ตอนที่ ๔๓ จระเข้เถรขวาด

๏ จะกล่าวถึงเถรขวาดฉลาดเวท กระเดื่องเดชเชียงอินท์แผ่นดินไหว
แต่รับนางสร้อยฟ้ามาเวียงชัย เปรียบดั่งไกรสรราชที่อาจอง
ด้วยเจ้าลาวยกย่องสนองคุณ มีบุญยิ่งกว่าบรรดาสงฆ์
เป็นที่สังฆราชามลาว์วงศ์ ดำรงวัดพระธาตุราชอาราม
ถวายเครื่องยศอย่างสังฆราช ตลกบาตรตาลิปัตรพัดย่าม
ล้วนปักหักทองขวางสำอางงาม ขี่เรือม่านคานหามกั้นสัปทน
เจ้าเชียงใหม่ให้ลาวเป็นเลกวัด เปลี่ยนผลัดเข้าเดือนอยู่เกลื่อนกล่น
สานุศิษย์ใหญ่น้อยสักร้อยคน แต่เณรจิ๋วนั้นเป็นต้นต่างหูตา
อยู่กุฎีสี่หลังดังตำหนัก ตะละตึกคึกคักแน่นหนา
อัฒจันทร์ชั้นตั้งเครื่องบูชา ล้วนเครื่องแก้วกะหลาป๋าปากเลี่ยมทอง
กระจกใหญ่ใส่เสาเข้าทุกทิศ หน้าต่างติดกระจกซุ้มคันฉ่อง
เตียงจีนตีนตั้งสิงโตทอง เครื่องประดับสำหรับห้องก็พร้อมเพรียง ฯ
๏ วันหนึ่งจึงพระสังฆราชเถร ฉันเพลแล้วออกไปในเฉลียง
สานุศิษย์หมอบกลาดดาษระเบียง เอนตนลงบนเตียงพนักทอง
ยกหมอนขวานอิงพิงกับอก หยิบกระจกกะหลาป๋าเอามาส่อง
เลือดฝาดขึ้นหน้าเป็นนวลละออง ผิวผ่องเปล่งปลั่งกำลังดี
เหลือบแลเห็นแผลหน้าผากยับ รอยเมื่อชุมพลจับสับด้วยกระบี่
ฉุนโกรธขึ้นพลันในทันที มึงดีละจะเล่นให้เห็นกัน
จะลงไปกรุงศรีอยุธยา จับมันเข่นฆ่าให้อาสัญ
ผลุดลุกจากเตียงเหวี่ยงหมอนพลัน งกงันเข้าไปในกุฎี
จับจีวรห่มดองแล้วครองผ้า ร้องเรียกศิษย์หาอยู่อึงมี่
เณรพรมฉวยร่มกับพัชนี เณรสีตะพายย่ามตามอาจารย์
พวกเลกวัดจัดวอมารอท่า เถรขวาดยาตรามางุ่นง่าน
ขึ้นวอหลังคาสีตะลีตะลาน หามลัดตัดบ้านเข้าวังใน
ถึงประตูหูช้างที่ข้างหน้า ลงจากวอเดินมาหาช้าไม่
ขึ้นบนตำหนักพลันด้วยทันใด แล้วสั่งให้ไปทูลเจ้าสร้อยฟ้า ฯ
๏ ครานั้นสร้อยฟ้ายาใจ อยู่ในตำหนักจันทน์หรรษา
เลี้ยงบุตรสุดสวาดิไม่คลาศคลา จนลูกยาพลายยังเจริญวัย
พอสาวใช้ไปแถลงแจ้งคดี พระครูบามาที่ตำหนักใหญ่
ก็จูงลูกพลายยงตรงออกไป นิมนต์ให้สังฆราชนั่งอาสนะ
ถวายเภสัชตะบันแล้ววันทา เจ้าคุณอุตส่าห์มาสาธุสะ
มานี่ด้วยมีกิจธุระ ฤๅว่าจะประโยชน์สิ่งอันใด ฯ
๏ เถรขวาดถอนใจถวายพร ว่าทุกข์ร้อนรูปนี้มีข้อใหญ่
ทุกวันนี้ภายนอกดอกเป็นใย แต่ภายในชอกช้ำทุกค่ำเช้า
จะขบฉันอันใดก็เต็มกลืน ผวาตื่นอกใจให้ร้อนเร่า
ถ้าเป็นอย่างนี้ไปไม่บรรเทา เห็นจะเข้าอติสารอาการตาย
รูปมาหมายจะลาองค์เจ้าแม่ ไปคิดแก้ทุกข์ร้อนพอผ่อนหาย
อย่าห้ามไว้ให้ชีวันอันตราย โฉมฉายได้เมตตาแก่อาจารย์ ฯ
๏ ครานั้นจึงโฉมนางสร้อยฟ้า ได้ฟังเถรขวาดว่าน่าสงสาร
ฉันถวายตัวมาก็ช้านาน มีเหตุการจงเล่าให้เข้าใจ
ที่ห้ามปรามแต่หลังเคยรั้งเหนี่ยว ก็ครั้งเดียวเมื่อจะลงไปเมืองใต้
จะแก้แค้นขุนแผนกับพระไวย ห้ามไว้เพราะสงสารเจ้าพลายยง
ด้วยกลัวลูกยากำพร้าพ่อ จึงได้ขอร้องห้ามความประสงค์
ถ้ามิให้พระไวยนั้นปลดปลง จะลงไปก็ตามแต่ความคิด ฯ
