๒๘

งักฮุยกับนายทหารยืนดูอยู่บนตลิ่งก็ดีใจพากันพูดว่า ครั้งนี้เป็นบารมีของเจ้านายเรา คงได้ตัวกิมงึดตุดไปถวายเป็นแน่ ขณะนั้นกิมงึดตุดยังไม่สิ้นวาสนา ง่วนเหลียงกอดคอว่ายน้ำลากเข้าฝั่ง กิมงึดตุดจมสำลักน้ำเกือบจะขาดใจ ผุดทะลึ่งขึ้นมาได้ร้องด้วยเสียงอันดัง พอที่ศีรษะนั้นเป็นมังกรหนวดแดงแผลงฤทธิ์ ง่วนเหลียงเห็นก็ตกใจวางกิมงึดตุดเสียดำน้ำหนีมังกรไป พอเรือคับมิชีเข้ามาถึงรับเอากิมงึดตุดขึ้นเรือแจวข้ามฟากถึงฝั่งกลับไปค่ายได้ กิมงึดตุดจึงพูดกับพี่น้องและคับมิชีที่ปรึกษาว่า ตั้งแต่ทำศึกสงครามมาหลายครั้งแล้วก็ไม่เสียทีแตกยับเยินเหมือนคราวนี้เลย งักฮุยนี้มีสติปัญญาดุร้ายฝีมือเข้มแข็งนัก เกือบจะเอาชีวิตเราไปได้ทีเดียว จำจะมีหนังสือบอกข้อราชการขอกองทัพให้ยกมาช่วยสู้รบแก้มือกับงักฮุยอีกให้จงได้ พูดดังนั้นแล้วก็ทำหนังสือบอกให้ม้าใช้ถือรืบไปเมืองไตกิมก๊ก ฝ่ายงักฮุยยืนดูอยู่บนฝั่งเห็นเรือมาช่วยรับกิมงึดตุดหนีพ้นไปได้ก็เสียใจ จึงคิดว่ากิมงึดตุดนี้ยังไม่ถึงที่ตายจึงบังเอิญให้มีเหตุรอดตัวไปได้ พอง่วนเหลียงดำน้ำเข้ามาถึงริมฝั่ง งูเกาเห็นก็ร้องเรียกขึ้นพาเอาตัวเข้ามาหางักฮุย งักฮุยจึงถามว่าท่านนี้ชื่อใดบ้านอยู่นี่ไหน ง่วนเหลียงก็บอกชื่อและแซ่เล่าความเดิมตั้งแต่ปู่และบิดาให้ฟังทุกประการ แล้วจึงว่าครั้งนี้ข้าพเจ้าเสียใจนัก หมายว่าจะได้ตัวกิมงึดตุดมาให้แก่ท่าน ก็พอบังเอิญมีมังกรหนวดแดงออกจากศีรษะกิมงึดตุดแผลงฤทธิ์ไล่ขบกัดข้าพเจ้าจึงได้ดำน้ำหนีมา งักฮุยจึงว่าเจ้านี้มีฝีมือเข้มแข็งเราได้เห็นแล้ว แต่กิมงึดตุดเขายังไม่ถึงที่ตายจึงบังเอิญให้เป็นไป ตัวเจ้านี้ก็เป็นเทือกเถาเหล่าทหารจงมาอยู่ทำราชการอาสาแผ่นดินด้วยกันเถิด ง่วนเหลียงจึงว่าถ้าท่านเมตตาจะชุบเลี้ยงข้าพเจ้าแล้วก็จะอยู่ทำราชการฉลองพระเดชพระคุณท่านกว่าจะหาชีวิตไม่ งักฮุยได้ฟังก็มีความยินดี จึงสั่งให้ทหารเอาเสื้อกางเกงมาให้ง่วนเหลียงผลัดแล้วจัดโต๊ะมาเลี้ยงกันเป็นที่สบาย

