญจวนครวญใคร่ |
แต่ผินพักตร์ลักยิ้มอยู่ละไม | ชายใช้นัยน์เนตรเมียงมัน ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | สององค์สุริย์วงศ์รังสรรค์ |
แกล้งกรายร่ายเดินมาตามกัน | ชมพรรณมิ่งไม้นานา |
ครั้นเสด็จมาใกล้นางโฉมตรู | ทำไม่ทันดูกนิษฐา |
แสร้งเสียดเข้าเด็ดมาลา | แล้วชายตาชมนางทรามวัย |
ครั้นสององค์นงลักษณ์แลมา | พระทำดมบุปผาที่เด็ดได้ |
ชูชมมาลีเป็นทีใน | ด้วยใจปฏิพัทธ์นางโฉมยง |
แล้วเอาดอกไม้มารจนา | เป็นรูปมยุรากับราชหงส์ |
แกล้งประดิษฐ์พิสดารบรรจง | ทรงปักกับกิ่งไม้ราย ฯ |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | สองพระบุรีโฉมฉาย |
เห็นพระเด็ดดอกไม้เป็นแยบคาย | แล้วชายชำเลืองแลมา |
สองเนตรต่อเนตรผสานสม | แต่แย้มยิ้มพริ้มคนอยู่ในหน้า |
แลเห็นรูปหงส์กับมยุรา | ที่กิ่งพฤกษาบังใบ |
หยิบเอามาชมแล้วทำว่า | บุปผานี้งามจะมีไหน |
จะว่าเป็นเองก็ผิดไป | ใครหนอคนไรเจ้าปัญญา |
ช่างเอาดอกไม้มาต่อติด | เป็นเจ้าความคิดหนักหนา |
ชมพลางทางแสร้งมารยา | ว่าแก่พี่เลี้ยงนารี |
ใครช่างมาเด็ดดอกไม้ไป | ไม่เกรงใจเจ้าของสวนศรี |
เก็บสรรทุกพรรณมาลี | ที่มีตระการก็ไม่เว้น |
จะทำไมหนักหนากับดอกไม้ | นี่เนื้อใจจัณฑาลจะเด็ดเล่น |
ช่างไม่ห้ามตามใจให้เป็น | เห็นดีแล้วหรือไม่ว่ากัน ฯ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงยิ้มพลางทางสรวลสันต์ |
ทูลว่าจะห้ามก็ไม่ทัน | นางกำนัลนี้ร้ายมือไว |
เห็นดอกไม้ดีมีประหลาด | ไม่เกรงบังอาจมาเด็ดได้ |
บรรดาอย่าเห็นสิ่งใด | เพอิญชอบใจทุกตัวตน |
มิว่าก็ท่าไม่พ้นผิด | จะเจียมจิตไว้ตัวก็ขัดสน |
ครั้นว่าก็ไม่ชอบชะตาคน | จนใจมิรู้ที่เจรจา ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางศรีประภาเสนหา |
ทั้งองค์นงลักษณ์ศรีสุดา | ฟังพี่เลี้ยงว่าก็ต้องใจ |
ยิ้มพลางทางเดินเมินเมียง | หยิกเอาพี่เลี้ยงทำผลักไส |
จูงมือยื้อชักดำเนินไป | ให้ไกลฝูงกำนัลนารี |
แล้วค่อยกระซิบจำนรรจา | ว่าพระอนุชาทั้งสองศรี |
ข้าเห็นเป็นน่าปรานี | อุตส่าห์ดั้นดงพงพีมา |
อันเมืองโขมราฐธานี | ก็ไกลกับบุรีเราหนักหนา |
ท่านเป็นแขกมาต่างพารา | มิทักทายจะว่าไร้ใจ |
พี่เจ้าทั้งสองจงเมตตา | เอาหมากของน้องยานี้ไปให้ |
ว่าน้องบังคมถวายไป | แก่สองภูวไนยบัดนี้ ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | สองนางพระพี่เลี้ยงสาวศรี |
