๗๘

ซัวไซต๋อได้ฟังจึงคิดว่าโพฮองก๊กซือคนนี้ กิมงึดตุดได้เล่าให้ฟังว่าเธอมีก้อนกรวดฮุนง่วนจู๊กับตอเหลงของวิเศษมาสองสิ่ง ก็สู้รบทหารพวกซ้องไม่ได้เสียของวิเศษแล้วหนีกลับไป เหตุไฉนโพฮองก๊กซือจึงกลับมาอีกเล่า จำจะให้ไปเชิญเข้ามาสนทนาฟังความคิดเธอดู ก็ให้ทหารไปเชิญโพฮองก๊กซือเข้ามาในค่ายจัดที่ให้นั่งสมควรแล้ว ซัวไซต๋อจึงพูดว่ากิมงึดตุดนั้นล่าถอยทัพไปเมืองแล้ว แต่ได้พูดไว้กับข้าพเจ้าว่าท่านมีของวิเศษมาสองอย่างก็สู้รบทหารซ้องไม่ได้ กลับไปที่อยู่เสียแล้ว ข้าพเจ้าได้ฟังกิมงึดตุดบอกก็มีความแค้นแทนท่านมากนัก บัดนี้ท่านมาด้วยเหตุอันใด หลวงฮวนโพฮองว่าเมื่อก่อนข้าพเจ้ามาเสียของวิเศษสองอย่างไปนั้นมีใจเจ็บแค้นนัก จึงได้ไปเที่ยวเล่าเรียนวิชาหาของวิเศษมาอีก จะฆ่าพวกทหารงักหลุยเสียให้สิ้นจึงจะหายความแค้น ท่านแม่ทัพได้สู้รบกับข้าศึกเป็นประการใดบ้าง ซัวไซต๋อว่าทหารในกองทัพงักหลุยมีฝีมือเข้มแข็งหลายคนนัก ข้าพเจ้ายกออกไปรบครั้งใด ทหารงักหลุยที่มีฝีมือก็ออกรุกรบหลายคนนักเหลือกำลังที่จะต้านทาน เสียทีถอยหนีมาทุกคราวไม่รู้ที่จะทำประการใดเลย หลวงฮวนโพฮองพูดว่าเวลาพรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะออกไปจับทหารกองทัพงักหลุยมาฆ่าแก้แค้นเสียให้เปลืองไป ท่านอย่าวิตก ซัวไซต๋อได้ฟังก็ดีใจสั่งให้ยกโต๊ะมาตั้งเลี้ยง หลวงฮวนโพอองกินอาหารเสพสุราแล้วซัวไซต๋อก็แต่งที่ให้พักอยู่โดยสมควร ครั้นเวลารุ่งเช้าซัวไซต๋อจัดทหารสามพันมอบให้หลวงฮวนโพฮอง หลวงฮวนโพฮองถือกระบี่ขึ้นม้าคุมทหารออกจากค่ายเดินตรงไปถึงหน้าค่ายงักหลุย แล้วร้องด้วยเสียงอันดังว่าเราชื่อโพฮองก๊กซือผู้วิเศษมาถึงแล้ว ทหารพวกแผ่นดินซ้องจงพากันมาให้เราฆ่าเสียโดยดีเถิด ทหารหน้าค่ายได้ฟังความก็เข้าไปแจ้งแก่งักหลุย งักหลุยสะดุ้งใจไม่สบายพูดว่าหลวงฮวนโพฮองกลับมาอีกดังนี้ก็คงจะมีวิชาต่าง ๆ เราจะทำประการใด นายทหารทั้งปวงพากันพูดว่าหลวงฮวนโพฮองครั้งก่อนใช้ของวิเศษก็เสียทีแก่พวกเราหนีกลับไป มาครั้งนี้อีกก็คงจะแพ้พ่ายไปเหมือนกัน ท่านจะวิตกไปทำไมนักหนา พวกข้าพเจ้าจะอาสาไปกำจัดเสียเอง งักหลุยว่าท่านทั้งปวงอย่าประมาทวิชาของวิเศษมาแต่ข้าศึกนั้นกว่าเราจะรู้แก้ได้ก็ได้ความลำบากล้มตายเสียก่อน ไม่เหมือนสู้กันด้วยสติปัญญาและฝีมือ เราจะต้องเอาหนังสือเมียนเจียนป้ายไปแขวนขอทุเลาหยุดรบสักสี่ห้าวันพอจะได้สืบสวนให้รู้กระบวนวิชาของหลวงฮวนโพฮองเสียก่อนจึงค่อยออกรบ กิดแชได้ฟังจึงว่าพวกเรามีฝีมือเข้มแข็งมีมากด้วยกัน จะมานั่งกลัวหลวงฮวนโพฮองคนเดียวดังนี้ไม่ควรเลย ท่านอย่าแขวนหนังสือเมียนเจียนป้ายให้ข้าศึกดูหมิ่นว่าเราย่อท้อถอย เลียงเฮง เตียหุน จิวแชได้ฟังกิดแชพูดดังนั้นก็เห็นชอบ จึงว่าข้าพเจ้าทั้งสามจะขอไปช่วยกิดแชสู้รบด้วย งูเกาว่าข้าพเจ้าจะกำกับออกไปจึงจะได้ชัยชนะ พูดแล้วนายทหารทั้งห้าคุมทหารซึ่งตัวได้ว่ากล่าวยกออกจากค่ายไป งักหลุยแม่ทัพยังไม่ทันอนุญาต จูกัดกิมเห็นดังนั้นจึงพูดกับงักหลุยว่า ท่านเป็นแม่ทัพถืออาชญาสิทธิ์การงานสิ่งใดก็สำเร็จเด็ดขาดอยู่แก่ท่านผู้เดียว เหตุใดจึงปล่อยให้นายทหารทั้งห้าดื้อยกออกไปสู้วิชาหลวงฮวนโพฮองนั้นจะเป็นอันตรายเสียดอกกระมัง จงให้ไปตามเรียกหากลับมาเสียโดยเร็วเถิด งักหลุยว่านายทหารทั้งห้านี้เป็นผู้ใหญ่ได้สาบานเป็นพี่น้องกับบิดาเรา ครั้นจะว่ากล่าวดุดันเอานักก็ไม่ได้ จำจะให้ทหารยกไปช่วยอีก พูดแล้วก็สั่งให้เล็กบุนเหลง กวนเหลง เต็กหลุย ฮวนเสง สี่นายคุมทหารรีบยกตามไปช่วยโดยเร็ว

