๗๑

ฝ่ายลิซุดโพ๊วแจ้งว่ามีผู้มายิงสัตว์ในป่าแล้วฆ่าทหารของตัวตาย ก็คุมทหารไล่ตามไป ครั้นทันเข้าลิซุดโพ๊วจึงร้องว่าอ้ายผู้ร้ายจะหนีไปไหน งักหลิมได้ยินเหลียวหน้ามาเห็นลิซุดโพ๊วรูปร่างหน้าตาโตใหญ่คมสันก็นึกครั่นคร้าม ครั้นจะหนีก็จวนตัวเข้าแล้วจึงแข็งใจเข้ารบกับลิซุดโพ๊วได้ประมาณสามสิบเพลง งักหลิมทานกำลังลิซุดโพ๊วไม่ได้สิ้นกำลังลงเสียที ลิซุดโพ๊วจับตัวได้ก็พาไปยังที่พักแล้วลิซุดโพ๊วจึงถามว่าตัวมาแต่ไหน เป็นทหารของผู้ใด จึงบังอาจฆ่าทหารเรามิได้กลัวเราผู้เป็นใหญ่อยู่ในแว่นแคว้นฮุนหนำนี้ งักหลิมว่าท่านจะมาพูดจาเซ้าซี้ไปกระไร เมื่อจับเรามาได้แล้วก็ฆ่าเสียเถิด ลิซุดโพ๊วว่าตัวไม่กลัวความตายหรือจึงมิได้อ่อนน้อมแก่เรา งักหลิมว่าเราเป็นบุตรท่านแม่ทัพ บิดาเราเป็นขุนนาง ชาติทหารไม่เคยอ่อนน้อมต่อผู้ใด ลิซุดโพ๊วจึงถามว่าตัวอวดว่าบิดาเป็นแม่ทัพใหญ่นั้นคือผู้ใด งักหลิมบอกว่าบิดาเราชื่อบูเชียงก๋ง ลิซุดโพ๊วได้ฟังก็คิดขึ้นได้จึงถามต่อไปว่า บิดาท่านนั้นชื่อบูเชียงก๋งซึ่งทำสงครามกับกิมงดดุตที่ตำบลจูเซียนติ้นนั้นหรือมิใช่ งักหลิมก็รับว่านั้นแหละคือบิดาข้าพเจ้า ลิซุดโพ๊วได้ฟังก็ดีใจให้แก้มัดออกแล้วเชิญให้นั่งที่สมควร ลิซุดโพ๊วจึงพูดว่าเราคิดสงสารบิดาท่านนัก เสียแรงมีสติปัญญาทั้งฝีมือก็เข้มแข็ง ชื่อเสียงปรากฏเหมือนหนึ่งฟ้าร้อง ไม่ควรจะมาตายด้วยสติปัญญาและฝีมือชีนไคว่ผู้เป็นศัตรูแผ่นดินเสียเลย งักหลิมได้ฟังก็มิได้ตอบประการใดสั่นศีรษะแล้วน้ำตาตก ลิซุดโพ๊วจึงว่าเรากับบิดาท่านเมื่อยังมีชีวิตอยู่ได้รักใคร่กันมาก เราคิดถึงอยู่เสมอมิได้ขาด บัดนี้ได้พบท่านผู้เป็นบุตรก็ยินดีนักเรามีบุตรสาวอยู่คนหนึ่งไม่เห็นสมควรกับผู้ใด เราคิดจะปลูกฝังให้เป็นภรรยาท่านผู้เป็นบุตรบูเชียงก๋งให้สมควรกับความซึ่งรักใคร่บูเชียงก๋งมาแต่ก่อนท่านจะเห็นประการใด งักหลิมจึงว่าท่านคิดถึงบิดาและเมตตาข้าพเจ้านั้นคุณของท่านนักหนา แต่ในเวลานี้ข้าพเจ้าขอทุเลาก่อนด้วยยังมิได้ทำการแก้แค้นแทนบิดา ถ้าทำการเสร็จแล้วข้าพเจ้าจึงจะมารับใช้สอยท่าน ลิซุดโพ๊วเห็นงักหลิมพูดจาบิดพลิ้วไปจึงว่าพี่น้องของท่านก็มีเป็นหลายคนพอจะคิดแก้แค้นฉลองคุณบิดาได้ ท่านจงรับถ้อยคำเราเถิด เมื่อเสร็จการแล้วถึงจะไปคิดการฉลองคุณบิดาก็ตาม แล้วก็พูดจาว่าวอนงักหลิมไปเป็นอันมาก งักหลิมจะขัดขวางนั้นก็เกรงใจด้วยตัวตกอยู่ในอำนาจเขา จึงรับยอมตามถ้อยคำลิซุดโพ๊ว ลิซุดโพ๊วมีความยินดีจึงเลิกทหารพาตัวงักหลิมกลับไปเมืองแจ้งความกับภรรยาตามซึ่งจะยกบุตรสาวให้งักหลิม ภรรยาลิซุดโพ๊วก็มีความยินดีจัดแจงเตรียมการที่จะแต่งงานบุตรสาว