ฝ่ายเตียก๊กเสียงกับตังฮวง นายโจรทั้งสองกลับไปเขาคิลินซัวที่ชุมนุม รวบรวมเก็บทรัพย์สิ่งของพร้อมเสร็จแล้ว ก็พาพวกบริวารโจรตามงักฮุยไปถึงค่ายที่แม่น้ำอึ้งโหเข้าสมัครทำราชการเป็นทหารอยู่ในงักฮุย

ฝ่ายงักฮุยครั้นได้ชัยชนะแก่กิมงึดตุดแล้ว ก็ทำหนังสือบอกข้อราชการให้ม้าใช้ถือไปกราบทูลพระเจ้าซ้องเกาจง ณ เมืองกิมเหลง ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง งักฮุยให้ประชุมขุนนางนายทัพนายกองมาพร้อมกันปรึกษาว่า กองทัพฮวนข้าศึกก็แตกหนีไปแล้ว จำเราจะจัดหาเรือรบไว้ให้พรักพร้อมยกตามไปปราบปรามเสียให้ราบคาบ จะได้รับสองกษัตริย์เจ้าเรากลับมาตามเดิม ท่านทั้งหลายจะเห็นประการใด แต่บรรดานายทหารเหล่านั้นก็ว่าท่านคิดนี้ชอบแล้ว งักฮุยจึงสั่งให้ทหารเกณฑ์กันตัดไม้มาต่อเรือรบไว้ที่แม่น้ำอึ้งโหเป็นอันมาก

ฝ่ายม้าใช้ผู้ถือหนังสือของงักฮุยเข้าไปถึงเมืองกิมเหลงก็เอาหนังสือส่งให้เจ้าพนักงานกราบทูล พระเจ้าซ้องเกาจงทรงทราบว่างักฮุยมีชัยชนะตีกองทัพกิมงึดตุดแตกล่าถอยไปแล้วก็มีพระทัยยินดี พอหนังสือบอกผู้รักษาเมืองเพงกังฮู้มีเข้าไปกราบทูลว่าโจรที่แขวงเพงกังฮู้มีพวกพ้องไพร่พลมาก กระทำข่มเหงราษฎรได้ความเดือดร้อน หัวเมืองเหล่านั้นไม่มีกำลังที่จะต้านทานพวกโจร ขอกองทัพเมืองหลวงให้ยกไปช่วย พระเจ้าซ้องเกาจงได้ทรงทราบดังนั้นจึงตรัสว่ากองทัพฮวนนั้นก็แตกถอยไปแล้ว ให้เจ้าพนักงานทำหนังสือรับสั่งไปถึงงักฮุย ให้แบ่งทหารยกกองทัพไปช่วยปราบโจรที่เมืองเพงกังฮู้ เจ้าพนักงานได้รับสั่งก็ทำหนังสือแต่งให้ข้าหลวงถือไปถึงงักฮุย ณ ค่ายแม่น้ำอึ้งโห ข้าหลวงเชิญหนังสือรับสั่งไปถึง งักฮุยก็ออกมาคำนับรับหนังสือเปิดผนึกออกอ่านแจ้งความแล้ว จึงทำหนังสือไปถึงเตียซอว่า บัดนี้มีรับสั่งให้ข้าพเจ้ายกกองทัพไปปราบโจร ณ เมืองเพงกังฮู้ ขอให้ท่านได้จัดนายทหารที่มีสติปัญญามาอยู่รักษาท่าข้ามแม่น้ำอึ้งโห ทำหนังสือแล้วก็ให้ม้าใช้ถือไปให้เตียซอ ณ เมืองเปียนเหลียง งักฮุยจึงจัดให้งูเกา ทึงฮวย เตียเฮียน เฮงกุ้ย สี่นายคุมทหารหมื่นหนึ่งเป็นทัพหน้ายกล่วงเดินไปก่อนแล้วงักฮุยก็ยกกองทัพตามไป