๏ ครานั้นท่านสังฆราชา ได้ฟํงนางว่าก็สมจิตร
ค่อยกระถดเข้าไปให้ใกล้ชิด กระซิบว่าข้านี้คิดอยู่ค่ำเช้า
ยังแค้นใจไอ้ชุมพลมิรู้สิ้น มันดูหมิ่นมากมายให้อายเขา
แต่เกิดมายังมิให้ใครดูเบา จะให้มันทำเปล่าก็เต็มที
ถ้ามิได้ทดแทนให้แค้นหาย จะชอกช้ำจำตายไปเป็นผี
จึงหมายว่าจะแกล้งแปลงอินทรีย์ เป็นกุมภีร์ลงไปในอยุธยา
จะทำเสียให้วุ่นขุ่นทั้งกรุง เอาให้ยุ่งถึงสมเด็จพระพันวษา
อันคนดีที่ไหนใครจะมา คงอาสาแต่อ้ายพลายชุมพล
จะล่อมันลงน้ำทำให้ถนัด ขบกัดตามสบายให้ตายป่น
ถ้าได้เสร็จสมหมายวายทังวล จะได้อยู่เมืองบนสบายใจ
อันตรงที่พระนายของพลายยง รูปหาคิดปลิดปลงชีวิตไม่
เข้ามาหวังว่าจะลาไป จงอวยชัยให้สำเร็จเจตนา ฯ
๏ ครานั้นสร้อยฟ้านารี ฟังเถรยินดีหัวเราะร่า
ด้วยอาฆาตชุมพลแต่ไรมา พอเถรว่าก็เหมือนเกาเข้าที่คัน
ถ้าคุณฆ่าอ้ายชุมพลคนนี้ได้ จะขอบคุณเหมือนให้ไปสวรรค์
คุณจะเอาสิ่งใดจะให้ปัน เว้นแต่ดาวเดือนตะวันแลจนใจ
แต่ตัวคุณนั้นชราอย่าประมาท อ้ายชุมพลเก่งกาจเป็นไหนไหน
ครั้งมันแกล้งแปลงมารบพระไวย มันยังไล่บุกป่ามาแต่ตัว
เจ้าอุบายถ่ายเทก็ไม่เล่น เคยเห็นเมื่อมันปลอมล้อมท่านขรัว
หากคุณเป็นอย่างยอดจึงรอดตัว ถ้าชั่วก็คงยับไม่กลับมา ฯ
๏ เถรขวาดตอบว่าแม่อย่าพรั่น มิให้มันทำร้ายให้ขายหน้า
ถึงตัวแก่อย่างนี้แลสีกา แต่ฝ่ายข้างทางวิชายังว่องไว
คราวนั้นไม่รู้ตัวมัวกินเหล้า มันจึงเข้ามาตะครุบเอาไปได้
ถ้าคนอื่นหมื่นพันก็บรรลัย ถึงรูปพลาดพลั้งไปไม่เสียที
ได้เล่นกันซึ่งหน้าแล้วอย่าพรั่น ต่อให้มันขี่คอทั้งพ่อพี่
จะทำเสียให้เห็นเป็นภัสม์ธุลี ถ้าไม่ดีแม่อย่ารับเอากลับมา
พรุ่งนี้อาตมาจะลาไป ด้วยว่าได้ฤกษ์เก้าเป็นเสาร์ห้า
จะรีบตรงลงไปอยุธยา ไม่ช้าคงจะเสร็จสำเร็จการ
๏ ครานั้นสร้อยฟ้านารี อัญชลีอวยพรสุนทรสาร
ให้คุณเรืองฤทธิไกรไชยชาญ ใครใครอย่าได้ทานกำลังฤทธิ
ขอให้ปราบศัตรูหมู่ร้าย แพ้พ่ายบรรลัยได้ดังจิตร
ประสงค์ใดให้สมอารมณ์คิด สำเร็จกิจกลับมาอย่าช้านาน ฯ
๏ เถรขวาดรับคำแล้วอำลา ค่อยอยู่เถิดสีกากับพลายหลาน
ผุดลุกจากที่ตะลีตะลาน ออกทวารขึ้นวอจรจรัล
ศิษย์ถือร่มย่ามตามมาปร๋อ เลกวัดหามวอขมีขมัน
ครู่หนึ่งมาถึงกุฎีพลัน ขึ้นอัฒจันทร์เยื้องย่องเข้าห้องใน
ผลัดผ้าไตรกองครองผ้าเก่า ร้องเรียกเจ้าเณรจิ๋วเข้ามาใกล้
เอ็งคอยดูศิษย์หาต่างตาใจ กูจะไปอยุธยาธานี
ไปแก้แค้นแทนทดอ้ายพลายชุมพล จะทำเสียให้ป่นจนเป็นผี
สมคิดแล้วจะมาไม่ช้าที ในสิบห้าราตรีจะกลับมา
อยู่หลังกูจะสั่งให้เสร็จสรรพ คอยระวังนั่งนับวันไว้ท่า
ถ้าเห็นการนานเนิ่นเกินสัญญา อย่าช้าตามไปให้ทันที ฯ
๏ ครานั้นเณรจิ๋วคนฉลาด ฟังเถรขวาดนึกพรั่นขวัญหนี
นี่อย่างไรพระครูอยู่ดีดี จะวิ่งรี่ตั้งหน้าไปหาภัย
คิดพลางทางตอบพระอาจารย์ จะฮึกหาญไปอย่างนี้หาดีไม่
อ้ายชุมพลคนคะนองมันว่องไว เราเคยได้เห็นชัดถนัดตา
