บทดอกสร้อยสวรรค์ ครั้งกรุงเก่า

บทชาย

ร้องลำล่องเรือ ทับนางไห้

๏ มาเอยมาพบ ดอกสร้อยสวรรค์มาไลย
เรียมรักจำนงจงใจ จะใคร่ได้ดอกสุมณฑา
ภุมรีภิรมย์ชมรศ กลิ่นฟุ้งปรากฎเปนหนักหนา
แม้นได้มิให้เจ้าโรยรา บุษบาแย้มบานตระการใจ
อันดวงดอกสร้อยเกษี ในท้องธรณีไม่หาได้
มิให้เสียพุ่มพวงดวงดอกไม้ จะให้รุ่งฟ้าทั้งตาปีฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำรอบก้อย ทับนางไห้

๏ ตัวเอยตัวน้อง คือหนึ่งดอกสร้อยเกษี
มีกลิ่นเฟื่องฟุ้งจรลี ลีลาศดัดเต้าอยู่รวยรศ
ตัวชายนั้นคือภุมรี ลิ้นลมย่อมดีอยู่ปรากฎ
ครั้นได้ประสบพบรศ จับจดเล่นแล้วจะบินไป
จะคลาศคล้อยคลาหนี ตัวเปนสัตรียังสงไสย
เบื่อแลที่ข้าจะเชื่อใจ กี่ปีจะได้อย่ายินยลฯ

ฯ ๖ คำ ฯ ลิกิน, ทับนางไห้ (ก็ได้)

บทชาย

ร้องลำนางกราย ทับเนรปาตี

๏ ตัวเอยตัวเรียม เทียมภุมเรศเรืองรศคนธ์
มาพบดอกแก้วโกมล สร้อยสนสวรรค์มาลา
อันดวงดอกเกสรสน อันจะพ้นมือพี่อย่าพักว่า
แม้นคลาศแคล้วดวงมาลา ใต้ฟ้าไม่อยู่ไยดีฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำจันดิน ทับนางไห้

๏ แม้นเอยแม้นได้ ตัวน้องก็ไม่เปนสัตรี
มิพ้นภุมเรศตัวนี้ ในท้องธรณีไม่ดูเนตร
จะเปนสิ่งไรก็ไม่คิด จะสิ้นชีวิตรก็ตามเหตุ
ไม่มีอาไลยแก่ใจเนตร ตามผลตามเหตุไม่คิดตัว
แผ่นดินฤๅจะไร้เส้นหญ้า คิดมาก็น่าใคร่หัว
อย่ามาข่มเหงให้เกรงกลัว ไม่เสียตัวแก่เจ้าไยดีฯ

ฯ ๖ คำ ฯ ศรีประเสริฐ ทับนางไห้ (ก็ได้)

บทชาย

ร้องลำเสภาใน ทับปรบไก่

๏ นอนเอยนอนวัน ใฝ่ฝันว่าได้มาพบศรี
เจ้าสาวสวัสดิกระสัตรี อยู่ดีฤๅไข้เจ้าแน่งน้อย
เรียมรักเจ้าสุดแสนทวี ตัวพี่ไม่ไข้แต่ใจสร้อย
ดังหนึ่งเลือดตาจะหยัดย้อย เพราะเพื่อน้องน้อยเจ้านานมาฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำคำหวาน ทับนางไห้

๏ น้ำเอยน้ำคำ หวานฉํ่าก็ลํ้าโอชา
นอนวันว่าใฝ่ฝันหา ว่าได้พบข้าทุกราตรี
ถามข่าวเจ้ากล่าวเกลี้ยงถึง แสนคนึงก็สุดชีวี
เหตุว่าลิ้นลมคารมดี เพียงนี้พอรู้เท่ากันฯ

ฯ ๔ คำ ฯ สร้อยสน ทับอรุ่ม (ก็ได้)

บทชาย

ร้องลำสร้อยสน พัดชา

๏ คิดเอยคิดถึง แสนคนึงท่าน้องไม่วายวัน
เรียมหลับประเพ้อละเมอฝัน ว่าอยู่ด้วยกันทุกราตรี
ในฝันว่ารศเอมโอช ประโมทย์ด้วยความเกษมศรี
รำพึงคนึงนารี มิตรจิตรก็มีมิตรใจฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำระส่ำระสาย ทับพระทอง

๏ ได้เอยได้ฟ้ง พลาดพลัง[๑]ก็สมในอาไลย
กล่าวแกล้งเจ้าแสร้งปราไส หวังจะให้น้องนี้หลงกล
ยังจะจริงจังดังปากว่า แล้วข้าจะค้างในกลางหน
ขึ้นชื่อว่าชายสิหลายกล จะยินยลนั้นยังฉงนใจ
ความจริงสิไม่เจรจา เอาแต่คารมมาปราไส
ชมแต่รศแล้วจะปลดไป อิ่มใจเจ้าแล้วไม่นำพา
เจ้าช่างยอโฉมประโลมรูป ช่างลูบช่างโลมระโบมว่า
อย่าแกะแวะเวียนเจรจา ข้าไม่หลงเล่ห์ด้วยรูปทรงฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เนียรไทรโยก ทับพระทอง (ก็ได้)

บทชาย

ร้องลำดอกไม้ไทร ทับสมิงทอง

๏ หน้าเอยหน้างาม ทรามเสน่ห์เจ้าเนื้อนวลหง
เยาวสรรพสรรพางค์สำอางองค์ ยงยิ่งใช่แกล้งกล่าวน้อง
ขาวศรีสมบูรณ์บงกชมาศ เพียงจะบาดตาพี่ไม่มีสอง
ภักตราดังมณฑาทอง ทำนองดังหงษ์ทองบิน
ปากฅอรอคมเจ้ากวดขัน ช่อชั้นเชิงชายเจ้าเฉิดฉิน
ทำแก่ตัวดังจะรู้บิน รักเพียงนี้ควรนินทาฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำราโค ทับเนียรปตี โอด

๏ บุญเอยบุญหนัก รู้แล้วว่ารักเจ้าแสร้งว่า
ครั้นว่ารู้เท่าเจ้าโกรธา คิดมาน่าบัดสีใจ
จะให้ฟังลมแต่ง่ายง่าย จะให้เชื่อลมชายปราไส
อดสูจะอยู่แต่ผู้ใด ขอบใจเจ้าช่างเจรจาฯ