ฝ่ายกิดแช เลียงเฮง เตียหุน จิวแช งูเกา ยกออกไปเห็นหลวงฮวนโพฮอง ยืนม้าอยู่หน้าทหาร กิดแชก็ขับม้าเข้าไปรบกับหลวงฮวนโพฮอง เลียงเฮง เตียหุน จิวแช ขับม้าตามเข้าไปรบหมายจะฆ่าหลวงฮวนโพฮองเสียให้ทันใจ งูเกายืนม้ากำกับอยู่ หลวงฮวนโพฮองรบกับนายทหารทั้งสี่อยู่หน่อยหนึ่งก็ขับม้าล่าถอยไปเอาพลอยเฮกฮองจูของวิเศษออกอ่านมนต์โยนขึ้นไปบนอากาศ พลอยนั้นบันดาลเป็นเม็ดโตใหญ่หลายหมื่นหลายพันตกลงมาดังเม็ดฝน กิดแช จิวแช เตียหุน เลียงเฮง นายทหารทั้งสี่ถูกพลอยเฮกฮองดูของวิเศษก็ตกม้าลงสลบอยู่กับพื้นแผ่นดิน งูเกาเห็นนายทหารทั้งสี่ตกม้าลงแน่นิ่งอยู่กับพื้นดินก็ตกใจ เอาเกาทัณฑ์ซึงฮุนจียิงไปก็ลบล้างอิทธิฤทธิ์พลอยนั้นหาย หลวงฮวนโพฮองเห็นเกาทัณฑ์ซึงฮุนจีทำลายล้างอิทธิฤทธิ์พลอยวิเศษเสียได้ก็อ่านมนต์เรียกเอาลูกเกาทัณฑ์ซึงฮุนจีกับพลอยเฮกเฮงจูคืนไปได้ งูเกาเสียลูกเกาทัณฑ์ไปกับหลวงฮวนก็ตกใจร้องว่าเสียการแล้ว หลวงฮวนโพฮองขับม้าตรงเข้ามาจะตัดเอาศีรษะนายทหารทั้งสี่ พอกวนเหลง เล็กบุนเหลง เต็กหลุย ฮวนเสง สี่นายขับม้ามาทันเข้ารบสกัดกั้นไว้ หลวงฮวนโพฮองเอาพลอยเฮกฮองจูโยนขึ้นไปบนอากาศอีก พลอยนั้นถูกเกาทัณฑ์ซึงฮุนจีเสียฤทธิ์ใช้ไม่ได้ตกลงมาเปล่า หลวงฮวนโพฮองจะหยิบเอาของวิเศษอีกอย่างหนึ่งออกก็ไม่ทัน ด้วยนายทหารทั้งสี่รบรุกเข้ามาชิดตัวก็ร่ายมนต์หายตัวหนีไป นายทหารทั้งสี่ไม่เห็นหลวงฮวนโพฮองแล้วก็พาทหารพยุงอุ้มเอานายทหารทั้งสี่ที่ถูกอาวุธวิเศษกลับมาค่าย งูเกากับนายทหารทั้งสี่เข้าไปแจ้งความแก่งักหลุย งักหลุยตกใจเรียกหมอให้เอายามาแก้ กิดแช จิวแช เตียหุน เลียงเฮง ก็ขาดลมหายใจเสียแล้ว งักหลุยและนายทหารทั้งปวงมีก็ความเศร้าโศกร้องไห้รักนายทหารทั้งสี่เป็นอันมาก งักหลุยจึงพูดว่าไม่พอที่เลยเราเห็นการอยู่แล้ว ครั้นจะห้ามก็กลัวจะขัดใจ จึงสั่งให้จัดหีบมาใส่ศพนายทหารทั้งสี่ เลือกหาฮวงซุ้ยได้ดีแล้วก็ฝังศพทั้งสี่ตามยศขุนนางนายทหาร กิดเซงเหลียงบุตรกิดแชครั้นฝังศพบิดาแล้วก็ร้องไห้ร่ำไรมิหยุดหย่อน งักหลุยจึงเข้าไปพูดว่าท่านอย่าโศกเศร้านักเลย เกิดมาเป็นคนแล้วก็คงตายเหมือนกันทั้งสิ้น การซึ่งเป็นดังนี้ก็เพราะไม่เชื่อฟังคำเรา

ฝ่ายหลวงฮวนโพฮอง ร่ายมนต์กำบังตัวกลับไปถึงค่าย แจ้งความให้ซัวไซต๋อแม่ทัพฟังตามซึ่งได้ชัยชนะฆ่านายทหารพวกเมืองซ้องตายหลายคน ซัวไซต๋อได้ฟังก็มีความยินดีนัก สั่งให้จัดโต๊ะและสุรามาเลี้ยงหลวงฮวนโพฮอง ครั้นเวลารุ่งเช้าหลวงฮวนโพฮองก็คุมทหารออกจากค่ายไปท้าชวนรบอีก ทหารหน้าค่ายเห็นก็เข้าไปแจ้งความแก่งักหลุยแม่ทัพว่า หลวงฮวนโพอองกลับมาท้าชวนรบอีกแล้ว งักหลุยจึงปรึกษากับจูกัดกิมว่าเราจะคิดประการใดดี จึงจะทำลายล้างวิชาหลวงฮวนโพฮองได้ จูกัดกิมว่าจะต้องแขวนหนังสือเมียนเจียนป้าย ทุเลาหยุดรบสักสองสามเวลาจึงค่อยคิดอ่านหาอุบายต่อไป กิดเชงเหลียงบุตรกิดแชได้ฟังจูกัดกิมพูดดังนั้น จึงว่าซึ่งจะแขวนหนังสือเมียนเจียนป้ายอยู่เช่นนี้ แล้วการศึกที่ไหนจะสำเร็จ ข้าพเจ้าจะขอออกไปรบแก้แค้นแทนบิดาสักครั้งหนึ่ง กวนเหลง เต็กหลุย เฮงปิว เตียเองว่า ข้าพเจ้าทั้งสี่นี้จะขอยกออกไปช่วยกิดเซงเหลียงด้วย งักหลุยว่าซึ่งท่านทั้งห้ามีฝีมือเข้มแข็งดีก็จริง แต่จะไปสู้วิชาความรู้นั้นเราวิตก ครั้นจะขัดขืนก็จะเสียใจ ท่านจะออกไปจงระวังตัวให้ดี ถ้าเห็นหลวงฮวนโพฮองทำวิชานั้นแล้วก็จงรีบหนีกลับเข้าค่ายเสียให้ทัน นายทหารทั้งห้าก็คำนับลาขึ้นม้าออกจากค่ายตรงไป เห็นหลวงฮวนโพฮองยืนม้าอยู่ นายทหารทั้งห้าก็ขับม้าตรงเข้ารบตะลุมบอน หลวงฮวนโพฮองหลบหลีกอาวุธถอยห่างออกไป หยิบเอาธงเฮกฮองกีของวิเศษขึ้นโบก ก็บันดาลให้อากาศมืดมัวเกิดเป็นลมพายุพัดหอบเอาก้อนศิลาและกรวดทรายตกลงมาดังห่าฝน นายทหารทั้งห้ากับไพร่พลตกใจขับม้าหนีก้อนศิลาตกลงมาถูกศีรษะแตกโลหิตไหล ทั้งห้านายอุตส่าห์แข็งใจขับม้าหนีพ้นไปได้ ทหารเลวที่หนีไม่ทันถูกก้อนศิลาตายประมาณพัน หลวงฮวนโพฮองได้ทีก็รุกไล่เข้าไปจนถึงหน้าค่าย ก้อนศิลากรวดทรายก็ปลิวตกตามเข้าไปถูกทหารในค่าย งักหลุยกับนายทหารทั้งปวงตกใจปิดประตูหลังค่ายถอยทัพหนีไปทางประมาณสามสิบลี้ จึงให้ตั้งค่ายพักทหารอยู่ หลวงฮวนโพฮองเห็นกองทัพแตกหนีไปแล้ว ก็อ่านมนต์เรียกธงของวิเศษกลับมาเก็บไว้ พาทหารเลิกกลับมาค่ายแจ้งความให้ซัวไซต๋อฟังทุกประการ ซัวไซต๋อมีความยินดีพูดว่า ท่านไปรบเหน็ดเหนื่อยมามากไปพักเสียให้สบาย เวลาอื่นจึงค่อยออกไปอีก หลวงฮวนโพฮองก็ลาไปที่อยู่