ครั้นกองทัพหน้าเดินไปใกล้จะถึงเมืองเพงกังฮู้ทางสิบลี้ก็ให้ตั้งค่ายพักทหารอยู่ แล้วงูเกาขึ้นม้าไปเที่ยวดูเห็นบ้านราษฎรทิ้งร้างว่างเปล่าไม่มีผู้คนอยู่ จึงขับม้าไปเห็นวัดแห่งหนึ่ง ก็ตรงเข้าไปดูหนังสือที่ประตูวัดชื่อว่าวัดฮันซัวโกวยี ในวัดนั้นเงียบสงัดไม่มีหลวงจีนอยู่รักษา งูเกาเห็นมีห้องเปล่าเอาต้นหญ้าแห้งใส่ไว้ หรือจะมีผู้ใดเอาสิ่งของมาซ่อนดอกกระมัง งูเกาก็เอากระบองเข้าคุ้ยหญ้าออกดู เห็นศิษย์วัดคนหนึ่งซ่อนอยู่ในต้นหญ้านั้น ศิษย์วัดตกใจแหวกหญ้าออกมาคุกเข่าลงคำนับแล้วว่าไต้อ๋องขอชีวิตข้าพเจ้าไว้เถิด งูเกาถามว่าเหตุใดตัวจึงได้ซ่อนอยู่ในนี้ ศิษย์วัดแจ้งว่าเวลาวานนี้พวกของท่านมาเอาเสบียงอาหารในวัดนี้ไป พวกหลวงจีนและราษฎรพากันตกใจอพยพหนีไปสิ้น ตัวข้าพเจ้านี้เก็บของอยู่ตามพวกพ้องไปไม่ทัน ครั้นแจ้งว่าท่านมาจึงได้เข้าซ่อนอยู่ในกองหญ้านี้ งูเกาได้ฟังจึงพูดว่าเรามิใช่พวกโจร เป็นทหารกองทัพหน้าของงักฮุยยกมาจะปราบปรามพวกโจรอย่าตกใจ เจ้ารู้ว่าเขาขายสุราที่ไหนบ้างจงพาเราไปทีเถิด ศิษย์วัดว่าข้าพเจ้าสำคัญคิดว่าพวกโจรที่แม่นำไทโอ๋วมารบกวน ไม่แจ้งเลยว่าท่านเป็นนายกองทัพหน้า ท่านอย่าได้ถือโทษโกรธข้าพเจ้าเลย และซึ่งร้านขายสุรานั้นที่นี่ไม่มี ราษฎรหนีไปเสียสิ้นแล้ว งูเกาจึงถามว่าที่ในเมืองเขาขายสุรามีบ้างหรือไม่ หนทางจะไปใกล้หรือไกลจงพาเราไปทีเถิด ศิษย์วัดบอกว่าสุราในเมืองเขาขาย แต่จะไปเมืองนั้นทางประมาณสักแปดลี้ ข้าพเจ้านี้เจ็บเท้าอยู่พาท่านไปไม่ได้ งูเกาจึงว่าเราจะเอาท่านขึ้นม้าไปด้วย พูดดังนั้นก็ให้ศิษย์วัดขึ้นม้ามาด้วยกัน พอถึงประตูเมืองศิษย์วัดนั้นลงจากหลังม้าหนีไป งูเกาก็ร้องเรียกว่าผู้ใดรักษาประตูเมืองจงเปิดรับโดยเร็ว ด้วยมีรับสั่งให้งักฮุยยกกองทัพมาปราบปรามพวกโจร บัดนี้กองทัพมาถึงแล้ว ทหารที่รักษาประตูได้ฟังก็เข้าไปแจ้งแก่เลกเจียงผู้รักษาเมืองทุกประการ เลกเจียงก็เปิดประตูออกเห็นงูเกาจึงคุกเข่าลงคำนับว่า ข้าพเจ้าผู้รักษาเมืองเพงกังฮู้ออกมาคำนับเชิญท่านเข้าไปในเมืองก่อน