๗๗

ฝ่ายทหารฮวนคอยเหตุได้เห็นหลวงฮวนโพฮองเสียทีแก่ข้าศึกหนีหายสาบสูญไปแล้ว ก็เอาความไปแจ้งแก่กิมงึดตุด กิมงึดตุดเสียใจยิ่งนัก จึงพูดว่าหลวงฮวนโพฮององค์นี้เธอก็มีวิชาความรู้วิเศษต่าง ๆ พวกกองทัพงักหลุยก็คิดแก้ได้ เราจะทำศึกสงครามขับเคี่ยวกันไปอีกไพร่พลก็น้อยตัวลงแล้ว จำจะมีหนังสือบอกข้อราชการไปให้ลังจู๊ขอไพร่พลและนายทหารที่มีฝีมือกล้าแข็งมาช่วยอีก คิดแล้วก็ทำหนังสือให้ม้าใช้รีบไปเมืองไตกิมก๊กโดยเร็ว

ฝ่ายงักหลุยแก้ของวิเศษได้ชัยชนะแก่หลวงฮวนโพฮองแล้วก็มีความยินดี ปรึกษากับจูกัดกิมว่า กิมงึดตุดยกกองทัพมาครั้งนี้ไพร่พลถึงห้าสิบหมื่นเศษ นายทหารฮวนที่มีฝีมือเข้มแข็งพวกเราก็ฆ่าตายเสียหลายคน หลวงฮวนที่มีวิชาเราก็ทำลายล้างเอาชัยชนะได้ เห็นกิมงึดตุดจะย่อท้อเสียใจอยู่แล้ว เราจะรีบยกกองทัพตีหักหาญเอาชัยชนะเสียให้ได้ในขณะนี้ ท่านจะเป็นประการใด จูกัดกิมว่าท่านคิดชอบแล้ว ขอจงจัดทหารให้เป็นกระบวนยกหนุนเนื่องกันเข้าไปก็คงจะได้ชัยชนะแก่กิมงึดตุด งักหลุยจึงสั่งให้ประชุมนายทหารมาพร้อมกันแล้ว จึงจัดให้กวนเหลง งูทองคุมทหารสามพันเป็นทัพหน้าที่หนึ่ง ให้เล็กบุนเหลง ฮวนเสงคุมทหารสามพันเป็นทัพที่สอง ให้งูเกา กิดแช เลียงเฮง เตียหุน จิวแช ห้านายคุมทหารสามพันเป็นทัพที่สาม ให้กิดเซงเหลียง เต็กหลุยสองนายคุมทหารเป็นปีกซ้าย ให้เงียมเซงฮอง เงาเหลียนคุมทหารเป็นปีกขวา งักหลุยแม่ทัพคุมทหารเอกทหารเลวเป็นกองกลาง ครั้นจัดกระบวนครบถ้วนแล้วรุ่งขึ้นเวลาเช้าก็ยกตรงไปค่ายกิมงึดตุด