ฯ ๔ คำ ฯ น้ำค้าง, ทับสามไม้ถอยหลัง (ก็ได้)

บทชาย

ร้องลำระส่ำระสาย

๏ สุดเอยสุดใจ ไกลเนตรพี่แล้วเจ้าแก้วตา
สุดที่จะเล็งแลหา เจ้าแล้วแลนาณกลอยใจ
สุดโหยสุดไห้อาไลยนัก สุดรักสุดจิตรพิศมัย
ดังจะสุดชีวิตรจิตรใจ พ่างเพียงจะสิ้นสุดปราณฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำลมุน ทับพัดชา

๏ สุดเอยสุดจิตร ช่างประดิษฐกล้องแกล้งแถลงสาร
จะมาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน คำหวานจะให้ละลานใจ
คารมเจ้าคือคมกรด จะอดจะลดกระไรได้
เจ้าอย่าสิ้นสุดอาไลย เกี้ยวพานไปเถิดเจ้าตาเพราฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำมโนราโอด ทับเนรปาตี (ฤๅ) ทับนางบุหรง

๏ หนึ่งเอยหนึ่งนับน้อง ลํ้าเลิศก็เพียงโฉมเฉลา
หาสองบมีเพียงเภา[๒] จะเปรียบเทียบเจ้าไม่มีแล้ว
เลียบจบทั่วภพทั้งสาม โฉมงามไม่ลอองเหมือนน้องแก้ว
แต่เรียมวินิจพิศแพร้ว น้องแก้วผู้เฉลิมโลกา
พี่จะค่อยกนอมกล่อมรัก คำหนักสิ่งใดมิได้ว่า
นวลนางแก่นแก้วแววตา ได้มาพี่ราจะดีใจฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำมโนราโอดพัน ทับเนรปาตี

๏ อย่าเอยอย่าว่า ตัวข้าดังนกอยู่ปลายไม้
เจ้าชี้ชมเล่นแต่ไกล อันจะได้น้องอย่าเจรจา
มาทแม้นเจ้าได้ดวงเดือน อันลอยเลื่อนอยู่บนเวหา
แม้นได้พุ่มพวงดวงดอกฟ้า อันจะได้ตัวข้าเจ้าอย่าคิด
ข้าเจรจาดังคนอุตริ เจ้าตริตราดูข้างในจิตร
เลือดตาจะกระเด็นอยู่เปนนิจ จะคิดเปล่าแล้วอย่าปรารมภ์ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำเนรปาตี อรุ่ม มอญลพบุรี

๏ พิศเอยพิศบัวบาท ผุดผาดแต่เท้าถึงผม
นวลลอองผ่องภักตร์พึงชม สมสรรพสรรพางค์แน่งน้อย
อ้อนแอ้นเอวกลมกำรอบ ประกอบจริงยิ่งดวงดอกสร้อย
ใครจะเอี่ยมเทียมเจ้าสาวน้อย ร้อยชั่งไม่มีใครจะปานฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำเนรปาตี ปะโตงโอดพัน

๏ น้ำเอยน้ำคำ หวานฉํ่าก็ลํ้าน้ำตาล
น้องนี้ไม่พอใจหวาน เอาน้ำตาลมาทาน้องไย
จะทอดสนิทให้ติดบ่วง โว้เว้เล่ห์ลวงให้หลงใหล
เบื่อแลข้านี้จะเชื่อใจ เปล่าแล้วไม่ฟังไยดี
จะมาลวงเล่นแต่โดยได้ อิ่มใจเจ้าแล้วจะผันหนี
อย่าว่าไปเลยให้เสียที กี่ปีจะหลงด้วยคำพาลฯ

ฯ ๖ คำ ฯ ดอกไม้ไทร โอดพัน, ทับสมิงทอง (ก็ได้)

บทชาย

ร้องลำปะโตง ทับเนรปาตี

๏ หน้าเอยหน้านวล ทรามสงวนยวนยั่วสงสาร
งามละม่อมพร้อมทรงนงคราญ ลานจิตรพิศเพียงขวัญตา
อรเดียวเที่ยวเลียบเล็งจบ เปนที่เฉลิมภพแหล่งหล้า
สิ้นทั้งธรณินทร์ดินฟ้า จบสกลโลกาไม่เหมือนน้อง
ได้มาพี่ราเจ้างามสอด จะชวนพลอดพลางชมสมสอง
จะอิงแอบแนบเนื้อนวลลออง มิให้หมองไมตรีที่ในนางฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

๏ ใครเอยใครห่อน จะมาหมายไม้ที่กลางทาง
ธรรมเนียมยังมีที่ไหนบ้าง คิดอางขนางขวางใจ
น้องยังฉงนสนเท่ห์ เล่ห์ลมคมสันเปนไฉน
อย่าเหนออย่าเพ่อชเลยใจ อันจะลดเจ้าไว้อย่าพึงคิดฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำทองย้อย ทับปรบไก่

๏ หลากเอยหลากเห็น เหมือนจะเปนสำเภาอันไพจิตร
งามจริงยิ่งเทพนิมิตร แปดทิศโล้เลื่อนลอยมา
คิดจะใคร่ลงระวางเล่น ก็เห็นจวนแก่หนักหนา
ยามเมื่อหนุ่มแน่นอยู่นั้นนา จะเดินสารเภตราคลาไคล
ข้าได้เรียนรู้ต้นหน ทั้งคนท้ายนายใบแก้ไข
เล่ห์ทายคิดเสียดายเปนพ้นใจ เอนดูเถิดเราจะไปด้วยกันฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำพระรามตามกวาง ทับเนรปาตี

๏ สำเอยสำเภา รุ่งเช้าจะบ่ายผายผัน
จะไปไม่บอกแต่หลายวัน เขาจัดสรรกันแล้วบัดนี้
ต้นหนก็เปนคนเก่า เขาเล่าว่าดีกว่าตัวพี่
คนท้ายนายใบก็ดีดี ย่อมมีถี่ถ้วนครบครัน
ถึงระวางก็ไม่ว่างที่ ครั้งนี้ไม่มีที่บ่ายผัน
ปีน่าตาจึงไปด้วยกัน จะผายผันก็เห็นมิเปนไรฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำพระรามตามกวาง ทับเนรปาตี