ฝ่ายงักหลุย เห็นนายทหารทั้งห้าศีรษะแตกโลหิตไหลเจ็บป่วยมากมีความวิตกนัก สั่งให้หาหมอมารักษาพยาบาลแล้วปรึกษากับจูกัดกิมว่า หลวงฮวนโพฮองมีพลอยวิเศษมา งูเกายิงเกาทัณฑ์ไปลบล้างเสียได้ หลวงฮวนโพฮองเสกคาถาเรียกเอาเกาทัณฑ์ของงูเกาไป และธงเฮกฮองกีนี้วิเศษสำคัญนัก จะคิดอ่านแก้ไขอย่างไรดี จูกัดกิมว่า ข้าพเจ้าก็มีความวิตกมาก เวลาคืนนี้พิเคราะห์ดูดาวบนอากาศแล้วตรวจดูตำรา เห็นว่าอีกสองเวลาจะมีผู้วิเศษมาช่วย ท่านอย่าเพิ่งทุกข์ร้อนไปก่อนเลย งักหลุยได้ฟังก็ค่อยคลายใจจึงสั่งแก่นายทหารเหล่านั้นว่า จงช่วยกันระวังรักษาค่ายให้มั่นคง ถ้ามีผู้ใดมาถามหาก็จงเข้ามาบอกโดยเร็ว

ฝ่ายเปาฮวงเล่าโจ๊วผู้วิเศษ ซึ่งเป็นอาจารย์ของงูเกานั้นนั่งอยู่ที่สำนักให้มีความร้อนรนไม่สบาย จึงเข้านั่งระงับจิตพิจารณาดูเหตุการณ์ รู้ว่าหลวงฮวนโพฮองมากระทำวิชาให้งักหลุยแม่ทัพกับงูเกาผู้เป็นศิษย์ได้รับความลำบากเดือดร้อน จึงพิจารณาดูชะตาแผ่นดินต่อไปอีก ก็ว่าแผ่นดินซ้องนี้เดิมชะตาตก บัดนี้เป็นคราวชะตาขึ้นแล้ว ควรเราจะไปช่วยปราบปรามหลวงฮวนโพฮองเสีย อย่าให้กระทำแก่ทหารแผ่นดินซ้องยับเยินเสียได้ คิดแล้วเปาฮวงเล่าโจ๊วก็ออกจากที่สำนักมาด้วยอิทธิฤทธิ์ถึงค่ายงักหลุย ก็บอกกับทหารรักษาประตูว่าเราเป็นอาจารย์ของงูเกา จะมาหาท่านแม่ทัพกับงูเกา ทหารรักษาประตูก็รีบเอาความเข้ามาแจ้งแก่งักหลุย งูเกา งักหลุย งูเกามีความยินดีออกไปรับเชิญเปาฮวงเล่าโจ๊วเข้ามาในค่ายจัดที่ให้นั่งตามสมควรแล้วก็คุกเข่าลงคำนับโดยความเคารพนับถือ งูทอง ฮอหง ก็เข้าไปคุกเข่าลงคำนับเปาฮวงเล่าโจ๊วแล้วว่า ท่านให้ยาบิดาข้าพเจ้าช่วยแก้ชีวิตข้าพเจ้าทั้งสองไว้พระคุณหาที่เปรียบมิได้ ข้าพเจ้าทั้งสองคิดจะไปคำนับท่านก็ยังไม่ได้ว่างเปล่าเลย เปาฮวงเล่าโจ๊วจึงพูดกับงักหลุยแม่ทัพว่า ท่านยกกองทัพมาปราบปรามข้าศึก ขัดขวางอยู่ด้วยหลวงฮวนโพฮองมาทำให้ท่านกับไพร่พลทั้งหลายได้รับความลำบากล้มตายไปหนักหนา เราจึงมาช่วย งักหลุยได้ฟังก็มีความยินดีว่า ครั้งนี้ข้าพเจ้าสู้หลวงฮวนโพฮองไม่ได้ก็มีโทษเป็นอันมาก บัดนี้ท่านได้มาช่วยก็เป็นบุญของแผ่นดินซ้องที่จะไม่สาบสูญ ขอเชิญท่านจัดการสู้รบเถิด ข้าพเจ้าจะขอมอบทหารและอาชญาสิทธิ์ให้ท่านว่ากล่าวบังคับบัญชา เปาฮวงเล่าโจ๊วว่าไม่ต้องการใช้อาชญาสิทธิ์ดอก เราจะเล่าให้ท่านฟัง หลวงฮวนโพฮองคนนี้เดิมเป็นชาติปลาดำอยู่ในแม่น้ำฮั่วกัง บนศีรษะมีดาวเจ็ดดวง เวลากลางคืนขึ้นมาลอยอยู่บนหลังน้ำดูดาวจระเข้อยู่ถึงพันปีเศษ จึงได้กลับกลายมาเป็นหลวงฮวนโพฮอง เมื่อชาติก่อนบิดาท่านได้ล้างผลาญบุตรของโอวเหลงเซียบ๊ออาจารย์ของหลวงฮวนโพฮอง โอวเหลงเซียบ๊อจึงได้สั่งหลวงฮวนโพฮองไว้ว่าถ้าพบพวกแซ่งักจะทำการสิ่งใดก็ให้ขัดขวางป้องกันไว้ การซึ่งเป็นดังนี้ก็เพราะด้วยเวรชาติก่อนมีมา หลวงฮวนโพฮองนี้ไม่มีสติปัญญาและฝีมือดอก อาศัยแต่ฤทธิ์ของวิเศษเท่านั้น ท่านจงยกกองกลับไปค่ายเดิมเถิด ถ้าหลวงฮวนโพฮองมาท้ารบท่านจงให้นายทหารผู้ใดออกไปสักคนหนึ่งเราจะกำกับไปด้วย ถ้าหลวงฮวนโพฮองเอาธงของวิเศษออกใช้เมื่อไรเราก็จะเรียกเอามาเสีย เมื่อสิ้นของวิเศษแล้วสู้แต่ทหารเลวคนหนึ่งก็ไม่ได้ งักหลุยได้ฟังก็มีความยินดียิ่งนัก ลุกขึ้นคำนับกราบไหว้แล้วให้ยกกองทัพกลับมาค่ายเก่าตั้งอยู่ตามเดิม