งูเกาเห็นดังนั้นจึงพูดว่าท่านลุกขึ้นเสียเถิด เรามิใช่แม่ทัพ เป็นนายทหารทัพหน้ายกมาก่อน งักฮุยแม่ทัพยกตามมาข้างหลังคงจะถึงในวันนี้ เราเดินมาก็อ่อนล้าเที่ยวหาซื้อสุรากินก็ไม่ได้ บัดนี้เราตั้งค่ายอยู่ห่างเมืองทางประมาณสิบลี้ เลกเจียงได้ฟังจึงว่าในสองสามเวลานี้ข้าพเจ้าจัดแจงการรักษาบ้านเมืองอยู่ ไม่แจ้งว่าท่านมาถึง ถ้าแจ้งก็จะได้จัดหาสุราและหมูเป็ดไก่ ขอท่านอย่าได้ถือโทษโกรธข้าพเจ้าเลย จะให้ทหารจัดหาเอาไปให้ยังค่ายโดยเร็ว งูเกาว่าท่านจงจัดหาเถิดเราจะกลับไปค่ายก่อน พูดแล้วก็ขึ้นม้ากลับมาค่าย เลกเขียนก็เข้าไปในเมืองจัดสุราหมูเป็ดไก่ได้พร้อมแล้วก็เอาไปยังค่าย

ฝ่ายทึงฮวย เฮงกุ้ย เตียเฮียน เห็นงูเกากลับมาจึงพากันถามว่าพี่ไปไหนมาเป็นช้านาน งูเกาว่าเจ้าพากันนั่งอยู่ค่ายไม่เป็นเรื่อง เราเที่ยวไปหาเลกเจียงผู้รักษาเมืองเพงกังฮู้อีกสักครู่ก็จะได้สุราหมูเป็ดไก่มากิน ถ้าไม่ไปอยู่แต่ค่ายเหมือนกับเจ้าก็จะพากันอดทั้งสิ้น ทึงฮวยได้ฟังจึงพูดว่าไม่ควรจะไปทวงของมากินไม่อายกับเขาบ้างหรือ ถ้าทีหน้าทีหลังอย่าทำเช่นนี้เลย พอพูดกันดังนั้นทหารเข้ามาแจ้งว่าเลกเจียงเอาสุราหมูเป็ดไก่มาให้ ทึงฮวยก็ออกมารับเลกเจียงเชิญเข้าไปในค่ายจัดที่ให้นั่งสมควรแล้ว ทึงฮวยจึงถามว่าพวกโจรที่มาตีปล้นราษฎรให้ได้ความเดือดร้อนนั้นตั้งอยู่ที่ไหน เลกเจียงแจ้งความว่าพวกโจรนี้ตั้งอยู่ที่เขาในทะเลสาบ เขานั้นเรียกว่าทองเทงซัว มีเขาเล็ก ๆ เจ็ดสิบสองเขาล้อมเขาใหญ่อยู่ในน้ำทั้งสองเขาตรงกันข้าม เขาข้างทิศตะวันออกเรียกว่าตังทองเทงซัว เขาทิศตะวันตกเรียกว่าไซทองเทงซัว เขาฝ่ายทิศตะวันตกนั้น โจรตั้งยุ้งฉางใส่เสบียงอาหาร เขาทิศตะวันออกนั้นเป็นที่อยู่นายโจร ชื่อเอียโฮ้วมีนายทหารใหญ่เป็นแม่ทัพนั้นชื่ออวยโพฮวงมีไพร่พลสักหกพัน เรือรบนั้นประมาณห้าหกร้อยลำ เอียโฮ้วนายโจรคิดกำเริบจะแย่งชิงเอาราชสมบัติเป็นเจ้าแผ่นดิน ข้าพเจ้าก็จัดให้โงวเหมงคุมทหารห้าพันไปสู้รบ ก็เสียทีถูกอุบายพวกโจรล่อลวงจับโงวเหมงไปฆ่าเสีย ทหารเลวล้มตายเป็นอันมาก