ฤทธิเดชเวทมนตร์กลใดใด ที่พระครูทำได้มันไวกว่า
คนดีมีไม่สิ้นอยุธยา อย่าชะล่าใจนักจักเสียที
เมื่อแก่เถ้าเข้าเรือนแปดสิบปลาย แสนสบายยศศักดิก็ถึงที่
อยู่ไปได้อิกสักกี่ปี ถึงเพียงนี้ไม่รู้จักรักสบาย
นั่งกินนอนกินจนสิ้นชีวิต ใครควรคิดพยาบาทมาดหมาย
จะไปไยให้ยากลำบากกาย อยู่ตายในเชียงใหม่ได้เข้าเมรุ ฯ
๏ เถรขวาดฟังว่านั่งหน้านิ่ว ทุดอ้ายจิ๋วขี้ขลาดประมาทเถร
ถืออ้ายพลายฝ่ายเดียวเจียวเจ้าเณร กูไม่จัดชัดเจนฤๅออย่างไร
ถึงมีฤทธิเรี่ยวแรงแข็งเป็นเหล็ก มันก็เด็กเล็กลูกกะหำใส
มันจะรู้ลึกซึ้งถึงเพียงใด ปากไอยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
เพราะมึงขลาดพลาดให้มันจับตัว เลยหดหัวกลัวมันเป็นกุ้งต้ม
หากกูเมางัวเงียเสียอารมณ์ ว่าคาถาอาคมจึงฟั่นเฟือน
ถ้าดีอยู่อย่างนี้แล้วที่ไหน จะฟันให้คอขาดลงกลาดเกลื่อน
เอ็งอยู่ดูกุฎีสักครึ่งเดือน ถ้าเห็นช้าอย่าเชือนรีบไปตาม ฯ
๏ เณรจิ๋วขนพองสยองหัว นึกกลัวเถรขวาดไม่อาจห้าม
ประนมมืออวยพรอ่อนตาม ให้สมความคิดไว้ไปเถิดซิ
ไชยะให้ชนะพลายชุมพล ให้เล่ห์กลสมหวังดังดำริ
ให้ฟุ้งเฟื่องเรืองฤทธิประสิทธิ ฉันจะอยู่ดูกุฎิต่างหูตา ฯ
๏ พระครูเถรฟังเณรอนุญาต ถูกใจสังฆราชหัวเราะร่า
ด้วยคราวนั้นเถรขวาดขาดชะตา ให้นึกว่าได้ทีไม่มีแพ้
จึงหยิบเครื่องรณรงค์ยงยุทธ สายตะกรุดประคำทองของเก่าแก่
มงคลคุ้มเสนียดประเจียดแพร ปรอทแร่เครื่องรางอย่างสำคัญ
ยัดใส่ย่ามน้อยห้อยหัวไหล่ ผลัดสบงทรงสไบเข้าให้มั่น
ห่มดองแล้วคาดราตคดพัน ตรงเข้าที่อัฒจันร์วันทาลา
จับไม้เท้าก้าวเยื้องขยับกาย เห็นจิ้งจกตกตายลงต่อหน้า
นกแสกแถกเสียดศีรษะมา หลวงตานิ่งขึงตะลึงคิด
เอ๊ะอย่างไรท่าทางเป็นลางร้าย ระงับกายกลับนั่งลงตั้งจิตร
หลับตาร่ายคาถาแก้นิมิต ขยับยืนยักทิศไปอุดร
ก้าวลงอัฒจันทร์ถึงชั้นล่าง งูเห่าลางเลื้อยฟู่ชูหัวร่อน
แผ่แม่เบี้ยขวางทางหนทางจร เถรเห็นสังหรณ์เป็นลางร้าย
กอดอกยกเมฆดูนิมิต ก็วิปริตเป็นรูปคนหัวหาย
จะยกต่อคอแขนไม่ติดกาย เถรสำคัญมั่นหมายไม่คืนมา
ครั้นจะถอยสร้อยฟ้าจะว่าขลาด เป็นชาติลูกผู้ชายตายดาบหน้า
กัดฟันกลั้นใจแล้วไคลคลา ตรงเข้าป่าช้าด้วยทันที
ขัดสมาธิสมาธิสติมั่น ปลุกเสกเลขยันต์น้ำมันผี
ครั้นสำเร็จเสร็จแสร้งแปลงอินทรีย์ รูปตาชีก็หายกลายเป็นแร้ง
สองเท้าถีบดินบินกระโชก หางโบกหัวเกลี้ยงเหนียงแกว่ง
ปากมุ้มมู่ทู่สองหูแดง ลมแรงร่อนมุ่งกรุงอยุธยา ฯ
๏ โผลงตรงเหนือเมืองอ่างทอง พอเยื้องคลองบางแมวเป็นแนวป่า
แร้งหายกลายรูปเป็นหลวงตา ลงนั่งนิ่งภาวนาร้อยแปดที
เสกไม้เท้าต่อหางที่กลางตัว แล้วเอาบาตรสวมหัวเข้าเร็วรี่
เผ่นโผนโจนผางกลางนที ก็กลายเป็นกุมภีร์มหิมา
เขี้ยวขาวยาวออกนอกปากโง้ง ฟาดโผงร้องเพียงเสียงฟ้าผ่า
โตใหญ่ตัวยาวสักเก้าวา ขึ้นวิ่งร่าหลังน้ำด้วยลำพอง