ฝ่ายซัวไซต๋อกับหลวงฮวนโพฮองนั่งพูดกันว่า ทหารเมืองนิ่มอันล้มตายแตกตื่นทิ้งค่ายหนีไปแล้ว เห็นจะไม่ยกกลับมาอีก จำเราจะคอยท่ากิมงึดตุดไปกะเกณฑ์ไพร่พลยกกองทัพมาถึงพร้อมกันเมื่อใด จึงค่อยยกไปตีเมืองนิ่มอันก็จะได้สมความปรารถนา ซัวไซต๋อกับหลวงฮวนโพฮองพูดกันแล้วหัวเราะรื่นเริงเป็นที่สบายใจ พอทหารม้าใช้คอยเหตุเข้ามาบอกว่า กองทัพงักหลุยยกกลับมาที่ค่ายเดิมอีกแล้ว หลวงฮวนโพฮองได้ฟังจึงพูดว่า ทหารเมืองนิ่มอันมันจะมาหาที่ตาย ข้าพเจ้าจะฆ่าเสียให้สิ้นมิให้เหลือหลอไปได้ ซัวไซต๋อแม่ทัพกับเลียนยี่ซินเสียงว่า ข้าพเจ้าทั้งสองจะไปด้วยช่วยฆ่าเล่นให้สนุกมือ หลวงฮวนโพฮองกับซัวไซต๋อ เลียนยี่ซินเสียงก็แต่งตัวคุมทหารออกจากค่ายตรงไปถึงหน้าค่ายงักหลุย หลวงฮวนโพฮองร้องตวาดด้วยเสียงอันดังว่า อ้ายทหารซ้องเหล่านี้ยังจะกลับมาให้ฆ่าเสียอีกหรือ งูทองก็ขับม้าออกมาร้องว่าวันนี้อ้ายหลวงฮวนโพฮองมึงจะถึงที่ตายแล้วก็เข้าสู้รบกับหลวงฮวนโพฮอง เปาฮวงเล่าโจ๊วยืนดูเห็นหลวงฮวนโพฮอง ถอยห่างออกไปหยิบเอาเกาทัณฑ์ซึงฮุนจีที่เรียกได้มาจากงูเกายิงไป เปาฮวงเล่าโจ๊วก็เรียกเอาเกาทัณฑ์ซึงฮุนจีนั้นไว้เสีย หลวงฮวนโพฮองแลเห็นเปาฮวงเล่าโจ๊วเรียกเอาลูกเกาทัณฑ์ไว้เสียได้ก็โกรธร้องตวาดว่าท่านผู้นี้มาแต่ไหน ก็ตรงเข้าไปเงื้อกระบี่จะฟัน เปาฮวงเล่าโจ๊วหลบเสียข้างหนึ่งให้งูทองเข้ารบ