ฝ่ายม้าใช้คอยเหตุเห็นกองทัพยกมา ก็เข้าไปแจ้งความแก่กิมงึดตุดว่า งักหลุยยกกองทัพหนุนเนื่องกันมาเป็นอันมาก กิมงึดตุดได้ฟังก็สั่งให้ทหารจัดแจงเตรียมตัวพร้อมกันออกตั้งหน้ากระดานรับอยู่นอกค่าย พอกองทัพเข้ามาปะทะสู้รบฟันแทงกันตะลุมบอนทหารฮวนมากกว่าก็จริง แต่เคยเสียทีกลัวทหารพวกบูเชียงก๋งมาแต่ก่อนก็รวนเรมิได้คิดสู้รบแข็งแรง ทหารซ้องฆ่าพวกฮวนล้มตายลงเป็นอันมาก กิมงึดตุดเห็นจะเสียทีก็ท้อใจจะถอยกลับเข้าค่าย ทหารซ้องก็รบรุกหนักเข้าไปยั้งตัวไม่ทันค่ายก็แตก กิมงึดตุดทิ้งค่ายพาทหารหนี กองทัพงักหลุยก็ไล่ติดตามไปจนถึงแดนต่อแดนก็ตั้งค่ายพักทหารอยู่ กิมงึดตุดแตกหนีไปเข้าไปในแดนฮวนแล้วไม่เห็นกองทัพงักหลุยติดตามมาก็ให้ตั้งค่ายพักรวบรวมทหาร นับตรวจได้แค่สิบหมื่น ตายเสียในกลางศึกบ้างหนีไปบ้างประมาณสี่สิบหมื่น จึงพูดกับคับมิชีว่า เราทำศึกมาแต่ก่อนได้สู้รบใหญ่ ๆ ก็หลายครั้ง ทหารหาอ้อแอ้อ่อนแอเหมือนครั้งนี้ไม่ ครั้งนี้ช่างกระไรพอเห็นข้าศึกยกมา ทหารฝ่ายเราก็คิดแต่จะหนีไม่แข็งแรงเลย เหมือนกับวัวเห็นเสือ จะต้องคิดกลับไปเมืองไตกิมก๊กจัดหาทหารฝึกหัดเสียใหม่จึงค่อยคิดมาแก้แค้น คับมิชีว่าท่านคิดนี้ถูกต้องแล้ว ถ้าขืนอยู่ไปก็คงจะยับเยิน กิมงึดตุดตั้งพักรวบรวมทหารมาหมดแล้วก็ออกเดินกองทัพกลับไปเมือง ฝ่ายม้าใช้ถือหนังสือของกิมงึดตุดไปถึงเมืองไตกิมก๊กก็เอาหนังสือไปส่งให้ลังจู๊เจ้าเมือง ลังจู๊เปิดผนึกออกดูแจ้งความว่าหลวงฮวนโพฮองใช้วิชาเสียทีแก่แผ่นดินซ้อง ก็มีความวิตกไม่สบาย คิดว่าหลวงฮวนโพฮองนี้เธอก็มีวิชาเชี่ยวชาญสามารถนัก ยังเอาชัยชนะทหารกองทัพแผ่นดินซ้องไม่ได้ ทุกวันนี้ในเมืองเราผู้ที่มีสติปัญญาฝีมือเข้มแข็งก็น้อยตัวไม่เหมือนแต่ก่อน ยังไม่เห็นว่าจะให้ผู้ใดไปช่วยกิมงึดตุดได้ จึงสั่งให้หาขุนนางนายทหารมาประชุมพร้อมกัน ปรึกษาว่ากิมงึดตุดอาเรายกกองทัพไปตีเมืองนิ่มอันก็ยังไม่ได้ท่วงทีติดพันกันอยู่ ท่านผู้ใดจะอาสาไปช่วยได้บ้าง ซัวไซต๋อกับเลียนยี่ซินเสียงขุนนางนายทหารลุกขึ้นคุกเข่าคำนับพูดว่า ข้าพเจ้าทั้งสองจะขอรับอาสายกกองทัพไปช่วยเอง ลังจู๊ได้ฟังก็ยินดีตั้งให้ซัวไซต๋อเป็นแม่ทัพให้เลียนยี่ซินเสียงเป็นที่จงเปียะนายทหารใหญ่คุมไพร่พลห้าพันยกไปโดยเร็ว ซัวไซต๋อ เลียนยี่ซินเสียงรับที่ตั้งคำนับลามาจัดทหารพร้อมไปด้วยเครื่องศัสตราวุธ ยกกองทัพออกจากเมืองไตกิมก๊กไป