๏ ปีเอยปีนี้ เห็นทีที่พอจะไปได้
ปีน่าจะชราหนักไป ถึงระวางมิว่างเปนไรมี
สินค้าของข้าก็หาไม่ เกลือกคนไปจะไม่เหมือนพี่
เรือน้องจะล่องวันนี้ จะขมีขมันเร่งรัด
ถึงจะมีต้นหนคนท้าย ยากที่จะเบี่ยงบ่ายเมื่อลมขัด
ไปไปเกลือกจะไม่สันทัด จะแก้ขัดทางที่กลางคันฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำมอญแปลง ทับปรบไก่

๏ ขัดเอยขัดขวาง ที่กลางชเลนั้นกวดขัน
ก็ย่อมสันทัดเขาจัดกัน หากรู้ผายผันไปตามที
อันว่าต้นหนแลคนการ ก็ครบพนักงานถ้วนถี่
ซึ่งว่าตาจะไปปีนี้ เมื่อทุนไม่มีจะไปไย
ถึงว่าลมขัดจะพัดโต้ อักโขอยู่เขารู้แก้ไขฯ
จะมารับรันรนไป จะประสงค์สิ่งไรก็อย่าพรางฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำสระสม ทับพัดชา

๏ แก่เอยแก่แล้ว รากแก้วพี่หักฟันฟาง
มือถือตะไกรต่างคาง พี่พลางเสียดซอยย่อยยํ้า
อันว่าความรักไม่วายวาง คนึงนางพี่พลางครวญคร่ำ
ค่ำคลุ้มชอุ่มลงว้ำว้ำ พี่ก็คร่ำเรียกน้องเข้านอนในฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำมอญโยนดาบ

๏ อะเอยอะนิจา ชราแล้วจะไปถึงไหน
จึงมิหักเนื้อหักใจ มาฝันใฝ่อยู่ด้วยกระสัตรี
อิกทั้งฟันฟางก็ลุ่ยหลุด ทำฉุดเกี้ยวชู้ยู่ยี่
ไม่คิดสงสารจนปานนี้ เหมือนตาตีเต่าจงเข้าใจฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำนางกรายโอดพัน ทับเนรปาตี

๏ สงเอยสงสาร ลูกหลานหาเห็นอกไม่
ตีเต่าก็จงเข้าใจ แต่ความรักนั้นไม่ฟังตา
ยิ่งเห็นที่เปนสาวแส้ คนแก่ยิ่งเลียมเทียมหา
ตีเต่าก็ทำเนาตา เพราะชรายู่ยี่ก็จำเปน
ที่ไหนจะได้เหมือนหนุ่มแน่น ถ้าแม้นหลานลองก็จะเห็น
เหนือนให้ทานเต่าแต่เข้าเย็น จงเห็นแก่บุญบ้างเถิดราฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำนาคเกี้ยว ทับเนรปาตี

๏ เข้าเอยเข้าเย็น เส้นโภควดีที่น่าท่า[๓]
ฟังหูก็รู้ทั้งหน่วยตา ฤๅมาเจรจาอย่างนี้
ถึงว่าหนุ่มแก่ก็เหมือนกัน สุดแต่จะบรรไลยไปเปนผี
ทำทานแก่เถ้าเหล่านี้ จะตีตำราตราไว้
ถึงเห็นไม่เห็นก็อย่า แม้นว่าเข้ามีก็มิให้
ไปลองยายเถิดให้สบายใจ พาลเถ้าแสนไร้ทรชนฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำทับเสภาใน

๏ หลานเอยหลานรัก มิมักทำทานไม่ได้ผล
อันตากับยายสองคน ไม่รู้ทรชนมิตร
อันเส้นโภควดีอย่างนี้ ท่วงทีเปนทางสังกริด
ทั้งหูก็หนาตาก็มิด หลานยังไม่คิดเอนดู
จงหลานอย่าได้ถือโทษ เหมือนโปรดแก่เถ้าทั้งคู่
จะลองยายแต่ชายพร่ำพรู หลานจะเอนดูก็เปนไรฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำหิ้วชาย ทับโฉลกแบก

๏ เอนเอยเอนดู พา[๔]เถ้าแสนรู้ช่างแก้ไข
ช่างมาบ่นพร่ำอยู่ร่ำไร รบแต่จะให้ทำทาน
ไม่เสงี่ยมเจียมตัวว่าตัวเถ้า มาเซ้าซี้อยู่ที่จะโลมหลาน
พา[๕]เถ้าชีร้ายสาธารณ์ งานการอะไรจะเอนดู
ทำเปนหูหนาตาตาย แยบคายพอเข้าใจอยู่
เนื้อหนังก็เหี่ยวจะเกี้ยวชู้ ช่างไม่เหลียวดูที่ความตายฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำพระทอง

๏ ใจเอยใจหลง จงจิตรรักชู้ที่คู่หมาย
อาวรณ์ร้อนรนสกลกาย พี่ชายวากเว้ทุกเวลา
เสียคำจำเปนเสียดายนัก จะปลิดปลดรศรักเสนหา
ได้บุกป่าฝ่าดงแต่เดิมมา วัจนาเสียชื่อกระสัตรี
จะฝืนคืนตัวก็ยิ่งยาก นี่เนื้อวิบากกรรมมาทำพี่
จำเปนจะลองเล่นครั้งนี้ เจ้าจงปรานีพี่ด้วยราฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำย่องเหง็ด

๏ จำเอยว่าจำเปน จะลองเล่นด้วยความเสน่หา
เกรงกรรมจะทำโทษมา ทั้งคนจะนินทาว่าร้าย
ทั้งสมณะพราหมณาจารย์ จะทายประมาณเปนมากหลาย
จะว่าข้าเปนคนแสนร้าย แกล้งจะทำลายพรตกรรม์
อุส่าห์รักษากิจกรม ข่มเนื้อข่มใจกวดขัน
อดความโลกีย์ยินดีนั้น ผูกพันอยู่ไยไม่ต้องการฯ