ท่านผู้ฟังถ้วนหน้าอย่าสงสัย เดิมจะได้ตั้งย่านเป็นบ้านช่อง
เพราะเถรขวาดแปลงกายร้ายคะนอง จึงเรียกบ้านจระเข้ร้องแต่นั้นมา
เดี๋ยวนี้มีหลักแหล่งแขวงอ่างทอง บ้านช่องเป็นปึกแผ่นยังแน่นหนา
ตั้งนามตามนิทานเพราะขรัวตา จึงได้ปรากฏตำบลจนทุกวัน ฯ
๏ ครานั้นกุมภาหลวงตาขวาด เอาหางฟาดเฟือยฝั่งดังสนั่น
ใหญ่ยาวราวพระยาชาละวัน ครื้นครั่นสนั่นก้องลำพองกาย
เหล่าจระเข้เก่าเป็นเจ้าถิ่น บ้างมุดดินซ่อนตัวซุกหัวหาย
บ้างลงหนองหนีตัวด้วยกลัวตาย บ้างตะกายขึ้นบกมุดรกไป
พ้นบ้านตลาดกรวดรวดเร็วมา ควายช้างขวางหน้าเข้าไม่ได้
ฟาดฟัดกัดตายก่ายกันไป เลยไล่ล่องน้ำร่ำลงมา
ครู่หนึ่งถึงหน้าเมืองอ่างทอง โบกหางครางร้องคะนองร่า
พอชาวบ้านลงตะพานมาล้างปลา เข้าคาบคร่าลงน้ำแล้วดำทวน
โบกหางวางทะลึ่งขึ้นครึ่งกาย ชูศพขึ้นถวายพระอิศวร
คาบผีรี่มาที่หน้าจวน ฟัดฟาดขาดด้วนกระเด็นไป
รั้วแขวงกรมการชาวบ้านช่อง วิ่งร้องตัวสั่นอยู่หวั่นไหว
เห็นจระเข้คาบคนบนบันได เอาออกไปฟาดผางกลางคงคา
ฝูงคนบนตลิ่งวิ่งสอสอ มดหมออยู่ที่ไหนก็ไปหา
หมอที่ไม่มีครูงูงูปลาปลา นึกจะมาแทงเล่นอย่างเช่นเคย
ที่หมอเก่าเข้าใจไปห้ามกลุ้ม เมินเสียเถิดเจ้าหนุ่มเหล่านี้เอ๋ย
จระเข้นี้ใหญ่อย่าไปเลย เอาคางเกยก็จะล่มจมน้ำไป
เหมือนอย่างคำบุราณท่านย่อมว่า ถ้าสามวาแล้วมีฤทธินิมิตได้
นี่มันเกินสามวากว่าขึ้นไป เวทมนตร์เห็นจะไม่ถึงใจมัน
อ้ายลางคนเห็นจริงวิ่งกลับมา ได้ยินว่านึกกลัวจนตัวสั่น
ลางคนเชื่อฝีมือยังดื้อดัน ถึงชาละวันก็เล่นจะเป็นไร
ถือชนักหยักรั้งนั่งหัวเรือ คนข้างท้ายพายเฝือหาหยุดไม่
จระเข้ท่องฟ่องฟูคอยดูใจ พอเข้าใกล้เพื่อนก็พุ่งผลุงกระท้อน
ซ้ำใส่เข้าอิกเล่มให้เต็มแรง จระเข้แว้งเอาชนักหักสองท่อน
สิ้นชนักชักหอกตอกกะดอน จระเข้ย้อนกลับมาอ้าปากแดง
เรือหมอพายมาสามวาปลาย กับคนพายห้าเล่มล้วนเข้มแข็ง
จระเข้งับปับเดียวด้วยเรี่ยวแรง ทั้งเรือคนป่นเป็นแป้งเข้าปากไป
เรือคนหกนายพายห้าเล่ม ยังไม่เต็มแก้มดีกุมภีล์ใหญ่
เอาไปดำสำรอกเสียทันใด กดลงไว้ใต้น้ำดำเลยมา
ผู้คนบนตลิ่งวิ่งสอสอ เห็นจระเข้กินหมอเสียหนักหนา
ต่างคนย่นย่อไม่รอรา ฉาวฉ่าไปทุกแห่งแขวงอ่างทอง
เขมรมอญลาวชาวป่าดอน ฦๅกระฉ่อนไปทั้งหมดสยดสยอง
ไม่อาจลงอาบน้ำในลำคลอง จระเข้ล่องเลยมาในสาคร ฯ
๏ ถึงที่เปลี่ยวเหลียวดูไม่เห็นเรือน ค่อยค่อยเลื่อนลอยไปเหมือนไม้ขอน
ถ้าเห็นบ้านเรือนคนที่บนดอน ก็ทำอิทธิ์ฤทธิรอนเข้ารุกราน
พอจวนรุ่งเที่ยวมาหาที่เปลี่ยว เถรเที่ยวบิณฑบาตที่บนบ้าน
ได้จังหันฉันแล้วตะลีตะลาน โจนลงชลธารเป็นกุมภา
ถ้าบ้านไหนเถรได้บิณฑบาต บ้านนั้นเป็นอันขาดไม่เข่นฆ่า
ไม่รีบรัดค่อยค่อยลอยล่องมา ปรารถนาจะให้เรื่องนั้นเลื่องฦๅ
ถึงบ้านแหแร่ร้องก้องกระหึ่ม รางควานพึมพูดกันสนั่นอื้อ
ครั้นมาถึงย่านบ้านสะตือ ก็มุดน้ำดำทื่ออยู่ใต้น้ำ