ข้าพเจ้าจึงมีหนังสือบอกเข้าไปกราบทูลขอกองทัพมาออกช่วย โปรดให้งักฮุยแม่ทัพยกมาข้าพเจ้ามีความยินดีนัก ทึงฮวยจึงว่าท่านอย่าวิตกทำไมกับกองทัพโจรเท่านี้ แต่กองทัพใหญ่ของกิมงึดตุดมีไพร่พลทหารถึงหกสิบหมื่น พวกข้าพเจ้ายังตีแตกยับเยินไป แต่พวกโจรนั้นตั้งอยู่ในทะเลสาบ จะต้องใช้เรือมากท่านจงไปจัดหาเรือไว้เถิด ข้าพเจ้าจะยกกองทัพไปตั้งอยู่ที่ไทโอ๋วริมฝั่งทะเลสาบจะได้คิดการต่อไป เลกเจียงว่าซึ่งเรือรบนั้นข้าพเจ้าจะจัดหาไว้ให้พร้อม พูดดังนั้นแล้วเลกเจียงก็ลากลับมาสั่งให้ทหารจัดเรือรบไว้ ก็ยืมเก็บเอาเรือราษฎรจัดเป็นเรือรบขึ้นอีก ทึงฮวย เตียเฮียน งูเกา เฮงกุ้ยก็ยกกองทัพไปถึงที่ไทโอ๋วทะเลสาบก็ให้ทหารตั้งค่ายมั่นลงไว้แล้ว ทึงฮวยจึงพูดกับพี่น้องว่า เราจะต้องจัดเรือเร็วมาสี่สิบลำ แยกกันไปเที่ยวตรวจตระเวนในทะเลสาบ อย่าให้พวกโจรลอบเข้าตีปล้นค่ายของเรา พี่น้องทั้งสามคนก็เห็นพร้อมกัน ทึงฮวยก็สั่งทหารเอาเรือรบมาสี่สิบลำ ลำหนึ่งบรรจุทหารยี่สิบคนเท่ากัน ทึงฮวย เตียเฮียน เฮงกุ้ย งูเกาสี่คนคุมเรือสิบลำก็แยกกันไปลาดตระเวนตรวจตราอยู่ในทะเลสาบทั้งสี่พวก

ฝ่ายงูเกานั้นคุมเรือเที่ยวตรวจไปในเวลากลางคืน ครั้นแจวเรือออกไปห่างฝั่งทหารก็พากันหยุดเสียไม่แจว งูเกาจึงถามทหารว่าเหตุผลอย่างไรจึงหยุดเสียไม่แจวเรือ ทหารจึงว่าข้าพเจ้าเห็นออกไปห่างฝั่งนัก กลัวว่าพวกโจรจะมาทำอันตราย งูเกาได้ฟังก็ร้องตวาดว่าเรามาทั้งนี้ก็จะกำจัดพวกโจร มากลัวพวกโจรดังนี้หาควรไม่ จงรีบแจวไปเถิด ทหารได้ฟังก็กลัวพากันแจวเรือไป ในขณะนั้นเป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำกลางคืนเดือนหงาย งูเกาเห็นแสงเดือนสว่างก็ดีใจ สั่งให้ทหารยกสุรามารินกินจนเมาแล้วก็นั่งร้องเพลงชมเดือนอยู่หัวเรือ ทหารก็แจวเรือไป

ฝ่ายอวยโพฮวงแม่ทัพของเอียโฮ้วนายโจรเห็นเดือนหงายก็ลงเรือรบแล่นไปมา เที่ยวตรวจตราตามทะเลสาบสามลำด้วยกัน ครั้นแล่นไปมาก็เห็นมีเรือแจวมาหลายลำ อวยโพฮวงก็ให้ทหารบากเรือแล่นตรงเข้าไปใกล้