ฯ ๖ คำ ฯ หรุ่ม

บทชาย

ร้องลำพระนคร

๏ เคยเอยเคยฟัง เพราะดังการเวกเสียงหวาน
วายุภักษ์ปักษาสำราญ แขกเต้าประสานเสียงโนรี
เคยฟังแต่เสียงสำเนียงนาง สว่างจิตรติดต้องใจพี่
อันเสียงนกแสกเค้าเหล่านี้ มาร้องมี่พี่ไม่เคยฟัง
ได้ยินก็คิดคร้ามครั่น ใจพรั่นขวัญหายระวังหลัง
นั่งชิดสกิดให้นางฟัง ยังจะเหมือนพี่พรั่นฤๅฉันใดฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำปหลิ่ม

๏ นั่งเอยนั่งชิด อันจะสกิดข้าไม่ได้
เค้ากู่อยู่แต่พุ่มไม้ มาแต่ไหนจึงไม่เคยฟัง
ที่คนไม่หวาดขลาดผี กลัวนักอย่างนี้ก็มีมั่ง
อันการเวกร้องระวังรัง เคยฟังที่ไหนให้ว่ามา
อันซึ่งฟังเสียงกระสัตรี ยินดีก็แจ้งใจข้า
ด้วยอย่างนี้มีแต่ก่อนมา แต่ปักษาเจ้าจงว่าไปฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำน้ำค้าง

๏ ทำเอยทำเนียบ นิทานบุราณเปรียบไว้เปนไพร่
ถ้าเห็นสิ่งอื่นที่ชื่นใจ สิ่งนั้นท่านให้พินิจดู
ให้ฟังแต่ที่เพราเพราะ อันพึงไพเราะแก่หู
ที่ไม่ควรดูอย่าให้ดู ท่านห้ามทั้งหูทั้งตา
ถึงได้ฟังก็ดังหาไม่ นกเค้านี้ใครย่อมใฝ่หา
สุ้งเสียงก็เพียงอัพลา จะมุ่งมาดปราถนาไปว่าไร
อันผีสางอย่างนี้ก็ไม่กลัว หากจะยั่วทางความให้ลามไล่
อันการเวกร้องต้องใจ ท่านชมไว้แล้วพี่ก็เชยตามฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำสรเสริญพระจันทร์

๏ ว่าเอยว่าไว้ คือเสียงอะไรที่ท่านห้าม
รู้เองมาเกรงครั่นคร้าม ทางความขามคิดฉงนใจ
เมื่อท่านห้ามตาห้ามหู มาฟังเสียงเค้ากู่ก็เปนได้
จึงมิฟังที่สั่งสอนไว้ ใส่ไคล้จะให้ข้าหลงตาม
เหตุว่าลิ้นลมคารมจัด ครั้นขัดก็ลัดเข้าในห้าม
รู้น้อยจะพลอยพึงตาม เข็ดขามอัดอกอยู่อัดแอฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำศรีประเสริฐ

๏ มีเอยมีลูก ดังปลูกผลไม้สกาแก่
มือข้าคือหญ้าตำแย ก่นแต่แส่ไส้ที่ในเรือน
มีเรือแหนั่งขี่แพดีกว่า ความหนักชั่วช้าไม่มีเหมือน
แม้เรือนไม่ดีดังขี้เรื้อน แต่ล้วนเลื่อนเปื้อนจะเบียนตัว
สารพัดจะขัดอกอัปรี ด้วยมีแต่เครื่องชังเครื่องชั่ว
เห็นน้องพี่ปองจะฝากตัว เชิญมาร่วมรั้วด้วยเรียมราฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำพระนคร

๏ ร่วมเอยร่วมบ้าน เปนน่ารำคาญหนักหนา
จะมีสิ่งใดไม่ต้องตา แต่ล้วนอัพลาทั้งนั้น
สิ้นทั้งลูกเมียแลข้าคน จนทั้งเรือแพจะผายผัน
เห็นจะกวนใจไปทุกวัน สารพันคิดแค้นเคืองคาย
จะไปบวชอยู่ในสาสนา ยังว่าจะประเสริฐเฉิดฉาย
ฟังข้าเจ้าอย่าแยบคาย ไปภายหน้าจะสมบูรณ์ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำลิกิน

๏ พี่เอยพี่คิด จะใคร่ปลิดปลดให้หมดสูญ
ด้วยมีสิ่งใดไม่บริบูรณ์ แต่ภูลเพิ่มร้อนอยู่อัตรา
คิดจะไปบวชเสียให้พ้น ทังวลด้วยรักแล้วหนักหนา
สิ่งไรจงได้เมตตา ให้พ้นอัพลาจัญไร
ถึงมิร่วมเรือนแต่ร่วมบ้าน จะได้รำคาญไปถึงไหน
เอนดูช่วยชูให้ชื่นใจ คุณเจ้าจะไว้ถึงเมืองอินทร์ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำจันดิน

๏ เมืองเอยเมืองฟ้า รจนาประเสริฐเฉิดฉิน
ทำไฉนจะได้ไปเมืองอินทร์ แต่งลิ้นจะให้ยินดี
เห็นข้ารู้น้อยในถ้อยคำ ทำไล่ลามลวนเปนถ้วนถี่
แล้วเจ้าลูกเต้าเมียมี ผิดท่วงผิดทีจะผูกพัน
ข้าว่าให้ดีสิไม่เห็น มาเลียมเล่นด้วยลมคมสัน
อันทำคุณคนอาธรรม์ สารพันจะได้เดือดร้อนฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำคนพายโยก

๏ พี่เอยพี่ชาย จะจำตายต้องแร้วสายสมร
มิทันที่จะสั่งบังอร ยิงศรส่งซ้ำตระหน่ำมา
รอนรอนใจพี่นี้จะขาด ด้วยอำนาจความเสนหา
โหยหวนครวญสวาดิทุกเวลา จะใคร่ได้นิทราแนบนอน
รูปนวยเชิญช่วยชีวิตรไว้ จงดับไฟร้อนรุมสุมขอน
ซึ่งไหม้จิตรเปนนิจนิรันดร ให้พี่คลายร้อนรำคาญฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำคำหวาน

๏ ร้อนเอยร้อนจิตร ด้วยพิศม์พระเพลิงสังหาร
แล้วต้องศรอัคนีกาล ซึ่งผลาญราพร้ายอสุรี
แล้วต้องซึ่งแร้วบ่วงบาศ เห็นจะม้วยพินาศเปนผี
แม้นตายก็ไม่ไยดี เจ้าเลียมเล่ห์ไมตรีเปนทีมา
จะลวงให้น้องต้องไฟ แล้วจะไหม้มือไหม้ผ้า
ท่าทางทำเนียบเปรียบมา จะดูเยี่ยงตาฦๅว่าไรฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำนางไห้

๏ ทำเอยทำว่า จะเอาอย่างตาก็หาไม่
มิช่วยระงับดับไฟ จะนิ่งดูใจให้พี่ตาย
เห็นแล้วว่าต้องศรศักดิ น้องรักจะทิ้งไว้ใจหาย
ทั้งบ่วงรัดรึงตรึงกาย จะนิ่งไว้ให้ตายกลใด
ทำคุณก็เห็นแก่บุญบ้าง คิดอย่างปล่อยนกปล่อยไก่
เอนดูจะอยู่ให้ช่วงใช้ เจ้าอย่าตัดใจให้พี่ตายฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำนางปโรง

๏ ทำเอยทำคุณ บุญนั้นประเสริฐเฉิดฉาย
ถ้าเจ้าเปนเห็นข้าจะได้อาย ด้วยเล่ห์ลมชายหลายชั้น
ดับไฟเอาไว้เปนข้า เกรงด้วยหน้าตาเจ้าคมสัน
ครั้นอยู่สนิทติดพัน ดีร้ายจะเปนอันตราย
อันจะปล่อยไก่ให้พ้นขัง กลับมาคืนรังจะฉิบหาย
เช่นนี้ไม่มีใครตาย เจ้าอย่าบ่ายทางมาอย่างนั้นฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำดอกไม้ไทร

๏ ฤทธิเอยฤทธิข้า มรณาด้วยดาบคมสัน
แล้วจะพิฆาฏฟาดฟัน ไม่รับรองป้องกันก็พ่ายแพ้
ใจหายไม่ทันตายขวัญหนี ครั้งนี้แต่จะอ่อนนอนแน่
หิวหวยระทวยอยู่ท้อแท้ เอายาทิพย์มาแก้พี่เร็วรา
อิกทั้งเส้นสายก็ขัดข้อง แล้วต้องกลน้องกระมังหนา
ความรักมาสลักตรึงตรา ทั้งอาพาธซ้ำจะจำตายฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

๏ อาเอยอาพาธ เห็นประหลาดกว่าคนทั้งหลาย
จะตายก็ไม่คือตาย มาทุรนทุรายอยู่โรเร
ใส่ไคล้เท่านี้แล้วมิหนำ ยังว่าข้าซ้ำทำเล่ห์
ดาบคมฤๅจะล้มซวดเซ ช่างเสแสร้งว่าให้ปรานี
กลชายหลายลิ้นประโลมเล่น เห็นเปนเคลือบไคล้ใส่สี
อย่าภิปรายไปเลยไม่เคยมี ใช่ที่จะคิดอย่าป่วยปองฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำมโนราโอด

๏ ทำเอยทำคุณ ไป่รู้การุญแทนสนอง
คุณพี่อย่ามีเลยปอง จองแต่โทษร้ายพาธา
กลกาเขียนแก่ยูงทอง ลายเลิศลำยองเลขา
ส่วนยูงเอาหมึกมอทา ลูบไล้ให้กามอมแมม
ส่วนลายไม่เขียนให้แก่กา เอาแต่คุลาเข้ามาแต้ม
ส่วนยูงสิงามอยู่วามแวม แต้มลายระบายอยู่ทั้งตัวฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

๏ หมึกเอยหมึกมอ พอที่ดีแล้วน่าใคร่หัว
ใครใช้ให้กาไม่เจียมตัว ไปกลั้วกับร้ายจัณฑาล
ท่านว่าจะทำคุณใคร เร่งให้พินิจคิดอ่าน
ไม่ทำตามคำบุราณ ที่ท่านเปรียบไว้ให้เร่งดู
อันคนทำคุณจรเข้ เล่ห์กลอย่างนี้ก็มีอยู่
กาดำสิทำนอกครู เจ้าดูเยี่ยงกานี้ว่าไรฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

๏ กาเอยกาดำ ครั้นฟังคำน้องก็คิดได้
อันพี่นี้ทำคุณใคร แต่ล้วนย่อมไม่เปนการ
แม้นเจ้ามาอยู่ร่วมเรือน จะได้เตือนให้เปนแก่นสาร
ด้วยรู้ทำเนียบเทียบทาน ฉบับบุราณกว่าพี่ชาย
เหมือนหนึ่งเจ้าช่วยบำรุงบุญ คุณน้องครั้งนี้มากหลาย
พี่จะพลอยประเสริฐเพริศพราย จะได้สบายไปด้วยกันฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำพระรามตามกวาง

๏ จะเอยจะใคร่ช่วย ให้รวยรุ่งฟ้าเฉิดฉัน
อันจะบำรุงบุญนั้น บรรพ์บอกทำเนียบเทียนทาน
นานไปจะไม่ตอบคุณ ซึ่งการุญรักสมัครสมาน
ทั้งการก็จะไม่เปนการ จะได้อัประมาณเหมือนกา
น้องยังฉงนสนเท่ห์ จะแต่งเล่ห์เลียบเทียบเสนหา
เห็นฬ่อต่อจะอิงแอบกา แม้นเจ้ารักข้าก็อย่าอำฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

๏ ตัวเอยตัวเรียม เทียมด้วยแพทย์รู้ครูขำ
ทั้งอาคมคาถายายำ นวดเน้นเส้นจำแจ้งใจ
สารพันไม่ระแวงแคลงคลาศ ทั้งสาตรโหราก็เรียนได้
แต่ไร้คู่จะชูชื่นใจ ไม่มีนางใดจะแนบนอน
ถึงมีทรัพย์ไว้ก็ไม่คง ด้วยไร้แม่เรือนตรงประสงค์ซ่อน
ในใจพี่ชายไม่วายร้อน จะคิดผันผ่อนกะไรดีฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำมอญแปลง

๏ ไร้เอยว่าไร้คู่ ความรู้เจ้าเรียนมาถ้วนถี่
เปนไรจึงไร้สัตรี มนต์ดลก็ดีสันทัด
จะทำด้วยเสน่ห์เล่ห์ลอง ต้องใจใครเลยจะแขงขัด
หญิงใดจะไม่ประดิพัทธ ฤๅมาข้องขัดน่าอัศจรรย์
ที่เขาเขลาโฉดไม่รู้หน่วย ยังมีเพื่อนม้วยเมียขวัญ
กระสินทำกินถึงเพียงนั้น หญิงไม่ผูกพันก็ผิดไปฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำมอญสี่ภาษา ทับปรบไก่

๏ ทำเอยทำกิน แต่กระสินเท่านี้เปนใหญ่
นวดฟั้นหยูกยาก็เข้าใจ มนต์ดลก็ได้แต่พอดี
อันจะทำเสน่ห์เล่ห์ลอง ไม่มีในท้องคัมภีร์พี่
สิ่งใดจงได้ปรานี อย่าตัดไมตรีพี่ชาย
ให้เทียมแต่เขาที่เฉาโฉด โหดไร้กว่าคนทั้งหลาย
แม้นไข้จะได้ถอยคลาย เจ้าเปนเพื่อนตายพี่บ้างราฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำย่องเหง็ด ทับปรบไก่

๏ เพื่อนเอยเพื่อนตาย จะให้น้องบ่ายผันหา
ไม่จงประสงค์ซึ่งหยูกยา ด้วยโรคโรคาไม่สู้มี
ถึงทำเสน่ห์มิเข้าใจ แต่รักษาไข้ได้ถ้วนถี่
ใจใครจะไม่ยินดี เจ้าจะฝากไมตรีที่นี่ไย
จะมาจงน้องที่ไม่ป่วย ข้าจะเอออวยกะไรได้
อย่าทำถ่อมตัวยั่วยวนใจ มดหมอไม่พอใจรักฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำระส่ำระสาย ทับเนรปาตี

๏ อันเอยอันมดหมอ ทั้งพอดีแล้วไม่มีศักดิ
ถึงน้องมิปองจะผูกรัก ครั้นจะหักใจจริงก็จำจน
แม้นหญิงมีใจใฝ่หา ชายไม่เจตนาไม่เปนผล
ตัวชายเปนต้นสายยนต์ เจ้าผ่อนปรนเถิดจะเปนไร
ถึงตัวไม่ป่วยก็ญาติกา ย่อมจะได้พึ่งพาอาไศรย
รักใครก็ไม่ชอบใจ ไม่เหมือนหนึ่งใยเจ้าคนนี้ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำทองย้อย

๏ ถึงเอยถึงใครใคร ก็ว่าไม่ชอบใจพี่
มาปองแต่ตัวน้องนี้ เปรียบท่วงทีมาก็แจ้งใจ
ถึงตัวเจ้าเปนต้นเหตุ เมื่อเจตนาข้าก็หาไม่
เจ้าอย่าจงข้าไม่ลงใจ ไม่ฝันใฝ่ที่ในไมตรี
มาทแม้นว่าญาติกาไข้ หยูกยาจะไร้ก็ใช่ที่
อันหมอไม่ขอดูดี อย่าพักทำท่วงทีมาฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำยิกินหกบท

๏ ฝูงเอยฝูงหงษ์ จงโบกขรณีเปนที่หา
หมู่นกก็บินเรียงรา ครั้นเห็นพฤกษาก็มุ่งไม้
อรเดียวไม่เหลียวหาพี่ ฤๅตัดรอนไมตรีเปนไฉน
จงมีเยี่ยงปักษาเข้าหาไม้ ไม่เยี่ยงหงษ์ลงในชลธาร
ประเพณีสัตรีกับบุรุษ เปนที่สุดแต่ความเกษมสานต์
นางเดียวแต่เกี้ยวมาช้านาน ไม่ร่วมสำราญพี่บ้างไยฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำมโนราโอดพัน

๏ ช้าเอยช้านาน จะก่นเกี้ยวพานไปถึงไหน
อันนกหงษ์ก็จงเข้าใจ ที่ไม้เจ้าเปรียบปรายมา
อันว่าบุรุษกับกระสัตรี จะรักจริงด้วยมีพาศนา
จึงยืนยงคงคำรอดมา ปะที่ชายช้าก็วุ่นวาย
ครั้นได้แล้วไม่ไยดี อย่างนี้ย่อมมีอยู่มากหลาย
จะให้หญิงวิ่งไปเมียงชาย จะภิปรายก็ขามเขินใจฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำนางนาคไพร

๏ เขินเอยเขินขาม เนื้อความข้อนั้นเจ้าคิดใหม่
ใช่แต่สองรานี้เมื่อไร ในกาลก่อนนั้นก็มีมา
ที่เขายืนยงหงษ์อยู่ ด้วยรู้น้ำใจก็ใคร่หา
ต้องจิตรก็ติดตรึงตรา ยิ่งกว่าที่พาศนามี
อันชายชั่วจะกลั้วกลิ่นชม เจ้าอย่าสมาคมจงฟังพี่
ชอบใจแล้วจะไปไหนมี สักกี่ร้อยปีจะหน่ายน้องฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำล่องเรือ

๏ ร้อยเอยร้อยปี ข้าไม่ยินดีที่ในห้อง
อย่าแต่งข้อมาฬ่อโลมน้อง ใช่จะปองยกยืนที่ชื่นใจ
ธรรมเนียมแต่ก่อนก็ย่อมมี ชายลวงสัตรีแต่โดยได้
ข้อนี้ไม่ยกเจ้าปกไว้ เหตุว่าจะใคร่เปนไมตรี
อันว่าชายชั่วย่อมยั่วใจ มักแต่โลมไล้ใส่สี
เชิงชายจะคล้ายคนนี้ ท่วงทีก็มีมากนักฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำระส่ำระสาย

๏ พญาเอยพญาสาร คเชนทร์ชาญเผือกพงษ์มีศักดิ
บาศบ่วงจ้วงโจมกระชากชัก ตักต้องคล้องติดรึงรัง
อรเดียวเกี่ยวรัดเรียมไว้ อาไลยไม่วายหายหวัง
จะใคร่คล้องลองดูสักครั้ง ให้ติดด้วยรังรศไมตรี
จะค่อยระโบมโลมไล้ แสนสวาดิจะขาดใจพี่
จะได้เห็นเรื่องราวคราวนี้ จะยินลากขากดีด้วยนางฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำตะบูน

๏ ยินเอยยินดี เห็นทางไมตรีไม่ขัดขวาง
รักน้องจะมาคล้องนาง จะเอาเยี่ยงช้างที่กลางไพร
อันช้างเผือกผ่องที่ต้องบ่วง จะเปนห่วงเปนใยมาแต่ไหน
แล้วติดตรากตรำให้จำใจ อันรักอย่างนี้ไม่ต้องการ
อย่าหักให้รักซ้ำ เจ้าทำนอกตำราตราสาร
มาทำอาจอุกรุกราน เขาจะชื่นบานด้วยเมื่อไรฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำสร้อยสน

๏ อุกเอยอุกอาจ สุดสวาดิพี่อย่าสงไสย
พี่ไม่ทำให้ช้ำน้ำใจ จะคล้องเจ้าไว้ด้วยไมตรี
จะติดยิ่งกว่าช้างที่ต้องตราก แม้นได้ฝากซึ่งความรักพี่
ในตำราตราสารก็มี สัตรีเปนที่จำเริญใจ
เมื่อเจ้ามิสนิทเสนหา เจ้าจะเอาตำราไปเสียไหน
อันสิ่งอื่นไม่ชื่นชูใจ เจ้ารับไว้เถิดไม่ป่วยการฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำปะโตงโอดพัน

๏ รับเอยรับไว้ เกรงรับจะไม่เปนแก่นสาร
เด็ดดวงแล้วจะล่วงดรธาน จะป่วยการปลูกไว้แต่หัวที
แล้วจะคิดแต่เมื่อแรกราก ครั้นได้แล้วจะบ่ายบากหนี
เกลือกหญิงอื่นจะชื่นขึ้นกว่านี้ ยินดีแล้วเจ้าจะเห็นไป
ตัวข้าจะลอยกลางคัน ตำราแล้วจะกันไว้ไม่ได้
สุดแท้แต่ใจชอบใจ อันข้าว่าไว้แต่เปนกลางฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำย่องเหง็ด

๏ เลียมเอยเลียมเลียม จะเทียมลอบเล้าโลมปราง
ลำลำจะแนบนวลนาง พี่พลางอิงแอบแนบเน้น
เกรงเกลือกอรอายอางขนาง ฤๅจะเปนทางกวนชวนเล่น
ชอบต้องจะลองคลึงเคล้น ถึงจะเปนกะไรจะได้ดู
อันความสนิทพิศมัย มากลุ้มกลัดใจของพี่อยู่
แม้นได้จะใส่ฝ่ามือชู จะรักร่วมรู้แต่ผู้เดียวฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำดอกไม้ไทร โอดพัน

๏ ร่วมเอยร่วมรู้ ดูดู๋มาเลียมเทียมเกี้ยว
อย่าลำลำทำสอดลอดเลี้ยว จะแกล้งเกี้ยวเคี่ยวเข็นให้คนฟัง
ทำเปนมือไวใจง่าย ไม่รู้ว่าจะอายเมื่อภายหลัง
ทำจริตกิริยาเปนน่าชัง ดังจะคลั่งคลุ้มกลุ้มใจ
แล้วทำสรรเสริญเยิรยก อกเอยช่างเคยมาแต่ไหน
เจ้าอย่าทำยงทนงใจ จะละเจ้าไว้เมื่อไรมีฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำนางปุโรง

๏ ว่าเอยว่าไม่ละ มิปละปล่อยก็ย่อยยับลงกับที่
เปนไรเปนกันในวันนี้ ข้างพี่มิละมิวางกัน
อกพี่หุนเหี้ยนแต่เวียนหา ยังถูกสุราแกล้งกลั่น
ได้แกล้มแล้วจะแถมจงทุกวัน จะชันชีไว้แต่หัวที
อันจะทำใจซื่อมือตาย ย่อมจะว่าร้ายเปนถ้วนถี่
สรรเสริญพเอิญว่าไม่ดี จะใคร่รับไมตรีเมื่อไรฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำมอญสี่ภาษา

๏ ไมเอยไมตรี ทวง[๖]ทีจะมีมาแต่ไหน
เจ้าถูกเหล้าเมามาฤๅว่าไร จึงวุ่นวายไปดังนี้
เจ้าว่ามิละปละปล่อย ก็ย่อยยับด้วยกันกับที่
เห็นว่าข้าเปนสัตรี ฝีมือจะมีเมื่อไร
ได้แกล้มแล้วจะแถมส้ม จะมาข่มใครหาไหน
ข้าก็ปากไวมือไว อันจะลดเจ้าไว้อย่าพึงคิดฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำทองย้อย

๏ ไม่เอยไม่ลด เจ้าจงสกดใจในจิตร
พี่รักนางดังดวงชีวิตร ค่อยคิดดูก่อนอย่าขัดใจ
มิใช่คนเมามายตายเบื่อ จะขอแถมเนื้อพิศมัย
อย่าทำเปนปากไวมือไว ใจน้อยแต่คอยแต่ร่ำภ้อ
ครั้นพี่ว่าแต่อ่อนหวาน เจ้าแต่หักรานไปทุกข้อ
พี่พลั้งไปได้ตั้งตัดภ้อ จะขอโทษน้องจงโปรดปรานีฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำสรเสริญพระจันทร์

๏ ได้เอยได้พลั้ง รู้ชั่งตั้งสำนวนมาถ้วนถี่
ทำเปนเข่นฆ่าระวาตี ข้าสัตรีจะรู้สิ่งใด
มิได้ด้วยแขงจะเอาด้วยอ่อน ข้อกลอนเรียนรู้แต่ครูไหน
จึงทำโลมเล้าเอาใจ จะให้น้องนี้เกลี่ยไกล่ตาม
ทำขอษมาลาโทษ ยุให้โกรธแล้วร้องห้าม
เห็นรู้น้อยมิรู้ถ้อยถึงความ น่าที่จะตามอย่าปรารภฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำย่องเหง็ด