พอชาวบ้านเลิกนากลับมาเรือน ลงล้างเปื้อนที่ตีนท่าอยู่คลาคล่ำ
เถรก็ผุดผลุดโผล่ขึ้นจากน้ำ ตะกายย่ำขึ้นบนโคลนโจนกระโจม
เข้าไล่คนปากกัดหางฟัดฟาด ทำอำนาจราชศักดิเข้าหักโหม
ได้สามคนคาบตรงลงน้ำโครม ถาโถมถีบดำล่องน้ำไป
ทำอำนาจฟาดฟัดกัดขบ ซ่อนศพเสียทั้งสิ้นหากินไม่
ขบกัดขัดเสียที่รากไทร แล้วเลยไล่ล่องน้ำร่ำตะบึง
เที่ยวท่องล่องโร่มาโพธิสระ ปะหลวงตาบิณฑบาตฟาดดังผึง
ขบกัดสะบัดเถรขึ้นเลนตึง บนตลิ่งวิ่งอึงทั้งหญิงชาย
เรือแพใหญ่น้อยถอยเข้าคลอง ไม่อาจล่องลอยน้ำระส่ำระสาย
พ่วงกันพันพัวด้วยกลัวตาย จระเข้ร้ายถึงย่านบ้านระกำ
มาถึงนั่นตะวันพอตกบ่าย เข้าไล่ควายลงท่าออกคลาคล่ำ
จระเข้ท่องล่องลอบมาใต้น้ำ ดำลอดไปทะลึ่งขึ้นกึ่งกลาง
ควายเปลี่ยวเลี้ยวขวิดด้วยเขาขวับ จระเข้งับคอขาดฟาดด้วยหาง
คาบควายว่ายวู่ชูลูกคาง สะบัดขว้างขึ้นบกตกบนโคลน
คนบนบกหกล้มลงจมเลน จระเข้เถรขึ้นบกทำผกโผน
เข้าไล่คนบนตลิ่งวิ่งออกโซน ถึงท้ายคุ้งพุ่งโจนลงน้ำครืน
ทำอำนาจฟาดหางอยู่กลางน้ำ โผมุดผุดดำน้ำเป็นคลื่น
คนบนบกหกล้มลงทั้งยืน กำลังตื่นวิ่งทะลึ่งออกตึงตัง ฯ
๏ มาถึงบางเทวาท้ายป่าโมก จระเข้โบกหางหันเข้าแฝงฝั่ง
ที่นั่นน้ำลึกนักตระพักพัง เข้าเฟือยฟังแยบคายอยู่ท้ายวัด
เป็นเทศกาลชาวบ้านมาไหว้พระ เสียงเอะอะเรือแพออกแออัด
แข่งกันไปมาอยู่หน้าวัด บ้างซัดเพลงปรบไก่ใส่เพลงเรือ
นางสาวสาวโอ่อวดประกวดกัน ห่มสีสันม่วงไหมล้วนใส่เสื้อ
เอาโตกตั้งทั้งคู่อยู่ท้ายเรือ บ้างปูเสื่อปูหนังตั้งหมอนอิง
เจ้าหนุ่มหนุ่มรักสนุกมาทุกบ้าน ดาดเพดานตลอดลำทำสุงสิง
ปูเสื่ออ่อนหมอนขวางมาตั้งอิง พายเที่ยวเกี้ยวผู้หญิงรอบรอบไป
เรือเจ้าพวกขี้เมาขวดเหล้าวาง โต๊ะจีนตั้งกลางเอาแกล้มใส่
เอาดอกดาวเรืองร้อยห้อยหูไว้ ล้วนแต่ตัดผมใหม่ใส่ขาวม้า
เจ้าเณรพระสงฆ์ลงเรือโขน ยาวโยนเกรียวกราวอยู่ฉาวฉ่า
ยังพวกนางสาวสาวชาวแม่ค้า ผัดหน้ากันไรใส่เสื้อแพร
ขายกล้วยทอดส้มขนมจีน เอาโตกตีนช้างตั้งไว้แต่งแง่
ผู้คนบนวัดก็อัดแอ เรือพ่วงกันเป็นแพออกแซ่เซ็ง
พวกหัวไม้ลอยชายออกกกรายกรีด เหน็บมีดขวานคร่ำทำก๋าเก่ง
เข้าในวัดยัดเยียดเบียดตะเบ็ง สาวสาวกลัวนักเลงลงนาวา ฯ
๏ ครานั้นกุมภาหลวงตาขวาด เห็นเรือดาษไปทั้งแดนออกแน่นหนา
ออกจากเฟือยเลื้อยดำใต้น้ำมา ทะลุถลาโลดผางขึ้นกลางคน
ตีนตะกายปากกัดหางฟัดฟาด ตัวขาดคอพับลงยับย่น
เกรียวกรีดหวีดวิ่งออกอลวน โจนประจญเรือล่มจมระเนน
ปะแม้ค้าขนมจีนฉวยตีนลาก มันเคยปากร้องว้ายควายตาเถร
โดดขึ้นบนตลิ่งวิ่งร้องเกน ลุยเลนผ้าหลุดฉุดแต่ชาย
จระเข้ตรงเข้าในวงเพลงครึ่งท่อน ผู้หญิงทิ้งผ้าผ่อนล้มนอนหงาย
สิ้นสติลืมตัวด้วยกลัวตาย เวยวายวิ่งเม้าเป็นเต่านา
พวกเจ้าเพลงผู้ชายก็วายวุ่น โดดผลุนวิ่งแต้ทั้งแก้ผ้า
อารามกลัวโทงเทงปุเลงมา โดนเอานางเต่านาเข้าต้ำปึง
หญิงล้มชายคะมำคว่ำลงไป ผลักไสเหวี่ยงวางอยู่ผางผึง