ฝ่ายชาฮก งักหลุย และพวกพ้องพี่น้องทหารทั้งปวง ครั้นเวลาเย็นก็เลิกกลับไปบ้าน ไม่เห็นงักหลิมกลับมาก็ตกใจพากันออกเที่ยวตามค้นหาในป่าก็ไม่พบ เห็นชายผู้หนึ่งเดินมา งักหลุยจึงถามว่าท่านพบปะงักหลิมน้องชายเราบ้างหรือไม่ มาเที่ยวยิงนกยิงเนื้ออยู่ด้วยกันก็หายไป ชายผู้นั้นบอกว่าเมื่อเวลากลางวันเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งรบกับลิซุดโพ๊ว ลิซุดโพ๊วจับตัวไปได้ งักหลุยถามว่าลิซุดโพ๊วนั้นคือผู้ใดอยู่ที่ไหน ชายแก่ผู้นั้นบอกว่า ลิซุดโพ๊วนั้นเป็นใหญ่ในแขวงฮุนหนำนี้ ออกมาเที่ยวตั้งชุมนุมอยู่ในป่านี้ท่านจะไปข้าพเจ้าจะพาไป งักหลุยกับพี่น้องนายทหารก็ให้ชายแก่ผู้นั้นพาไปถึงที่ชุมนุมลิซุดโพ๊วตั้งอยู่ก็ไม่เห็นเพราะเกิดกลับไปแล้ว จึงปรึกษากันว่าครั้นเราจะตามเข้าไปในบ้านเมืองเขาก็น้อยตัว กลัวจะเกิดสู้รบฆ่าฟันกันขึ้น จำจะให้ไปสืบสวนฟังข่าวคราวดูก่อน

ฝ่ายลิซุดโพ๊ว ครั้นงักหลิมยอมเป็นบุตรเขยจะแต่งงานกับบุตรสาวแล้ว ก็ทำหนังสือไปถึงนางลีสีมารดางักหลิมและพี่น้องญาติทั้งปวง กล่าวความตั้งแต่ต้นซึ่งได้ชอบพอรักใคร่กับบูเชียงก๋งจนจับงักหลิมไปได้ จะยกบุตรสาวให้เป็นภรรยา ครั้นทำหนังสือเสร็จแล้วก็มอบให้ม้าใช้ถือไปให้นางลีสี ครั้นม้าใช้มาถึงที่ชุมนุมในป่าพบชาฮก งักหลุยกับพี่น้องทั้งปวงก็ส่งหนังสือให้ งักหลุยก็รับหนังสือที่ม้าใช้มาเปิดผนึกออก อ่านแจ้งความแล้วก็ดีใจพากันเข้าไปในเมืองของลิซุดโพ๊ว ลิซุดโพ๊วแจ้งว่าพี่น้องพวกพ้องของงักหลิมตามมาก็ออกมาเชิญเข้าไปจัดที่ให้นั่งสมควรแล้ว จึงพูดว่าท่านทั้งปวงอย่ามีความน้อยใจเลย ที่จับเอางักหลิมมานั้นตัวเรานี้ได้เป็นคนชอบพอรักใคร่กันกับบูเชียงก๋งมาแต่ก่อน มีความอาลัยคิดถึงบูเชียงก๋งอยู่มิได้ขาด บัดนี้เรามีบุตรสาวอยู่คนหนึ่ง จะยกให้เป็นภรรยางักหลิม การต่อไปข้างหน้าจะได้พึ่งอาศัยแก่กัน ชาฮกกับงักหลุยได้ฟังก็มีความยินดี ลิซุดโพ๊วจึงให้จัดโต๊ะมาเลี้ยงกัน เมื่อขณะกินโต๊ะอยู่นั้นพอคนใช้เข้ามาบอกว่า เฮกมันเหลงไปเที่ยวป่ากลับมาถึงแล้ว ลิซุดโพ้วจึงเรียกเฮกมันเหลงเข้ามาให้รู้จักกับชาฮก งักหลุย และคนทั้งปวงเหล่านั้น ลิซุดโพ๊วจึงพูดว่าเฮกมันเหลงนี้เป็นหลานของเรา ได้สาบานเป็นพี่น้องมิตรสหายกับงักฮุน งักหลุยได้แจ้งว่าเฮกมันเหลงเป็นสหายกับงักฮุนพี่ชายที่ตายก็มีความยินดีลุกขึ้นคำนับกันเหมือนหนึ่งญาติอันสนิท เฮกมันเหลงพูดว่าข้าพเจ้ามีความแค้นชีนไคว่นัก คิดจะยกกองทัพไปทดแทนแก้แค้นอยู่ทุกเวลาแต่ยังไม่ว่างเปล่าจึงได้งดอยู่ งักหลุยว่าข้าพเจ้าทั้งปวงก็คิดจะทำการตอบแทนแก่ชีนไคว่อยู่ให้สมที่ทำความข่มขี่ลงอาญาบิดาข้าพเจ้าเสีย แต่ทแกล้วทหารยังมีน้อยกลัวจะทำการไปไม่ตลอด และครอบครัวของตัวก็ตกอยู่ในระหว่างโทษต้องเนรเทศ เฮกมันเหลงจึงว่าตัวข้าพเจ้าผู้เดียวจะยกกองทัพไปตัดศีรษะชีนไคว่เสียให้ได้ ถ้าไม่ได้สมคิดก็ไม่กลับมาเมือง พูดแล้วก็คำนับลาลิซุดโพ๊วออกมาจัดทหารพวกพ้องของตัวได้สามหมื่นจะยกไปเมืองนิ่มอัน ชาฮก งักหลุยพูดกับลิซุดโพ๊วว่าซึ่งท่านจะยกบุตรสาวให้งักหลิมนั้น ข้าพเจ้าทั้งปวงก็มีความยินดีนัก แต่จะขอลาท่านไปบอกกับมารดาเสียให้ทราบก่อน เมื่อฤกษ์ดีแล้วจึงจะพากันมา ชาฮก งักหลุยกับคนเหล่านั้นก็กลับมาแจ้งความกับนางชาฮูหยินและนางลีสีฟังทุกประการ นางมารดาทั้งสองก็มีความยินดี ครั้นถึงวันฤกษ์นางชาฮูหยิน นางลีสีกับบุตรและนายทหารทั้งปวงก็มาแต่งงานงักหลิมที่เมืองของลิซุดโพ๊ว ตั้งแต่นั้นมานางชาฮูหยิน นางลีสีก็ชอบพอไปมาหาสู่ลิซุดโพ๊วอยู่เนือง ๆ