ฝ่ายกวนเหลง เต็กหลุย เล็กบุนเหลง ฮวนเสง เงียมเชงฮอง กิดเซงเหลียง ซีหอง ฮอหง แต้ซีปอ เงาเหลียน เอาเอียงซองเสียง นายทหารสิบเอ็ดคนที่เตรียมกันไว้ก็กรูออกรบ ร้องว่าช่วยกันจับตัวอ้ายหลวงฮวนโพฮองให้ได้ หลวงฮวนโพฮองชักม้าหนีถอยห่างออกไป ชักธงเฮกฮองกีขึ้นโบกก็บันดาลให้มืดมัวไปทั้งอากาศ เกิดลมพายุพัดหอบก้อนศิลากรวดทรายปลิวมามืดมนเหมือนฝนจะตก เปาฮวงเล่าโจ๊วเห็นก็เอากระจกโปกงเกียของวิเศษออกมาส่อง ก็บันดาลเป็นลมพายุพัดก้อนศิลากรวดทรายปลิวสูญหายไป อากาศที่มืดมัวนั้นก็สว่างไปตามเดิม หลวงฮวนโพฮองเห็นก็มีความโกรธแค้นยิ่งนัก ชักเอากระบอกเหล็กที่เหน็บออกมาถือ อ่านมนต์โยนขึ้นไปบนอากาศ ก็บันดาลเป็นกระบองเหล็กนับได้หมื่นได้แสนจะเข้าไล่ทุบตีเอาทหารพวกงักหลุย ทหารเหล่านั้นเห็นก็ตกใจขยับจะวิ่งหนี เปาฮวงเล่าโจ๊วเอาแส้หางม้าวิเศษที่ถือมาอ่านมนต์โยนขึ้นไปบนอากาศ ก็บันดาลเป็นแส้นับหมื่นแสน ปัดกวาดกระบองเหล็กสูญหายไปเหลืออยู่แต่อันเดียวตกลงมา เปาฮวงเล่าโจ๊วก็อ่านมนต์เรียกแส้และกระบอกเหล็กของหลวงฮวนโพฮองมาไว้เสีย หลวงฮวนโพฮองสิ้นของวิเศษก็เสียใจ สิ้นความคิดอ่านมนต์จะกำบังตัวหนีไป พอเอาเอียงซองเสียงขับม้าเข้าไปทันเอาขวานฟันถูกหลวงฮวนโพฮองล้มลงอยู่กับที่ อ่านมนต์ก็ไม่ทันจบหายตัวไปไม่ได้ เต็กหลุยขับม้าเข้าไปเอากระบอกตีถูกศีรษะหลวงฮวนโพฮองแตกตาย ซากศพนั้นก็กลับกลายเป็นปลาดำกลิ้งอยู่กลางดิน ซัวไซต๋อแม่ทัพกับเลียนยี่ซินเสียงยืนดูหลวงฮวนโพฮองทำวิชาสู้รบอยู่ ครั้นเห็นหลวงฮวนโพฮองเสียที ทหารงักหลุยฆ่าตาย ซัวไซต๋อก็ขับม้าเข้าไปรบด้วยกำลังโกรธ เอียคีจิวก็ขับม้าเข้าสู้กับซัวไซต๋อเป็นสามารถ เลียนยี่ซินเสียงขับม้าเข้าไปช่วยซัวไซต๋อ เล็กบุนเหลงเห็นก็ขับม้าออกสกัดรบกับเลียนยี่ซินเสียง เอียคีจิวรบกับซัวไซต๋ออ่อนกำลังลงกลัวจะเสียทีก็ทำเป็นขับม้าหนี ซัวไซต๋อไล่ตามเกือบจะทัน เอียคีจิวโดดลงจากหลังม้า ซัวไซต๋อขับม้าถลันเข้าไป เอียคีจิวเอาทวนแทงถูกชายโครงซัวไซต๋อตกม้าลงตาย เลียนยี่ซินเสียงรบอยู่กับเล็กบุนเหลงได้หลายสิบเพลง เลียนยี่ซินเสียงแลไปเห็นซัวไซต๋อถูกข้าศึกฆ่าตายก็ตกใจขยับจะชักม้าหนี เล็กบุนเหลงได้ทีเอาทวนแทงถูกต้นคอเลียนยี่ซินเสียง ตลอดไปข้างหลังขาดใจตายอยู่บนหลังม้า พวกทหารฮวนเห็นนายตายทั้งสองคนก็ตกใจแตกตื่นไม่คิดจะสู้รบ ทหารในกองทัพงักหลุยไล่ฆ่าฟันล้มตายเป็นอันมาก ที่เหลือตายก็หนีกระจัดพลัดพรายไป งักหลุยได้ชัยชนะแก่ข้าศึกแล้วก็ตีม้าล่อเรียกทหารกลับเข้าค่าย พูดกับเปาฮวงเล่าโจ๊วว่า ท่านมาช่วยครั้งนี้มีบุญคุณหาที่จะเปรียบไม่ได้ ข้าพเจ้าจะยกกองทัพตามกิมงึดตุดเข้าไปอยากจะใคร่เชิญท่านไปด้วย เปาฮวงเล่าโจ๊วว่าการซึ่งท่านจะยกกองทัพไปข้างหน้านั้นไม่สู้สำคัญนักดอก ด้วยชะตาแผ่นดินซ้องครั้งนี้กำลังขึ้น จะยกไปตีบ้านเมืองใดก็คงได้ชัยชนะ ตัวเราจะลาท่านแม่ทัพและนายทหารทั้งปวงไปก่อนแล้ว งูเกานั้นเราได้ให้เกือกมาสำหรับใช้ในการที่จะเดินน้ำ บัดนี้ก็สิ้นการแล้วจงไปหยิบเกือกมาให้เราดู งูเกาไปหยิบเอาเกือกมาวางลงกลายเป็นนกคู่หนึ่งบินไป เปาฮวงเล่าโจ๊วก็ลุกเดินออกจากค่าย งักหลุยและนายทหารทั้งปวงก็ตามออกไปคำนับส่งถึงนอกค่าย เปาฮวงเล่าโจ๊วเรียกนกคู่นั้นมาแล้วก็ออกเดินหายตัวไป งักหลุยตั้งกองทัพอยู่รวบรวมเสบียงอาหาร ทำหนังสือบอกข้อราชการซึ่งได้ชัยชนะแก่ข้าศึก แล้วจะยกล่วงเขตแดนเข้าไปตีเอาเมืองไตกิมก๊กให้ทหารม้าใช้ถือไปเมืองหลวง งักหลุยให้ประชุมนายทัพนายกองมาพร้อมจัดกระบวนทัพ ให้เอาเอียงซองเสียงเป็นที่เซียนฮองแม่ทัพหน้า ให้อือหลุย เต็กหลุยเป็นปลัดซ้ายขวา คุมทหารหมื่นหนึ่งยกไปก่อน ให้งูทองเป็นที่เซียนอ๋องแม่ทัพหนุน ให้เตียเอง ซีหอง สองนายเป็นปลัดซ้ายขวาคุมทหารหมื่นหนึ่งยกไปเป็นที่สอง ตัวงักหลุยกับนายทหารเหล่านั้นยกเป็นกองทัพใหญ่ตามไป เดินทางไปหลายวันกองทัพหน้ายกไปถึงเมืองมกเอียงเสีย หน้าด่านเมืองไตกิมก๊ก เอาเอียงซองเสียงสั่งให้ตั้งค่ายมั่นห่างเมืองทางประมาณสามสิบลี้ ครั้นทำค่ายเสร็จแล้ว เอาเอียงซองเสียงกับอือหลุย เต็กหลุยก็ขึ้นม้าคุมทหารตรงไปถึงหน้าเมือง ร้องชวนผู้รักษาเมืองให้ออกรบ