จึงเชิญพานหมากของเทวี | ซ่อนนางนารีกำนัลใน |
ลัดแลงแฝงไม้ไคลคลา | บังพุ่มพฤกษาเข้ามาใกล้ |
ประณตบทบงสุ์พระทรงชัย | ทูลสองภูวไนยธิบดี |
บัดนี้ท้าวน้องทั้งสององค์ | จงใจให้ข้าบทศรี |
เชิญสลามาถวายพระภูมี | อัญชลีทั้งสองพระองค์มา ฯ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | สองกษัตริย์ได้ฟังพี่เลี้ยงว่า |
พระชื่นชมโสมนัสเปรมปรา | รับหมากมาเสวยในทันใด |
ดังได้รสอมฤตฟ้า | มายาทรวงดวงจิตให้แจ่มใส |
จึงว่าแก่สองพี่เลี้ยงไป | ขอบใจท้าวน้องทั้งสองรา |
ซึ่งเจ้าเมตตาการุญ | คุณอยู่ครั้งนี้ก็หนักหนา |
แต่ตกยากจากบ้านเมืองมา | อนาถาสิ่งใดก็ไม่มี |
ซึ่งจะได้ทดแทนเป็นค่าหมาก | ฝากไปให้น้องทั้งสองศรี |
แล้วถอดธำมรงค์อันรูจี | ส่งให้พี่เลี้ยงนางกัลยา |
จงช่วยถวายนางโฉมยง | ว่าน้องจงในเสนหา |
สิ่งใดพี่ได้กรุณา | เบื้องหน้าไม่ลืมคุณกัน ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | สองนางพี่เลี้ยงสาวสรรค์ |
รับพระธำมรงค์ทรงธรรม์ | แล้ววันทาทูลไปทันใด |
อันพระธำมรงค์สององค์นี้ | เพราะมีประสงค์จึงถอดให้ |
จะทูลความตามมีบัญชาไป | ว่าภูวไนยให้มาเป็นสำคัญ |
ทั้งนี้สุดแต่วาสนา | ไม่รู้ที่จะสัญญาเป็นคำมั่น |
ว่าแล้วถวายบังคมคัล | มายังสองกัลยาณี |
ก้มเกล้าประณตบทบงสุ์ | ถวายพระธำมรงค์เรืองศรี |
ว่าสององค์จงรักภักดี | ภูมีให้ตอบขอบคุณมา |
แล้วตรัสสั่งซ้ำเป็นคำใน | น่าสงสารใจหนักหนา |
ถึงจะกลับคืนไปพระพารา | ข้าเห็นจะพะว้าพะวังใจ ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | สองพระบุตรีศรีใส |
รับเอาธำมรงค์อันอำไพ | อรไทพินิจพิศดู |
ทั้งสององค์ละม้ายคล้ายกัน | พรรณรายพรายพรรณทั้งคู่ |
จึงว่าแก่พี่เลี้ยงอันร่วมรู้ | พี่เจ้าผู้ใจอารี |
จงเอ็นดูน้องทั้งสอง | ช่วยป้องปิดความนางสาวศรี |
อันภูบาลประทานมาทั้งนี้ | จำจะมีตอบแทนสนองไป |
ตรัสพลางทางดูนางนารี | เห็นเก็บมาลีเข้ามาใกล้ |
จึงพากันลีลาคลาไคล | เดินชมดอกไม้รายมา |
พระพี่เลี้ยงเดินเคียงแล้วทำวิ่ง | ชิงกันเก็บพรรณบุปผา |
สำรวลสรวลเล่นอยู่ไปมา | กัลยามิให้ใครกินใจ ฯ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระศรีเมืองเรืองศรีดังสุริย์ใส |
เที่ยวประพาสชมพรรณมิ่งไม้ | จนจะใกล้สุริย์แสงสายัณห์ |
จึงชวนสองราชอนุชา | ทั้งเจ็ดกัลยาสาวสวรรค์ |
นักสนมกรมในทั้งนั้น | คืนเข้าวังจันทน์ทันใด ฯ |
ฯ ๔ คำ ฯ