๏ หนีเอยหนีเสือ ขึ้นต้นไม้ก็ต่อแตนขบ
ครั้นขึ้นสู่ภูเขาเทาทบ มาสบแรดร้ายราวี
ครั้นลงมาสู่แผ่นดินเล่า ก็พบงูเห่าวิ่งหนี
ครั้นโถมลงน้ำนที พี่มาพบท้าวพันวัง
เรือน้องน้อยเจ้าพายมา เมตตามารับพี่มั่ง
ทีนี้สิ้นสูญกำลัง ร้อยชั่งจงได้ปรานีฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำมอญโยนดาบ

๏ สุดเอยสุดกำลัง ฟังชายก็พายเรือหนี
ตัวเจ้าว่ายวนชลธี จะขึ้นขี่เรือของน้องไย
เรือน้องน้อยจะพลอยล่ม จะพาจมจะรับไม่ได้
หนีเสือจะไปพึ่งไม้ ครั้นพึ่งมิได้จะลงดิน
จะพึ่งภูเขาแลพึ่งน้ำ ไหนไหนพรํ่าพึ่งมิได้สิ้น
ใครเลยยังเคยได้ยิน เห็นผิดธรรมเนียมแผ่นดินไปฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำพระรามตามกวาง

๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ เจ้าพายเรือหนีพี่ไปไหน
ควรฤๅนวลเจ้ามาตัดใจ จะม้วยบรรไลยในสาคร
ไม่มีที่พึ่งพาอาไศรย โอ้กรรมอะไรแต่ปางก่อน
ทำคุณพี่เถิดเมื่อมีร้อน จะตัดรอนพี่ไยไม่เอนดู
ถึงเรือน้องล่มไม่จมหาย ไว้ให้พี่ชายจะช่วยกู้
สุดคิดพี่แล้วก็สุดรู้ เจ้าจงเอนดูพี่ด้วยราฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำอรุ่ม

๏ สุดเอยสุดคิด แล้วจะได้ผิดข้างน่า
เรือน้องยาวสักสองวา พอจุแต่ข้าคนเดียว
คิดจะใคร่ทำคุณชาย แต่ที่นี้เปนสายน้ำเชี่ยว
แล้วจะไม่ตายแต่ชายเดียว จะเหนี่ยวน้องไปเปนสองคน
ถึงภูเขาสูงต้นยูงใหญ่ เข้าพึ่งยังไม่ได้เปนผล
แต่ร่ำคิดก็คิดจิตรจน กุศลเจ้าเองแต่หลังมาฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

ร้องลำกระนะ

๏ ครื้นเอยครื้นครื้น ฝนสั่งฟ้าลมชมหล้า
คล้ายคล้ายน้ำสั่ง!เลา น่าละห้อยละเหี่ยใจ
คล้อยคล้อยพระสุริยา สั่งโลกแล้วลาเลี้ยวลับไป
คล้ายคล้ายเรียมสั่งลายใจ เจ้าจะไกลพี่แล้วแก้วกับตนฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

ร้องลำลิกิน

๏ ไกลเอยไกลพี่ แต่นี้จะละห้อยคอยหน
ถึงฝนสั่งปัถพีดล ไม่จนนานนักสักเพียงไร
คล้ายคล้ายกับน้ำสั่งปลา จนแต่ปีน่าฟ้าใหม่
ใช่ว่าพระคงคาไลย จะสิ้นไปมิได้มีมา
สั่งน้องแล้วจะแคล้วไป ตั้งแต่จะไห้โหยหา
ไปแล้วไแก้วจะกลับมา จนสองราจะม้วยมุดฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

๏ ครวญเอยครวญครวญ แต่ป่วนใจพี่เปนที่สุด
ทุกข์ของใครในเมืองมนุษย์ ไม่เปรียบดุจทุกข์เราสองรา
ถึงน้ำสั่งฟ้าปลาสั่งฝน ทุกข์เราสองคนนี้ยิ่งกว่า
น้ำครั้นถึงปีจะมีมา ฝูงปลาไม่อาไลยนัก
เร่งคิดจิตรพี่เร่งร้อน ข้อนทรวงเข้าเพียงอกหัก
สั่งไยพี่อาไลยนัก น้องรักค่อยอยู่จงดีฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

บทหญิง

๏ อาเอยอาไลย เร่งร้อนฤไทยดังไฟจี้
ได้ฟังคำสั่งเจ้าครั้งนี้ ดังน้องจะตีตัวตาย
กรรมอะไรแก่ตัวข้า อย่ามีแก่อกคนทั้งหลาย
ฟังสั่งจะคลั่งใจตาย พี่เพียงจะวางวายม้วยมุด
โอ้อนิจาแก่ตัวข้า แสนเวทนาเปนที่สุด
เหล่าคนในเมืองมนุษย์ ดังอกจะซุดจะโซมไปฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

บทชาย

๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ ที่นี้สิ้นสุดอาไลย
จะลาพุ่มพวงดวงดอกไม้ ยังเปนเยื่อใยไม่วายวาง
ดอกสร้อยเกษีอันมีรศ ก็หมดเรื่องร้องทั้งสองข้าง
แต่สอนเปนเล่นพลางพลาง แม้ขาดบทบ้างอย่าไยไพ
ประดิษฐติดต่อข้อกลอน ตูข้าพึ่งสอนทำใหม่
เอาโคลงมาแต่งจึ่งแจ้งใจ ฟ้งแล้วอย่าได้นินทา
เห็นขาดช่วยแซมแต้มเขียน ผู้รู้นักเรียนไปข้างน่า
ให้จงรุ่งเรืองเลื่องฦๅชา กว่าจะแรมราโรยไปฯ

ฯ ๘ คำ ฯ



[๑] น่าจะเป็น “พลั้ง” (กวป.)

[๒] “เภา” ภาษาเขมรหมายถึง “ลูกสาวคนเล็ก” ในที่นี้น่าจะหมายถึง “น้องหญิง”(กวป.)

[๓] การบวงสรวงหรือ “เซ่น” โภควดี โดยนำก้อนข้าววางไว้ที่ท่านํ้าตามที่กล่าวถึงนี้ยังไม่สามารถอธิบายได้ (กวป.)

[๔] พิจารณาจากความน่าจะเป็น “พาล" (กวป.)

[๕] พิจารณาจากความน่าจะเป็น “พาล" (กวป.)

[๖] น่าจะเป็น “ท่วงท่า” (กวป.)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