ฝ่ายกิมงึดตุดกับขุนนางนายทหารซึ่งเสียทัพเดินทางมาหลายวันถึงเขาไกซัวในแดนเมืองไตกิมก๊ก เห็นกองทัพยกสวนทางมาไม่รู้ว่าผู้ใดก็ใช้ให้ทหารไปถาม ได้ความกลับมาแจ้งว่าลังจู๊เจ้าเมืองไตกิมก๊กตั้งให้ซัวไซต๋อเป็นแม่ทัพเลียนยี่ซินเสียงเป็นนายทหารใหญ่คุมไพร่พลห้าพันยกมาร่วมท่าน กิมงึดตุดได้ฟังก็สั่งให้ทหารหยุดตั้งพัก ซัวไซต๋อกับเลียนยี่ซินเสียงก็เข้าไปหาคำนับกิมงึดตุด แล้วแจ้งความว่าเมื่อท่านมีหนังสือบอกเข้าไปว่าหลวงฮวนโพฮองเสียทีแก่ข้าศึก ลังจู๊มีความวิตกนัก ให้ข้าพเจ้าทั้งสองคุมทหารห้าพันรีบมาช่วยท่านโดยเร็ว ซึ่งท่านยกกองทัพกลับมาเสียนี้ด้วยเหตุผลประการใด กิมงึดตุดว่าเรายกไปตั้งอยู่ที่ตำบลจูเซียนติ้นได้สู้รบกับงักหลุยทหารแผ่นดินซ้องหลายครั้ง เสียนายทหารเอกและไพร่พลเป็นอันมาก ทั้งเสบียงอาหารก็ขัดสน จึงได้เลิกกองทัพกลับมาหมายจะไปเกณฑ์รวบรวมทหารให้ได้มากแล้ว จึงจะยกกลับไปสู้รบอีก ซัวไซต๋อว่าข้าพเจ้ารับอาสาเจ้าเมืองไตกิมก๊ก ยกมาครั้งนี้ก็หมายจะจับงักหลุยและนายทหารฆ่าเสียให้สิ้น กิมงึดตุดจึงว่าดีแล้วทหารซึ่งเรามานี้ก็จะมอบให้ท่าน แต่ตัวเราจะต้องกลับเข้าไปเมืองไตกิมก๊กกะเกณฑ์รวบรวมผู้คนได้พอใช้แล้วจึงจะยกตามไป บัดนี้กองทัพงักหลุยก็ยกตามมาเกือบจะถึงที่เขาตำบลนี้แล้ว ท่านจงดูที่ชัยภูมิตั้งค่ายคอยสู้รบกองทัพงักหลุยอยู่ที่นี้เถิด พูดแล้วกิมงึดตุดก็มอบไพร่พลในกองทัพให้ซัวไซต๋อแม่ทัพเสร็จแล้ว ตัวกิมงึดตุดกับคับมิชีก็พาบ่าวไพร่กลับไปเมืองไตกิมก๊ก ซัวไซต๋อได้รับทหารแล้วก็สั่งให้ตั้งค่ายมั่นอยู่ริมเขาไกซัวคอยท่ากองทัพงักหลุย

ฝ่ายงักหลุยแม่ทัพหยุดพักกองทัพ คอยเสบียงอาหารมาถึงพร้อมแล้วจึงให้หานายทหารมาประชุมพร้อมกัน ปรึกษาว่ากิมงึดตุดเสียทัพยับเยินไพร่พลทหารก็เบาบางแล้ว เราจะรีบยกกองทัพตีเข้าไปให้ถึงเมืองไตกิมก๊ก รับสองกษัตริย์กลับมาเมืองให้ได้ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใด นายทหารจึงพูดว่าเมื่อบิดาท่านเป็นแม่ทัพยกมากับฮั่นซีตงถึงที่ตำบลนี้ พอชีนไคว่มีหนังสือแอบอ้างรับสั่งมาให้หากลับไปก็พากันเสียใจทั้งกองทัพ ซึ่งท่านจะยกเข้าไปตีเมืองไตกิมก๊กนั้นชอบแล้ว สมประสงค์เหมือนบิดาท่านคิดไว้แต่ก่อน งักหลุยเห็นนายทหารยอมพร้อมกันก็สั่งให้เดินกองทัพล่วงเขตแดนฮวงเข้าไปถึงเขาไกซัว ทหารม้าใช้กองสอดแนมมาแจ้งว่ากองทัพฮวนตั้งค่ายอยู่ริมเขาไกซัวหลายค่าย งักหลุยสั่งให้จูกัดกิมดูที่ชัยภูมิตั้งค่ายมั่นลงไว้ที่นั้น