ฝ่ายฮอลิบตั้งแต่ชีนไคว่ใช้มาเที่ยวสืบเสาะตามหาหลวงจีนก็เที่ยวเซซังไปหลายแห่งหลายตำบล พอมาถึงที่แห่งหนึ่งพบซินแสหมอดู ฮอลิบก็เข้าไปคำนับ ซินแสถามว่าท่านมีธุระสิ่งใดหรือ ฮอลิบก็เล่าความซึ่งชีนไคว่ใช้ให้เที่ยวตามหาหลวงจีนให้ซินแสฟังทุกประการ ซินแสว่าซึ่งท่านจะพบกับหลวงจีนเอียเซียวอีดนั้นก็ได้ แต่ทางซึ่งจะไปกันดารนัก ฮอลิบว่าถึงจะยากเย็นเป็นตายก็ตามเถิดคงจะไปให้ถึง ด้วยชีนไคว่เอามารดาข้าพเจ้าไปจำไว้ ถ้ากลัวลำบากไม่ไปให้พบหลวงจีนได้ตัวมาให้ชีนไคว่ ก็เหมือนหนึ่งไม่มีกตัญญูต่อมารดา ซินแสว่าถ้ากระนั้นท่านจงไปเมืองซือจิวเถิดก็คงจะได้ความ ฮอลิบได้ฟังก็ยินดีคำนับลาซินแสหมอดูไป ถึงเมืองซือจิวพบศาลเทพารักษ์แห่งหนึ่งชื่อศาลซือเซียนซื้อ ฮอลิบเข้าไปคำนับเจ้าแล้วก็อาศัยนอนหลับอยู่ที่นั้น นิมิตฝันเห็นว่าเดินไปพบเขาแห่งหนึ่ง บนเขานั้นมีวัด ฮอลิบก็เดินเข้าไปในวัดเห็นหลวงจีนองค์หนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ฮอลิบถามว่าหลวงจีนเอียเซียวอีดอยู่นี่หรือ หลวงจีนที่นั่งเก้าอี้บอกว่าอยู่ แล้วก็เดินเข้าไปในวัด ประเดี๋ยวหนึ่งได้ยินเสียงมโหรีประโคมขึ้น มีคนหนึ่งแต่งตัวโอ่โถงเดินออกมาถามฮอลิบว่า ชีนไคว่ให้เจ้ามาจับเราหรือ ชีนไคว่นั้นเราจับเอาตัวไปทำโทษไว้ที่เมืองนรกแล้ว เจ้าอยากจะพบปะเราจะเรียกมาให้ดู คนผู้นั้นสั่งให้ทหารปิศาจเอาตัวชีนไคว่มา ฮอลิบเห็นชีนไคว่ต้องจำด้วยโซ่ตรวนอันสาหัส ที่ตัวมีรอยตบต่อยยับเยินก็ตกใจตื่นขึ้น จึงคิดคาดการณ์ไปตามความฝันเห็นว่าชีนไคว่จะสิ้นบุญตายเสียแล้ว ทหารผีในนรกจึงได้เอาตัวไปทำโทษดังนี้ ครั้นเราจะถือคำสั่งชีนไคว่ดื้อตามหลวงจีนไปก็จะป่วยการเปล่า จำจะกลับไปเมืองนิ่มอันฟังอาการชีนไคว่ดู คิดตกลงในใจดังนั้นแล้วก็กลับมาเสีย

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