หญิงดิ้นชายดันกันตะบึง รู้สึกกายอายทะลึ่งไปจากกัน
จระเข้คาบได้นางแม่ค้า ทำศักดาโดดดำแม่น้ำลั่น
อมแต่หัวตัวออกไว้นอกฟัน คนบนบกอกสั่นทุกคนไป
จระเข้คาบผู้หญิงวิ่งแหวกว่าย ชูถวายพระอิศวรทวนน้ำไหล
เห็นแต่คนก้นขาวเท้าแกว่งไกว จนใจไม่อาจแก้แต่สักคน ฯ
๏ จระเข้ล่องมาทางบางโผงเผง เห็นฝูงเป็ดฟาดเป้งลงตายป่น
ผุดดำร่ำมาในสาชล จนกระทั่งบ้านกุ่มซุ่มในรก
นางสาวสาวชาวบ้านมาอาบน้ำ ขรัวตาดำเข้าไปโผล่โผผงก
หวีดผวาผ้าหลุดมุดเข้ารก เอามือปกเป็นจับปิ้งวิ่งขึ้นตะพาน
จระเข้ไม่ทำดำต่อมา คนระอาออกชื่อฦๅทุกบ้าน
ล่องเลยลงมาหน้าบางบาน ตรงเข้าบ้านผีมดกดเอากระบือ
อ้ายมะเดื่อเงื้อถ่อขึ้นแทงปราด จระเข้ฟาดหัวเด็ดกระเด็นปรื๋อ
อีเม้ยโดดดิ้นแหยวแจวหลุดมือ ร้องอึงอื้ออุยย่ายตะกายกะกุย
ถึงหัวตะพานกบเจาเข้าบ้านตึก ไล่สะอึกเอาผู้หญิงวิ่งผ้าลุ่ย
ลงลุยเลนเบนว่ายกระจายกระจุย โคลนมันดูดปรูดปรุยเปรอะทั้งกาย
ความกลัวกุมภาประดาเสีย ปลกเปลี้ยตีนอ่อนลงนอนหงาย
ข้างเจ้าผัวกลัวเมียจะล้มตาย มือตะกายเสือกก้นขึ้นบนดอน ฯ
๏ ตั้งแต่อ่างทองสองฟากท่า กลัวกุมภาทั่วหมดสยดสยอน
เรือแพก็ขยาดไม่อาจจร ฦๅกระฉ่อนชาวบ้านสะท้านใจ
มดหมอมาดูก็สั่นหัว ด้วยเห็นตัวกุมภานั้นโตใหญ่
แต่ชั่วปู่ชั่วย่ามาแต่ไร ก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนเช่นนี้
โจษกันจอแจออกแซ่ซ้อง เถรก็ล่องมากระทั่งถึงกรุงศรี
ฟาดฟันกัดคนเป็นภัสม์ธุลี ชาวบุรีเล่าฦๅอื้ออึงไป
แล้วเลยลงมาหน้าบ้านป้อม แกคอยด้อมดอดฉวยเอาคนได้
ขบกัดขัดเสียที่รากไทร แล้วเลยไล่เรือมาภูเขาทอง
คนเห็นกุมภานั้นกล้าหาญ ชายหญิงวิ่งพล่านทุกบ้านช่อง
ถึงแพเจ๊กจอดหน้าท่าการ้อง ขึ้นคาบเมียเจ๊กจ๋องเจ้าน้ำมัน
อ้ายผัวร้องไอ๊ย่าวิ่งมาช่วย จระเข้ฉุดเจ๊กฉวยบั้นเอวมั่น
จนผ้าผ่อนล่อนลุ่ยจากพุงพัน อ้ายผัวหันหน้าจ้องร้องไห้งอ
จระเข้เถรเห็นเจ๊กมันร้องไห้ นึกขันกลั้นไม่ได้ก็หัวร่อ
พอปากอ้าเจ๊กคร่าไม่รารอ เมียก็พอหลุดได้ไม่ถึงตาย
จระเข้ลงจากแพแร่เร็วมา พบแม่ค้าคอนของมาร้องขาย
พอร้องเหนอผุดเถ่อขึ้นข้างท้าย ตีนตะกายปากกัดฟัดระยำ
เรือนางญวณยืนแจวแหยวแหยวมา จระเข้คว้าแจวปับงับขย้ำ
แว้งผางหางฟาดลงกลางลำ ญวนคะมำล้มอักคร่อมหลักแจว
ทะลุมิดติดหลังชักไม่ไหว เลือดไหลรินรินลงดิ้นแด่ว
อ้ายเจ้าผัวตกประหม่าตาแบ้งแบว ร้องแต่แจ๊วกำจุ่นหมุนอยู่ในเรือ
ชาวเรือแพชุลมุนวุ่นวาย จระเข้ฉิบหายร้ายกว่าเสือ
ใครไม่อาจค้าขายลงพายเรือ เรือเหนือใหญ่น้อยถอยเข้าคลอง
จระเข้เถรเห็นคนพากันกลัว ขึ้นลอยตัวผ่านมาหน้าบ้านช่อง
แว้งหางกลางน้ำทำคะนอง ลอยล่องเลยมาหน้าตำหนักแพ
พวกข้าราชการสะท้านใจ เจ๊กลาวแขกไทยก็เซ็งแซ่
ริมตลิ่งเยียดยัดอยู่อัดแอ ตำรวจแร่วิ่งเหย่าเข้าวังใน
บ้างตรงมาที่ศาลาลูกขุน ไปกราบเรียนเจ้าคุณท่านผู้ใหญ่