ฝ่ายซัวไซต๋อแม่ทัพฮวน แจ้งว่ากองทัพทหารแผ่นดินซ้องยกมาถึงก็แต่งตัวขึ้นมาถืออาวุธ คุมทหารยกออกจากค่ายตรงไปท้าชวนทหารซ้องออกรบ งักหลุยแจ้งว่ามีนายทหารฮวนมาชวนรบจึงถามนายทหารทั้งปวงว่า ผู้ใดจะอาสาไปรบกับนายทหารฮวนได้บ้าง กวนเหลงว่าข้าพเจ้าจะอาสาออกไปเอง งักหลุยก็สั่งให้จัดทหารสามพันมอบให้กวนเหลงยกออกไป กวนเหลงออกไปถึงหน้าทัพพวกฮวน เห็นนายทหารรูปร่างสูงใหญ่หน้าพิกลไม่เหมือนพวกฮวนทั้งหลาย จึงร้องถามไปด้วยเสียงอันดังว่านายทหารผู้นี้ชื่อไรจึงได้บังอาจมากันกองทัพใหญ่ไว้ ถ้ากลัวความตายก็จงหลีกไปเสียโดยเร็ว ซัวไซต๋อตอบว่าตัวเราชื่อซัวไซต๋อเจ้าเมืองไตกิมก๊กตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่จะยกไปตีเมืองนิ่มอัน ด้วยกษัตริย์วงศ์ซ้องเจ้านายของท่านโง่เขลานัก ขุนนางผู้ใหญ่ก็ล้วนแต่เป็นคนโกงทั้งสิ้น เห็นว่าราษฎรไพร่พลเมืองได้ความเดือดร้อน จึงคิดจะตีเอาเมืองนิ่มอันทำลายล้างวงศ์ซ้องเสียให้สิ้น จะให้กิมงึดตุดบุตรเจ้าเมืองไตกิมก๊กไปครอบครองทำนุบำรุงต่อไป ตัวเจ้านี้กับงักหลุยแม่ทัพเป็นเด็กหนุ่มไม่รู้อะไร มาละเมอทำศึกสงครามสู้รบกับพวกเราก็จะต้องติดคุกตายเหมือนบูเชียงก๋งดอกกระมัง กวนเหลงได้ฟังดังนั้นก็โกรธตอบว่า งักหลุยกับตัวเราเป็นเด็กหนุ่มก็จริง แต่ตัดศีรษะผู้ใหญ่พวกฮวนเสียหนักหนาเหลือที่จะนับประมาณได้ ซัวไซต๋อได้ฟังก็โกรธขับม้าเข้ารบกับกวนเหลงได้ประมาณสิบเพลง กวนเหลงเห็นฝีมือซัวไซต๋อเข้มแข็งเรี่ยวแรงนักก็ขับม้าหนี ซัวไซต่อไล่ฆ่าฟันทหารพวกกวนเหลงตายประมาณพันเศษแล้วก็เลิกทัพกลับไปค่าย กวนเหลงหนีกลับมาถึงค่ายเข้าไปแจ้งความแก่งักหลุยว่า ซัวไซต๋อนายทหารฮวนคนนี้มีกำลังเรี่ยวแรงนักเหลือที่จะต้านทาน งักหลุยได้ฟังก็คิดตรึกตรองว่าซัวไซต๋อรบได้ชัยชนะกวนเหลงไปวันนี้ คงจะกำเริบคิดมาปล้นค่ายเราในเวลาค่ำวันนี้เป็นแน่ จำจะต้องทำอุบายไว้สู้รบเอาชัยชนะให้ได้ จึงสั่งให้ถอยทัพไปตั้งค่ายห่างค่ายเก่าประมาณสิบลี้ สั่งให้กวนเหลงกับเงียมเชงฮองคุมทหารนายละสามพันยกไปซุ่มอยู่ริมค่ายเก่าทั้งข้างซ้ายข้างขวา ให้เล็กบุนเหลงคุมทหารสามพันไปซุ่มอยู่ที่ต้นทางริมเขาไกซัว ให้คอยฟังเสียงประทัดสัญญาณเป็นสำคัญ นายทหารทั้งสามคำนับลามาคัดทหารพร้อมเสร็จ ครั้นเวลาค่ำก็ยกแยกย้ายกันไปตามแม่ทัพสั่ง