ฝ่ายอวนงันซิว ผู้รักษาเมืองมกเอียงเสียนั้นรูปร่างสูงใหญ่หน้าลายเหมือนเสือ กำลังเรี่ยวแรงมาก คนทั้งปวงสรรเสริญว่าสู้ทหารได้หมื่นหนึ่ง มีทหารเอกอยู่สองนายชื่อเซกกวางโจวกับเซกกีโจวพี่น้องสองคนเป็นบุตรของเซกฮวง ทหารแผ่นดินซ้องซึ่งเอาเกาทัณฑ์ลอบยิงบูเชียงก๋งซึ่งงูเกาฆ่าตายเสียแล้ว บุตรสองคนพี่น้องจึงหนีไปสามิภักดิ์อยู่กับอวนงันซิว ซึ่งเป็นอาของลังจู๊เจ้าเมืองไตกิมก๊ก ครั้นม้าใช้เข้ามาแจ้งว่ามีกองทัพยกเข้ามาตั้งห่างเมืองประมาณสามสิบลี้ มีนายทหารสามคนเข้ามาร้องท้าชวนรบถึงหน้าเมือง อวนงันซิวได้ฟังก็สั่งให้จัดไพร่พลทหารไว้พร้อม อวนงันซิวแต่งตัวขึ้นม้าถือง้าวคุมทหารยกออกจากเมือง เห็นนายทหารซ้องยืนม้าอยู่ก็ร้องถามไปว่า ทหารเหล่านี้มาแต่ไหนจึงได้ล่วงเข้ามาถึงเมืองเรา เอาเอียงซองเสียงตอบว่าเราเป็นนายทหารของงักหลุยแม่ทัพเมืองนิ่มอัน ยกมาจะปราบพวกฮวนฝ่ายเหนือเสียให้ราบคาบ ตัวท่านนี้ชื่อไร อวนงันซิวบอกว่าเราเป็นผู้รักษาเมืองมกเอียงเสีย ชื่ออวนงันซิวเป็นอาของลังจู๊เจ้าเมืองไตกิมก๊ก ถ้าพวกเจ้ารักตัวกลัวตายจงเร่งถอยทัพออกไปเสียให้พ้น ถ้าขืนอยู่สู้รบตีเอาบ้านเมืองเรา เมื่อท่านมานั้นมีทางเมื่อจะกลับไปนั้นไม่มีทางคงตายอยู่ที่นี้สิ้น เอาเอียงซองเสียงตอบว่างักหลุยแม่ทัพของเรายกไปรบครั้งใดก็ได้ชัยชนะทุกแห่งไม่มีผู้ใดอาจจะต้านทานได้ เมืองท่านเล็กเท่านี้มาพูดฮึกเหิมให้เกินกำลัง ถ้าไม่ยอมสามิภักดิ์เสียโดยดีเราตีหักเข้าไปได้จะฆ่าคนและสัตว์ในเมืองเสียให้สิ้นมิให้หลอเหลืออยู่ได้ อวนงันซิวได้ฟังก็โกรธ ขับม้าเข้าไปเอาง้าวฟันเอาเอียงซองเสียง เอาเอียงซองเสียงเอาทวนขึ้นรับรบกันได้สี่สิบเพลงเศษ เอาเอียงซองเสียงแรงน้อยทานกำลังอวนงันซิวไม่ได้ เสียทีอวนงันซิวเอาง้าวฟันถูกกลางตัวเอาเอียงซองเสียงขาดเป็นสองท่อนตาย อือหลุย เต็กหลุยขับม้าเข้ารบกับอวนงันซิวทหารเลวเข้าอุ้มเอาศพเอาเอียงซองเสียงกลับไปค่ายได้ อือหลุย เต็กหลุยรบอยู่ได้ประมาณสิบเอ็ดสิบสองเพลงก็ชักม้าล่าถอยกลับไปค่าย อวนงันซิวก็มิได้ไล่ติดตามไปเลิกทัพกลับเข้าเมือง อือหลุย เต็กหลุยกลับมาถึงค่าย ทำหีบใส่ศพเอาเอียงซองเสียงไปฝังไว้แล้วก็ตั้งใจรอคอยกองทัพใหญ่อยู่ ฝ่ายงูทองยกทัพหนุนมาถึงก็ให้ตั้งค่ายมั่นลงตรงค่ายกองทัพหน้า อือหลุย เต็กหลุย ไปแจ้งความกับงูทองว่า เอาเอียงซองเสียงออกรบต้องอาวุธอวนงันซิวตายเสียในกลางศึกแล้ว งูทองได้ฟังก็โกรธพวกฮวนนักว่า เราจะยกไปทำลายเมืองมกเอียงเสียเสียให้ราบแก้แค้นให้ได้ อือหลุย เต็กหลุยห้ามว่าท่านอย่าเพิ่งโกรธวู่วามไปก่อนเลย คอยท่างักหลุยแม่ทัพใหญ่ยกมาถึงแล้วจึงค่อยคิดอ่านต่อไป งูทองก็รอคอยงักหลุยแม่ทัพอยู่ ฝ่ายอวนงันซิวได้ชัยชนะกลับเข้าไปถึงเมืองแล้วก็คิดวิตกว่าเมืองเราเป็นหน้าด่านไพร่พลทหารก็น้อย กองทัพเมืองซ้องยกมาครั้งนี้มากนัก แต่ทัพหน้ามาถึงก็ยังมากกว่าคนในเมืองเราเสียแล้ว จำจะมีหนังสือบอกเข้าไปถึงลังจู๊ขอกองทัพมาช่วยโดยเร็วจึงจะรักษาเมืองไว้ได้ คิดแล้วก็ทำหนังสือบอกให้ม้ารบใช้ถือไป

ฝ่ายลังจู๊เจ้าเมืองไตกิมก๊ก ได้รับหนังสือแจ้งความว่ากองทัพซ้องยกเข้ามาถึงเมืองมกเอียงเสีย ก็ให้เชิญกิมงึดตุดผู้อามาปรึกษาว่า กองทัพซ้องยกมาตั้งประชิดเมืองมกเอียงเสีย อวนงันซิวขอกองทัพให้ยกไปช่วยโดยเร็ว ท่านจะคิดประการใดดี กิมงึดตุดว่าข้าพเจ้าพึ่งมาถึง ยังไม่ได้ตระเตรียมทแกล้วทหาร ขอท่านจงมีหนังสือไปถึงไซยือตัด แม่ทัพซึ่งตั้งรักษาอยู่ที่ด่านเอียวก๋วน ให้คุมทหารมาช่วยเมืองมกเอียงเสียก่อน ตัวข้าพเจ้าจะไปเชิญโอวเหลงเซียบ๊ออาจารย์ผู้วิเศษที่ตำบลเชยฮวยตัง เขาบวนกิมซัวนั้นมาพูดด้วย โอวเหลงเซียบ๊อเชี่ยวชาญในการวิชาต่าง ๆ มีทหารอยู่สามพันเรียกว่าฮือลันเปีย แปลว่าทหารเกล็ดปลาฝีมือเข้มแข็งอยู่คงกระพัน ถ้าโอวเหลงเซียบ๊อมาช่วยรบแล้ว ถึงทหารซ้องจะมาสักเท่าใด ๆ ก็คงพ่ายแพ้ไปสิ้นท่านอย่าวิตก ลังจู๊ได้ฟังก็ยินดีจึงทำหนังสือไปถึงไซยือตัดผู้รักษาด่านเอียวก๋วน ให้ยกกองทัพมาช่วยเมืองมกเอียงเสียโดยเร็ว ให้ทหารรีบถือไป กิมงึดตุดก็ลาลังจู๊มาจัดบ่าวไพร่พอสมควร ออกเดินไปหาโอวเหลงเซียบ๊อ ณ เขาบวนกิมซัว

ฝ่ายไซยือตัดผู้รักษาด่านเอียวก๋วน ได้รับหนังสือของลังจู๊แจ้งความแล้วก็ตระเตรียมทหารและเครื่องศัสตราวุธพานางไซฮุนเชียม้วยบุตรสาวมาขึ้นม้าคุมทหารออกจากด่านเอียวก๋วน เดินกองทัพมาหลายวันถึงเมืองมกเอียงเสีย อวนงันซิวแจ้งว่าลังจู๊ให้ไซฮือตัดยกกองทัพมาช่วย ก็ออกมารับเชิญเข้าไปในเมืองจัดที่ให้กองทัพพักอยู่พร้อมมูลแล้ว ก็พูดจาปรึกษากันที่จะสู้รบกับกองทัพซ้อง