ว่ามีกุมภากล้าเหลือใจ มาเที่ยวไล่นาวาหน้าโรงเรือ
มันยาวใหญ่ได้ประมาณสักสิบวา ฦๅข่าวเล่าว่ามาแต่เหนือ
เที่ยวกินสัตว์กัดคนจนเป็นเบือ เห็นโตเหลือเกินขนาดชาติกุมภา ฯ
๏ ครานั้นท่านเจ้าคุณอธิบดี ได้ยินว่ากุมภีล์นั้นเหลือกล้า
กระทำฤทธิกินคนจนพารา ต้องกราบทูลพระกรุณาฝ่าธุลี
คิดพลางทางนุ่งผ้าสมปัก ชักผ้ากราบพันขมันขมี
เข้าท้องพระโรงพลันอัญชลี กราบทูลพระภูมีมิได้ช้า
ขอเดชะพระองค์ผู้ทรงเดช ปิ่นปักนัคเรศนาถา
บัดนี้เกิดมีซึ่งกุมภา ลงมาแต่เหนือว่าเหลือร้าย
แต่ศีรษะยาวกว่าห้าศอกเศษ ทำฤทธิเดชกินคนเสียมากหลาย
เข้ามาลอยล่องลำพองกาย ขึ้นว่ายทวนคงคาหน้าโรงเรือ ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงฤทธิ สำคัญคิดว่ากุมภามาแต่เหนือ
เที่ยวกินสัตว์กัดคนป่นเป็นเบือ มันใหญ่เหลือขนาดชาติกุมภีล์
ละไว้ไพร่บ้านพลเมือง จะขุ่นเคืองยับยุ่งทั้งกรุงศรี
จึงดำรัสตรัสสั่งอธิบดี ให้หาหมอกุมภีล์ที่สำคัญ
ทั้งหมอหลวงเชลยศักดิให้หนักหนา ช่วยกันจับกุมภามาห้ำหั่น
ใครจับได้กูจะให้ซึ่งรางวัล อย่าให้มันหนีได้ไปเดี๋ยวนี้ ฯ
๏ ท่านเจ้าคุณผู้ใหญ่ได้รับสั่ง บังคมคล้อยถอยหลังออกจากที่
สั่งกรมเมืองพลันในทันที ให้หาหมอกุมภีล์ที่สำคัญ
กรมเมืองรีบมาเที่ยวหาหมอ สอสอหมอมาขมีขมัน
ดีใจอยากได้ซึ่งรางวัล สำคัญว่ากุมภีล์ที่เคยแทง
เอาเครื่องคาดพุงนุ่งสนับเพลา ราตคดคาดเข้าให้เข้มแข็ง
มงคลสวมศีรษะทะมัดทะแมง ถือชนักกวัดแกว่งลงนาวา
พร้อมกันทันทียี่สิบลำ เหนือน้ำใต้น้ำขนานหน้า
ประนมมือถือชนักนั่งจังกา ภาวนาสาดน้ำร่ำเข้าไป ฯ
๏ ครานั้นกุมภาหลวงตาขวาด ไม่ขยาดอาคมหาจมไม่
ดูหมอมันจะมาทำท่าไร แกล้งลอยฟูดูใจไม่ไหวตัว
พวกหมอออกขยาดไม่อาจใกล้ เห็นยาวใหญ่ให้ขยั้นสั่นหัว
เขี้ยวงอกกลอกตาดูน่ากลัว บ้างโย้ตัวเยื้องพุ่งแต่ไกลไกล
กูพุ่งเอ็งพุ่งเสียงผลุงผลัง กระทบหนังกระท้อนเปล่าหาเข้าไม่
เปลี่ยนลำพุ่งซ้ำกระหน่ำไป เถรแกล้งนิ่งไว้ให้สิ้นชนัก
หมอเห็นจระเข้นิ่งยิ่งเข้าใกล้ ชักหอกแทงไปจนกั่นหัก
ไม่เข้าหนังสักนิดผิดใจนัก ราวกับพุ่งซุงสักสิ้นกำลัง ฯ
๏ ครานั้นกุมภาหลวงตาเวท สำแดงเดชโดดปราดฟาดปั๋งปั๋ง
แว้งวัดฟัดขย้ำด้วยกำลัง เรือแตกพังระทมล่มทุกลำ
ชุลมุนหมุนกลมดังลมกรด พวกหมอมดทั้งหลายลงว่ายคล่ำ
แว้งผางหางฟาดขาดระยำ ตายระทมจมน้ำสิ้นทุกคน
ฝูงคนบนตลิ่งทั้งหญิงชาย เห็นพวกหมอทั้งหลายตายเกลือนกล่น
สยดสยองพองหัวทุกตัวคน จระเข้ไม่ฟังมนตร์เห็นพ้นคิด
พวกขุนนางน้อยใหญ่ที่ไปดู ก็เต้นอยู่บนตะพานสะท้านจิตร
บ้างก็วิ่งมาเฝ้าเจ้าชีวิต กราบทูลมูลกิจพระโองการ ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงเดช ทราบเหตุว่ากุมภานั้นกล้าหาญ
มดหมอมากมายก็วายปราณ ดูอาการวิปริตผิดท่วงที
จระเข้อะไรใหญ่นักหนา อาจองลงมาจนถึงนี่
สิ้นมือหมอมดหมดธานี ไม่เคยเห็นเช่นนี้แต่ก่อนมา