ฝ่ายซัวไซต๋อได้ชัยชนะกลับไปถึงค่าย เลียนยี่ซินเสียงก็ออกมารับซัวไซต๋อเข้าไปนั่งในที่ว่าราชการแล้ว ซัวไซต๋อเอาความที่ได้สู้รบมีชัยชนะแก่นายทหารซ้องเล่าให้พวกทหารของตัวเหล่านั้นฟัง เลียนยี่ซินเสียงจึงพูดว่า เวลาวันนี้ท่านก็มีชัยชนะแล้ว ถ้าเวลาค่ำท่านกับข้าพเจ้าคุมทหารไปตีหักซ้ำเติมเอาค่ายงักหลุย ก็คงจะได้สมความปรารถนา ซัวไซต๋อว่าทหารพวกแผ่นดินซ้องเขาก็มีสติปัญญามากอยู่อย่าประมาท กิมงึดตุดยกกองทัพไปครั้งไรถูกกลอุบายทุกครั้ง เราคิดจะให้ฮองหนิม ฮองฮก คุมทหารพันหนึ่งยกไปทำทีจะปล้นค่าย แล้วให้จุดประทัดสัญญาณขึ้นถอยกลับออกมา ทหารพวกแผ่นดินซ้องก็จะสำคัญว่าพวกเราไปปล้นค่าย คงจะคุมทหารไล่ตามมา เรากับท่านจึงคุมทหารแยกกันเข้าไปทั้งซ้ายขวา ตีหักเข้าไปเอาค่ายก็จะมิดีกว่าไปปล้นค่ายตรง ๆ หรือ เลียนยี่ซินเสียงได้ฟังก็เห็นชอบ ครั้นปรึกษากันแล้วเวลาค่ำดึกประมาณสองยามเศษซัวไซต๋อก็ให้อองหนิม ฮองฮก คุมทหารพันหนึ่งยกไปปล้นค่าย ซัวไซต๋อแม่ทัพกับเลียนยี่ซินเสียง คุมทหารยกแยกกันไป ฮองหนิม ฮองฮกพาทหารพันหนึ่งไปถึงค่ายงักหลุย เห็นเงียบสงัดคิดว่าคนนอนหลับ ก็จุดประทัดสัญญาณขึ้นแล้วถอยกลับออกมา เล็กบุนเหลงซึ่งซุ่มอยู่ต้นทางเห็นทหารฮวนยกล่วงเข้าไปแล้วก็จุดประทัดสัญญาณขึ้น กวนเหลง เงียมเชงฮองได้ยินเสียงประทัดสังเกตจำได้ว่าพวกของตัวจุด ก็คุมทหารออกมาทั้งสองข้างทาง

ฝ่ายซัวไซต๋อกับเลียนยี่ซินเสียงได้ยินประทัดสัญญาณครั้งแรกก็สังเกตจำได้ว่าพวกตัวจุดขึ้น ก็คุมทหารยกขนาบเข้าไปคนละทาง พอได้ยินเสียงประทัดจุดขึ้นอีกผิดสังเกตก็สะดุ้งใจ พอกวนเหลง เงียมเชงฮอง คุมทหารยกออกมาจากข้างทางไล่ฆ่าฟันทหารพวกซัวไซต๋อกับเลียนยี่ซินเสียง เลียนยี่ซินเสียงก็เข้ารบเป็นสามารถ เล็กบุนเหลงยกทหารออกสกัดทางรุกเข้ามาล้อมไว้ ทหารกวนเหลง เงียมเชงฮอง เล็กบุนเหลง สามพวกก็เข้าไล่ฆ่าฟันทหารฮวนล้มตายลงเป็นอันมาก ซัวไซต๋อ เลียนยี่ซินเสียงเห็นเสียทีก็ขับม้าหนีกลับมาค่าย ตรวจดูทหารของตัวที่ยกไปตายเสียประมาณพันเศษ ซัวไซต๋อจึงพูดว่าเราได้ว่าแล้วแต่ก่อนว่าพวกทหารแผ่นดินซ้องเจ้าอุบายเล่ห์กลนัก ถ้าจะรบกันก็ตรง ๆ ซึ่งหน้าดีกว่าใช้กลอุบาย พรุ่งนี้เราจะยกออกไปรบดูให้สิ้นฝีมือ

ฝ่ายกวนเหลง เงียมเชงฮอง เล็กบุนเหลง มีชัยชนะแก่พวกฮวนเก็บเครื่องศัสตราวุธได้เป็นอันมาก ก็กลับไปค่ายแจ้งความแก่งักหลุยแม่ทัพ งักหลุยมีความยินดีด้วยว่ากะการณ์ได้สมคาดหมาย