ฝ่ายงูเกาเมาสุรานั่งอยู่หัวเรือ เห็นเรือโจรแล่นตรงเข้ามา งูเกาก็ลุกขึ้นหยิบอาวุธ พอเรือโจรแล่นผ่าเข้ามาโดนเรือ งูเกาก็ตกน้ำลงไป อวยโพฮวงให้พวกโจรโดดน้ำจับตัวงูเกาเอาขึ้นเรือไปได้ พวกทหารของงูเกาเห็นก็ตกใจพากันแจวเรือหนีไปแจ้งแก่ทึงฮวยทุกประการ ทึงฮวยได้ฟังก็ร้องไห้แล้วพูดกับพี่น้องสองคนว่า ครั้นจะยกไปช่วยงูเกาก็ไม่มีผู้ใดรักษาค่าย งักฮุยก็ยังมาไม่ถึง เราจะคิดประการใดดี จำจะต้องคอยท่าให้งักฮุยมาก่อนจึงคิดการต่อไป พูดแล้วก็แยกกันไปตรวจตราค่ายคอยท่างักฮุยแม่ทัพอยู่มิได้ประมาท

ฝ่ายอวยโพฮวงจับตัวงูเกาไปได้ก็แล่นเรือกลับไปแจ้งความกับเอียโฮ้วทุกประการ เอียโฮ้วได้ฟังก็พาตัวงูเกาขึ้นไป ทหารพางูเกาเข้าไปถึงเอียโฮ้วก็นั่งเฉยอยู่ไม่คำนับ เฉียโอ้วจึงว่าตัวเป็นเชลยเราจับมาได้ เหตุใดจึงทำกิริยาองอาจไม่นบนอบต่อเรา งูเกาจึงตอบว่าทหารท่านจับมาได้นั้นก็เพราะเราเสพสุราเมา ตัวเราเป็นชาติทหารซึ่งจะนบนอบต่อผู้อื่นง่าย ๆ นั้นอย่าพึงนึกเลย เอียโฮ้วว่าเรามีทแกล้วทหารเป็นอันมาก แผ่นดินทุกวันนี้เป็นจลาจล เราหมายจะตั้งตัวขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ทำนุบำรุงราษฎรให้มีความสุข ท่านจงสามิภักดิ์อยู่ด้วยเราช่วยปราบยุคเข็ญในแผ่นดินด้วยกันเถิด งูเกาจึงว่าตัวเรานี้พระเจ้าซ้องเกาจงชุบเลี้ยงตั้งแต่งให้เป็นนายทหาร ซึ่งท่านคิดจะแย่งชิงเอาสมบัติเป็นเจ้าแผ่นดินนั้นเห็นลึกนัก ถ้าจะคิดให้ดีแล้วจงรวบรวมพวกพ้องและเครื่องศาสตราวุธเสบียงอาหาร เอาไฟเผาที่อยู่เสียพากันไปสามิภักดิ์กับงักฮุยแม่ทัพใหญ่ ปราบปรามกิมงึดตุดข้าศึกฮวนรับสองกษัตริย์กลับมาได้ ชื่อเสียงท่านก็จะปรากฏว่าเป็นคนดีมีความชอบต่อแผ่นดินสืบบุตรและหลานต่อไป เราตักเตือนทั้งนี้ดีนักเมื่อไม่เชื่อเราจะฆ่าก็ฆ่าเสียเถิด เมื่อเราตายแล้วงักฮุยพี่ชายเราก็คงจะกระทำแก้แค้นทดแทนท่านต่อไปจงได้ เอียโฮ้วได้ฟังก็โกรธสั่งให้ทหารเอาตัวงูเกาไปฆ่าเสีย เมื่อทหารเข้าฉุดคร่างูเกาไปนั้น งูเกาก็มิได้สะทกสะท้านครั่นคร้ามกลัวความตาย

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