ฝ่ายงักหลุยยกกองทัพมาถึงเมืองมกเอียงเสีย ก็สั่งให้ทหารตั้งค่ายลงต่อค่ายทัพหน้ามา งูทอง อือหลุย เต็กหลุยเข้าไปหา แจ้งความซึ่งเอาเอียงซองเสียงออกรบกับอวนงันซิวเสียทีตายในที่รบ งักหลุยได้แจ้งก็มีความอาลัยถึงเอาเอียงซองเสียงเป็นอันมาก ครั้นทหารที่เลื่อยล้ามาถึงพร้อมมูลกันแล้ว งักหลุยแม่ทัพก็สั่งให้งักเข่งผู้น้องคุมทหารไปชวนชาวเมืองออกรบ งักเข่งยกทหารตรงไปถึงหน้าเมือง ทหารซึ่งรักษาหน้าที่เห็นก็ไปแจ้งความแก่อวนงันซิวกับไซยือตัด ว่ามีทหารซ้องยกมาท้าทายชวนรบอยู่หน้าเมือง ไชยือตัดพูดกับอวนงันซิวว่าข้าพเจ้าจะขอออกไปสู้รบเอง ไซยือตัดพูดแล้วก็มาแต่งตัวขึ้นม้าคุมทหารออกจากเมืองไป งักเข่งเห็นนายทหารฮวนยกออกมาก็ขับม้าเข้าไปใกล้ร้องว่า นายทหารคนนี้ชื่อไรจึงได้อาจสามารถออกมาจะรบกับเรา ไซฮือตัดว่าตัวเจ้าเด็กเท่านี้มาดูถูกประมาทผู้ใหญ่ยกล่วงเขตแดนเข้ามา เราจะตัดศีรษะเสียเสียให้สิ้นทั้งทัพ ตัวเรานี้เป็นนายทหารแม่ทัพใหญ่ในเมืองไตกิมก๊ก ชื่อไซยือตัด ตัวเจ้าชื่อไรเร่งบอกมาโดยเร็ว งักเข่งว่าเราเป็นบุตรที่สามของบูเชียงก๋ง ชื่องักเข่ง ถือทวนมาวันนี้จะฆ่าพวกฮวนเอาความชอบให้แม่ทัพจดบัญชีไว้ ไซยือตัดได้ฟังก็โกรธขับม้ารำง้าวเข้ารบกับงักเข่งได้สามสิบเพลง ไชยือตัดมีกำลังมากก็จริง แต่ฝีมือเพลงอาวุธไม่คล่องแคล่วเหมือนงักเข่งก็เสียทีพลาดท่า งักเข่งเอาทวนแทงถูกไหล่ตลอดไปข้างหลังไซยือตัดตกม้าตาย งักเข่งตรงเข้าตัดเอาศีรษะมาได้ ทหารซ้องบุกรุกเข้าฆ่าฟันพวกฮวนตาย พวกที่เหลือแตกหนีกลับเข้าเมือง อวนงันซิวกับนายทหารทั้งสองยืนดูอยู่บนหอรบเห็นไซยือตัดตาย ทหารซ้องไล่ล่วงเข้ามา ก็ให้ปิดประตูเมืองรักษาหน้าที่เชิงเทินไว้มั่นคง งักเข่งได้ชัยชนะแล้วก็พาทหารกลับมาค่ายแจ้งความแก่งักหลุย งักหลุยได้จดบัญชีความชอบงักเข่งไว้

ฝ่ายอวนงันซิวครั้นทหารซ้องกลับไปแล้ว ก็ให้ไปเอาศพไซยือตัดเข้ามาในเมืองไม่เห็นมีศีรษะ สั่งให้ช่างทำศีรษะต่อแล้วจัดหีบใส่ศพไว้ นางไซฮุนเชียม้วยเห็นบิดาตายก็ร้องไห้เศร้าโศกเป็นอันมาก นุ่งขาวจัดการฝังศพบิดาตามยศนายทหารใหญ่แม่ทัพเมืองฮวนเสร็จแล้ว นางไซฮุนเชียม้วยคิดแค้นทหารพวกซ้องยิ่งนักจึงพูดกับอวนงันซิวว่า ข้าพเจ้าจะลาออกไปรบแก้แค้นแทนคุณบิดาให้จงได้ อวนงันซิวก็ยอมให้ไป นางไซฮุนเชียม้วยแต่งตัวขึ้นม้าคุมทหารออกจากเมืองตรงไปถึงหน้าค่ายงักหลุย ร้องด้วยเสียงอันดังว่าให้ส่งตัวงักเข่งออกมา เราจะฆ่าแก้แค้นแทนบิดาเสียเดี๋ยวนี้ งักเข่งได้ยินก็โกรธ พูดกับงักหลุยแม่ทัพว่าหญิงฮวนมาท้าทายกล่าวหยาบช้า ข้าพเจ้าจะขอออกไปสู้รบเอง งักเข่งก็ถือทวนขึ้นม้าออกไปจากค่าย งักหลุยคิดวิตกว่าหญิงและหลวงจีนเป็นทหารออกมารบ คงจะมีวิชามาแน่ หารบซึ่งหน้าด้วยกำลังฝีมือเหมือนทหารผู้ชายไม่ จึงสั่งฮวนเสง เงาเหลียนให้คุมทหารตามออกไป

ฝ่ายนางไซฮุนเชียม้วย เห็นงักเข่งออกมาก็ขับม้าเข้ารบกับงักเข่งได้เจ็ดเพลง นางไซฮุนเชียม้วยทานกำลังงักเข่งไม่ได้ จึงคิดว่างักเข่งคนนี้มีกำลังแข็งแรงนัก จะต้องฆ่าด้วยของวิเศษจึงจะได้ คิดแล้วก็ชักม้าถอยห่างออกไป งักเข่งไล่ตามใกล้จะทัน นางไซฮุนเชียม้วยหยิบเอาอิมถันของวิเศษเม็ดกำขว้างไป อิมถันสำแดงฤทธิ์เป็นควันมืดคลุ้มตรงไปถูกงักเข่งตกม้าลงสลบอยู่กับที่ นางไซฮุนเชียม้วยขับม้ามาชักกระบี่ออกจะตัดศีรษะงักเข่ง พอฮวนเสงขับม้ารบสกัดกั้นไว้ทหารเข้าพยุงอุ้มงักเข่งกลับมาค่าย นางไซฮุนเชียม้วยรบอยู่กับฮวนเสงก็ทำล่าถอยหนี ฮวนเสงไล่ตามไปนางไซฮุนเชียม้วยเอาอิมถันของวิเศษออกขว้างไปเป็นควันมืดคลุ้มตรงไปถูกฮวนเสงตกม้าสลบอยู่ นางไซฮุนเชียม้วยขับม้าจะเข้าไปซ้ำ พอเงาเหลียนขับม้าเข้าสกัดกั้นรบไว้ นางไซฮุนเชียม้วยรบกับเงาเหลียนได้หลายเพลง เห็นรูปร่างเงาเหลียนงดงามก็ชอบใจ จึงคิดว่าตั้งแต่เรารุ่นสาวมาจนถึงอายุสิบหกปีไม่เห็นผู้ใดมีรูปร่างงามเหมือนเช่นนี้เลย จำจะจับเอาตัวไปเกลี้ยกล่อมเอาเป็นผัวให้ได้ คิดแล้วนางไซฮุนเชียม้วยก็ขับม้าถอยล่อให้เงาเหลียนไล่ตามไป แล้วหยิบเอาเอียงถันของวิเศษสีแดงขึ้นชูร้องว่า ท่านนายทหารจงดูของวิเศษของเรานี้ พูดแล้วก็ขว้างเอียงถันไป บันดาลให้เป็นมังกรลอยมาบนอากาศตรงเข้ารัดเอาเงาเหลียนไว้ นางไซฮุนเชียม้วยก็ขับม้าเข้ามาจับเอาเงาเหลียนขึ้นหลังม้า ให้ทหารคุมกลับไปค่าย ทหารพวกซ้องเห็นเขาจับเอาตัวเงาเหลียนไปได้ จะเข้าแก้ชิงเอาก็ไม่ทันช่วยกันอุ้มพยุงฮวนเสงกลับมาค่าย งักหลุยแม่ทัพเห็นงักเข่ง ฮวนเสง ถูกของวิเศษสิ้นสติสลบให้หมอรักษาพยาบาลก็ไม่ฟื้น งักหลุยมีความวิตกเป็นทุกข์ยิ่งนัก