ฝ่ายเลียนยี่ซินเสียง ครั้นเวลารุ่งเช้าก็เข้าไปพูดกับซัวไซต๋อว่า วันนี้ข้าพเจ้าจะขอคุมทหารออกไปรบแก้แค้นข้าศึกเอง ซัวไซต๋อจัดทหารสามพันให้เลียนยี่เซงเสียงยกไปถึงหน้าค่ายงักหลุย ร้องท้าชวนรบทหาร กองคอยเหตุเห็นพวกฮวนยกกองทัพมาก็เข้าไปแจ้งแก่งักหลุยแม่ทัพ งักหลุยถามขุนนางนายทหารว่าผู้ใดจะอาสาออกไปสู้รบครั้งนี้ เงียมเชงฮองรับอาสาว่าข้าพเจ้าจะออกไปสู้ลองดูฝีมือข้าศึกเอง งักหลุยสั่งให้จัดทหารสามพันมอบให้เงียมเชงฮอง เงียมเชงฮองก็ลายกทหารออกจากค่าย เห็นนายทหารฮวนยืนม้าอยู่กับขับม้าเข้าไปใกล้ร้องถามว่า นายทหารฮวนคนนี้ชื่อไร เลียนยี่ซินเสียงตอบว่า ตัวเราชื่อเลียนยี่ซินเสียงเป็นนายทหารเอกอยู่ในเมืองไตกิมก๊กยกมาจะฆ่าพวกทหารซ้องเสียให้สิ้น เงียมเชงฮองได้ฟังก็โกรธ ขับม้าเข้ารบกับเลียนยี่ซินเสียงได้สี่สิบเพลงเห็นกำลังเลียนยี่ซินเสียงเข้มแข็งนัก จะสู้รบขับเคี่ยวไปไม่ได้ก็ขับม้าหนี เลียนยี่ซินเสียงขับม้าไล่ตามไป

ฝ่ายตังเอียวจงกับเฮงปิวมาจากเขาเกาเลงซัว ถึงค่ายจูเซียนติ้น แจ้งว่างักหลุยแม่ทัพได้ชัยชนะแก่พวกฮวนยกตามกิมงึดตุดไป ตังเอียวจงกับเฮงปิวก็ตามกองทัพงักหลุยมาใกล้จะถึงค่ายเขาไกชัว พอเงียมเชงฮองขับม้าหนีมาถึงนั่น ตังเอียวจง เฮงปิว ร้องถามว่าขับม้ามานี้ลนลานโดยเร็วด้วยเหตุสิ่งใดหรือ เงียมเชงฮองบอกว่าเราเป็นทหารของงักหลุยออกสู้รบกับนายทหารฮวนเสียทีจึงได้หนีมา ตังเอียวจง เฮงปิว จึงร้องว่าข้าพเจ้าทั้งสองก็เป็นพวกเดียวกัน ท่านอย่ากลัวมันข้าพเจ้าจะสู้รบเอง พอเลียนยี่ซินเสียงไล่มาถึง ตังเอียวจงก็ขับม้าถือเหล็กสามง่ามเป็นอาวุธออกสกัดหน้าร้องตวาดว่า อ้ายพวกฮวนไล่พวกพ้องของเรามาไม่กลัวความตายหรือ เลียนยี่ซินเสียงได้ฟังก็โกรธ จึงว่าอ้ายทหารคนนี้ หน้าดำเหมือนผีมาแต่ข้างไหน ก็ขับม้าไปเอาง้าวฟันตังเอียวจง ตังเฉียวจงเอาเหล็กสามง่ามเข้ารับไว้สู้รบกันได้ประมาณยี่สิบเพลง เฮงปิวกับเงียมเชงฮองเห็นตังเอียวจงอ่อนกำลังลงกลัวจะผู้นายทหารฮวนไม่ได้ ก็ขับม้าเข้าช่วยกันรบทั้งสามนาย เลียนยี่ซินเสียงเหลือกำลังที่จะต้านทาน นายทหารทั้งสามก็ขับม้าหนีกลับไป เงียมเชงฮอง ตังเอียวจง เฮงปิว เห็นนายทหารฮวนหนีกลับไปแล้วก็ถามชื่อและแซ่และบิดา รู้จักแล้วก็พากันกลับมาค่ายเข้าไปหางักหลุยแจ้งความซึ่งตังเอียวจงเป็นบุตรของตังเซียน เฮงปิวเป็นบุตรเฮงหวย พบกันกลางทางได้ช่วยสู้รบนายทหารฮวนหนีกลับไปแล้ว ตังเอียวจงกับเฮงปิวบอกกับงักหลุยว่า เอียคีจิวบุตรเอียไจเฮงตั้งซ่องสุมผู้คนอยู่ที่เขาเกาเลงซัว ให้ข้าพเจ้าทั้งสองมาหาท่านก่อน แล้วเอียคีจิวจะรวบรวมไพร่พลตามมาภายหลัง งักหลุยได้ฟังก็มีความยินดี สั่งทหารจัดที่ให้ตังเอียวจง เฮงปิวอยู่โดยสมควร

ฝ่ายเลียนยี่ซินเสียงกลับไปถึงค่ายแจ้งความให้ซัวไซต๋อแม่ทัพฟังทุกประการ ซัวไซต๋อว่าเวลาพรุ่งนี้เราจะออกไปเอง ครั้นเวลารุ่งเช้าซัวไซต๋อก็คุมทหารออกมาถึงหน้าค่ายร้องชวนให้งักหลุยแม่ทัพออกรบ ทหารหน้าค่ายเข้ามาบอกแก่งักหลุย งักหลุยว่าเราจะออกไปรบดูฝีมือซัวไซต๋อเองสักพักหนึ่ง เฮงเองจึงว่าท่านอย่าออกไปเลย ข้าพเจ้าจะอาสาออกไปรบเอง งักหลุยว่าซัวไซต๋อเขามีฝีมือเข้มแข็งนัก ท่านอย่าประมาทระวังตัวให้จงดี พูดแล้วก็สั่งให้จัดทหารมอบให้เฮงเอง เฮงเองคำนับลามาแต่งตัวขึ้นม้าคุมทหารสามพันออกจากค่าย ซัวไซต๋อเห็นก็ขับม้าเข้ามาร้องถามว่าท่านนี้ชื่อไร เฮงเองร้องตอบไปว่าเราชื่อเฮงเอง เป็นนายทหารของงักหลุยแม่ทัพใหญ่ ซัวไซต๋อว่าให้งักหลุยออกมาสู้รบกับเราจึงจะสมควร ตัวท่านนี้เป็นนายทหารชื่อไม่ปรากฏเราจะฆ่าก็เสียดายคมอาวุธ เฮงเองได้ฟังก็โกรธขับม้าเข้ารบกับซัวไซต๋อได้หลายเพลง เฮงเองต้านทานกำลังซัวไซต๋อไม่ได้ก็ขับม้าหนีไป

ฝ่ายงูเกาไปเร่งกองลำเลียงกลับมาเกือบจะถึงค่าย เห็นซัวไซต๋อไล่เฮงเองมาก็ออกสกัดหน้าไว้ ซัวไซต๋อร้องตวาดว่าอ้ายทหารคนนี้มาแต่ไหน งูเการ้องว่าไม่รู้จักเราหรือ ชื่องูเกาฆ่าทหารฮวนตายเสียนับไม่ถ้วนแล้ว ซัวไซต๋อได้ฟังก็โกรธขับม้าเข้าไปจะรบกับงูเกา งูเกาเอากระบองตีซัวไซต๋อ ซัวไซต๋อเอาง้าวปัดด้วยกำลังแรง กระบองงูเกาหลุดจากมือกระเด็นไป งูเกาตกใจขับม้าหนี ซัวไซต๋อขับม้าไล่ตามไป