ฝ่ายนางไซฮุนเชียม้วยเอาตัวเงาเหลียนไปค่าย ก็สั่งให้ทหารคอยระวังรักษาไว้โดยดีมิให้เงาเหลียนได้รับความลำบาก แล้วให้สาวใช้คนสนิทไปพูดจาเกลี้ยกล่อมจะเอาเงาเหลียนเป็นสามีถ้าไม่ยอมก็จะฆ่าเสีย สาวใช้ไปพูดกับเงาเหลียนแต่แรก เงาเหลียนก็ดื้อดึงไม่ยอม ครั้นสาวใช้พูดเกลี้ยกล่อมไปอีกเงาเหลียนจึงว่าถ้าจะให้เรายอมก็ต้องเชื่อฟังถ้อยคำเรา มีความอยู่ข้อหนึ่งด้วยเอาเอียงซองเสียงกับเราไปสาบานกันไว้ว่าจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน บัดนี้อวนงันซิวฆ่าเอาเอียงซองเสียงซึ่งเป็นเพื่อนร่วมสาบานของเราตาย ถ้าได้ฆ่าอวนงันซิวแก้แค้นแทนเอาเอียงซองเสียงแล้วเราจะตามคำทุกอย่าง ถ้าไม่ได้แก้แค้นแทนเอาเอียงซองเสียงแล้วเราก็จะสู้ตายเสียไม่ยอมเลย จงเอาความอันนี้ไปแจ้งกับนายท่านเถิด สาวใช้กลับมาบอกนางไซฮุนเชียม้วยตามคำเงาเหลียนพูดทุกประการ นางไซฮุนเชียม้วยกำลังกำเริบรัก คิดว่าครั้นจะไม่ฆ่าอวนงันซิวเสีย เงาเหลียนก็จะไม่ยอม ถ้าเงาเหลียนตายก็เสียดายรูปร่างนัก นางนั่งคิดตรึกตรองอยู่พอคนใช้ของอวนงันซิวมาบอกว่า ให้นางไซฮุนเชียม้วยส่งทหารซ้องซึ่งจับมาได้นั้นไปให้อวนงันซิวจะฆ่าเสีย นางไซฮุนเชียม้วยได้ฟังจึงพูดกับคนใช้ว่า ท่านจงกลับไปบอกอวนงันซิวว่างักเข่งฆ่าบิดาของเราตายยังไม่ได้แก้แค้น จะเอาตัวนายทหารคนนี้ไว้ก่อน ถ้าจับงักเข่งมาได้แล้วจึงจะฆ่าเสียให้พร้อมกัน ทหารนั้นกลับเอาความไปบอกอวนงันซิว อวนงันซิวได้ฟังก็โกรธ จึงพูดว่าผู้หญิงคนนี้ออกไปสู้รบมีชัยชนะมาครั้งหนึ่งก็ดูถูกเราเสียแล้ว เวลาพรุ่งนี้เราจะยกออกไปจับมาสักสองสามคน ครั้นรุ่งเช้าอวนงันซิวกับนายทหารทั้งสอง เซกกวางโจว เซกกีโจว ก็แต่งตัวขึ้นม้าแล้วให้ทหารขึ้นไปบอกกับนางไซฮุนเชียม้วย ว่าเราจะไปจับทหารซ้องมาสักสองสามคน ให้นางไซฮุนเชียม้วยตามออกไปดู สั่งแล้วก็คุมทหารออกจากเมือง ทหารก็ไปแจ้งแก่นางไซฮุนเชียม้วย นางไซฮุนเชียม้วยก็จัดทหารของตัวตามออกมายืนดูอยู่ที่คูเมือง อวนงันซิวยกออกไปถึงหน้าด่านท้าชวนรบ ทหารหน้าค่ายเห็นก็เข้าไปบอกงักหลุย แม่ทัพงักหลุยสั่งให้เล็กบุนเหลงคุมทหารออกรบ เล็กบุนเหลงก็คุมทหารออกจากค่ายขับม้าตรงเข้ารบกับอวนงันซิวได้ห้าสิบเพลง เล็กบุนเหลงฝีมือเพลงอาวุธคล่องแคล่ว อวนงันซิวกำลังมากก็จริงแต่ไม่สู้ชำนาญเพลงอาวุธป้องปัดรับรองไม่ใคร่ทัน จึงร้องเรียกให้นางไซฮุนเชียม้วยช่วย นางไซฮุนเชียม้วยได้ยินก็นิ่งเฉยเสียไม่ออกช่วย อวนงันซิวขับม้าหนีจะเข้าเมือง เล็กบุนเหลงขับม้าไล่ตามไปทัน ก็เอาทวนแทงถูกอวนงันซิวตกม้าตายที่ริมคูเมือง เซกกวางโจว เชกกีโจว ก็ขับม้าเข้ารบกับเล็กบุนเหลงได้หลายเพลง ต้านทานฝีมือเล็กบุนเหลงไม่ได้ขับม้าหนีจะเข้าเมือง นางไซอุนเชียม้วยให้ทหารชักสะพานข้ามคูเสีย เซกกวางโจว เซกกีโจว ขับม้าหนีมาด้วยกำลังแรงไม่ทันรู้ว่าชักสะพานเสียแล้ว เลยยั้งตัวไม่ทันขับม้าตกสะพานลงไปม้าทับตายเสียทั้งสองคน ทหารฮวนซึ่งอวนงันซิวคุมออกไปรบตายด้วยฝีมือข้าศึกบ้าง วิ่งหนีจะเข้าเมืองตกสะพานตายบ้าง เล็กบุนเหลงเข้ามาจนถึงคูเมืองเห็นข้ามไปไม่ได้แล้วก็กลับมาค่าย แจ้งความให้กับงักหลุยแม่ทัพฟังทุกประการ งักหลุยมีความยินดีให้จดบัญชีความชอบเล็กบุนเหลงไว้ แล้วสั่งให้ทหารเอาตัวพวกเชลยที่จับได้มาถามถึงเงาเหลียนก็ไม่ได้ความ

ฝ่ายนางไซฮุนเชียม้วย ครั้นนายทหารซ้องกลับไปแล้ว ก็พาทหารของตัวกลับมาที่อยู่

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