ฝ่ายเอียคีจิวรวบรวมพวกบริวารโจรยกตามตังเอียวจง เฮงปิวมาช่วยงักหลุย ครั้นถึงที่ตำบลจูเซียนติ้นก็แจ้งว่างักหลุยยกทัพตามกิมงึดตุดล่วงแดนฮวนเข้าไปแล้ว เอียคีจิวก็ยกทหารตามมาเกือบจะถึงเขาไกซัว เห็นงูเกาขับม้าหนีมีนายทหารฮวนไล่ติดตามมา งูเการ้องถามว่าท่านนี้มาแต่ไหน เอียคีจิวบอกว่าข้าพเจ้าชื่อเอียคีจิวเป็นบุตรเอียใจเฮงจะยกกองทัพมาช่วยงักหลุย งูเกาว่าเราเป็นพวกเดียวกัน ทหารฮวนที่ไล่เรามานี้มันมีฝีมือเข้มแข็งนักหนีไปเสียก่อนเถิด เอียคีจิวได้ฟังจึงว่าท่านอย่ากลัวข้าพเจ้าจะสู้รบเอง พอซัวไซต๋อขับม้ามาเอียคีจิวก็ออกสกัดไว้ ซัวไซต๋อร้องถามว่าทหารคนนี้มาแต่ไหนอีกเล่าจึงได้สกัดขัดขวางไว้ เมื่อตะกี้ก็มากีดขวางอยู่คนหนึ่ง จักแหล่นจะตายด้วยง้าวของเรามันหนีมาทางนี้ เอียคีจิวว่าตัวเราชื่อเอียคีจิวเป็นบุตรเอียไจเฮง ซัวไซต๋อได้ฟังก็หัวเราะว่าเอียไจเฮงบิดาเจ้าตายด้วยฝีมือทหารฮวนหรือมิใช่ ตัวเจ้าอยากจะตายตามไปก็จงมารบกับเราเถิด เอียคีจิวได้ฟังก็โกรธขับม้าเข้ารบกับซัวไซต๋อ พอเฮงเองมาทันก็เข้าช่วยรบ งูเกาเห็นนายทหารทั้งสองรบกับซัวไซต๋อกลัวจะเสียที ก็ขับม้าเข้าช่วยรุมรบเป็นสามคน ซัวไซต๋อรบต้านทานทหารทั้งสามอ่อนกำลังลงก็ขับม้าหนีกลับไปค่าย งูเกาจึงพูดกับเอียคีจิวว่าตัวชื่องูเกา ได้สาบานเป็นพี่น้องกับบิดาท่าน เอียคีจิวก็ลงจากม้าคุกเข่าคำนับงูเกาเหมือนอย่างบิดา แล้วก็พากันมาค่าย แจ้งความกับงักหลุยแม่ทัพตามซึ่งได้สู้รบกับซัวไซต๋อให้ฟังทุกประการ เอียคีจิวจึงเล่าให้งักหลุยฟังว่าเมื่อข้าพเจ้าอยู่ที่เขาเกาเลงซัวนั้น ขุนนางสี่คนคุมครอบครัวพวกกังฉินซึ่งต้องเนรเทศไปเมืองเนียหนำมาทางนั้น ข้าพเจ้าทราบว่าคนเหล่านั้นเป็นญาติพี่น้องพวกพ้องของชีนไคว่ เมกคิหู และหลออูจิบ ข้าพเจ้าจึงได้ตั้งเครื่องบูชาเขียนชื่อบิดาท่าน เอาคนเหล่านั้นฆ่าเช่นแก้แค้นเสียจนสิ้น งักหลุยได้ฟังก็มีความยินดีว่าขอบใจท่านนักหนาซึ่งได้พลอยเจ็บแค้นแทนบิดาเรา แล้วงักหลุยก็สั่งให้เอียคีจิวพาทหารเข้าสมทบอยู่ด้วยกันในค่ายใหญ่

ฝ่ายซัวไซต๋อหนีกลับมาถึงค่ายคิดวิตกว่ากองทัพงักหลุยมีทหารฝีมือเข้มแข็งมากหลายคนนัก ตัวเรากับเลียนยี่ซินเสียงสองคนเท่านี้เห็นจะเอาชัยชนะไม่ได้ นั่งตรึกตรองเป็นทุกข์ใจอยู่

ฝ่ายหลวงฮวนโพฮองนั้น ครั้นหนีกลับไปถึงที่อยู่แล้วก็มีใจเจ็บแค้นยิ่งนัก คิดจะมาแก้แค้นงักหลุยแม่ทัพให้จงได้ ก็ไปเที่ยวเรียนวิชาหาของวิเศษได้หลายอย่าง เล่ามนต์กำกับได้ชำนิชำนาญแล้วก็ออกจากที่อยู่เดินมาใกล้จะถึงเขาไกซัว แจ้งว่ากองทัพทั้งสองฝ่ายตั้งอยู่ริมเขาไกซัว หลวงฮวนโพฮองก็ตรงไปค่ายบอกกับทหารฮวนว่าชื่อโพฮองก๊กซือจะมาหาท่านแม่ทัพ ทหารฮวนก็เข้าไปแจ้งกับซัวไซต๋อแม่ทัพว่าหลวงฮวนโพฮองก๊กซือมาหาท่าน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