กวักพระหัตถ์ตรัสเรียกจมื่นไวย เฮ้ยอย่างไรกุมภีล์นี้เหลือกล้า
เอ็งสิเป็นคนดีมีวิชา จะคิดอ่านเข่นฆ่ามันอย่างไร ฯ
๏ ครานั้นพระไวยวรนาถ ชาญฉลาดตรึกตราหาช้าไม่
จระเข้นี้มีฤทธิเห็นผิดใจ จะมิใช่กุมภาที่สามัญ
อย่าเลยจะกราบทูลฉลอง เปิดช่องให้ชุมพลคนขยัน
ให้ได้มีความชอบประกอบครัน คิดแล้วเท่านั้นก็ทูลไป
ขอเดชะพระองค์ทรงธรณี จระเข้จริงเช่นนี้หามีไม่
ทำศักดากล้าหาญชาญชัย ทั้งโตใหญ่เกินขนาดชาติกุมภา
จะเป็นจระเข้มนตร์ของคนร้าย จึงฆ่าหมอล้มตายเสียหนักหนา
จะให้พลายชุมพลผู้น้องยา ไปพิเคราะห์กุมภาดูสักที ฯ
๏ ได้ทรงฟังสั่งซ้ำมาบัดดล เอออ้ายพลายชุมพลเข้ามานี่
แต่ถวายตัวมาก็หลายปี ยังไม่มีธุระจะได้ใช้
มึงก็เป็นพงศ์เผ่าเหล่าทหาร ดูลาดเลาเอาการจะใช้ได้
คราวจับเถรทดลองก็ว่องไว เมื่อพ่อให้ก็บอกว่ามึงดี
อ้ายกุมภากล้าคนพ้นประมาณ ไล่สังหารผู้คนเสียป่นปี้
อย่านอนใจลงไปดูสักที ว่ามันเป็นกุมภีล์ชนิดไร ฯ
๏ ชุมพลรับโองการคลานถอยหลัง รีบออกจากวังหาช้าไม่
มาถึงตำหนักแพแลลงไป เห็นจระเข้โตใหญ่มหิมา
ฟูฟ่องล่องลอยอยู่หลังน้ำ ทำทีอาการเห็นหาญกล้า
เจ้าพลายเพ่งพินิจพิจารณา เห็นผิดเพศกุมภาตามธรรมเนียม
เหมือนชาติไก่กับงูดูตีนเห็น เป็นจระเข้วิชาการจึงหาญเหี้ยม
เข้าใจว่าใครไม่รู้เทียม ทีเลียมมาจะเล่นอยุธยา
ครั้นแจ้งประจักษ์ตระหนักใจ ก็รีบไปทูลองค์พระพันวษา
ขอเดชะพระองค์ทรงฤทธา เห็นมิใช่กุมภาในวารี
มันเป็นจระเข้มนตร์คนมารยา แปลงมาลองทหารในกรุงศรี
จึงมิได้ย่อท้อหมอกุมภีล์ เห็นจะเป็นคนดีมามั่นคง
ถ้าทรงพระกรุณาข้าพระบาท อนุญาตโปรดตามความประสงค์
จะขอรับอาสาฝ่าบทบงสุ์ ลงไปรบรับจับมันมา ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ได้ทรงฟัง ทรงพระสรวลร่วนดังอยู่เริงร่า
กระนั้นสิอ้ายชุมพลคนวิชา ต้องอาสาทำชอบน่าขอบใจ
ถ้าจับได้ไอ้จระเข้ตัวสำคัญ กูจะให้รางวัลเป็นไหนไหน
อ้ายพี่ชายอย่าช้าพากันไป พ่อมันนั้นไซร้ก็อยู่กรุง
ช่วยกันเตรียมเครื่องอานการรบสู้ ไปคอยกูที่แพแต่ย่ำรุ่ง
เล่นมันให้ฦๅเลื่องเฟื่องฟุ้ง พรุ่งนี้กูจะลงไปดู ฯ
๏ ครานั้นพี่น้องทั้งสองนาย กราบถวายบังคมลามาทั้งคู่
บ่าวไพร่ตามหลังมาพรั่งพรู ออกประตูไปบ้านพระกาญจน์บุรี
ครั้นถึงจึงแจ้งข้อรับสั่ง เล่าให้พ่อฟังเป็นถ้วนถี่
เดี๋ยวนี้มีกุมภากล้าฤทธี มาไล่คนจนที่หน้าโรงเรือ
มดหมอเท่าไรที่ไปทำ มันฟาดล่มจมน้ำไม่มีแหลือ
แล้วขบกัดฟัดตายเสียเป็นเบือ ชุมพลดูรู้เชื่อว่าคนแปลง
ได้ช่องน้องชุมพลจึงอาสา รับจะจับกุมภาที่กล้าแข็ง
โปรดให้บอกคุณพ่อช่วยขอแรง ตกแต่งชุมพลไปราวี ฯ
๏ ครานั้นขุนแผนแสนสนิท ทราบรับสั่งนั่งคิดเป็นถ้วนถี่
แล้วชวนลูกว่าอย่าช้าที มาไปที่บ้านพระไวยไปด้วยกัน
ครั้นถึงจึงสั่งศรีมาลา ให้จัดหาบัตรพลีทุกสิ่งสรรพ์
เครื่องอานเรียกหาเอามาพลัน แป้งน้ำมันกระแจะเจิมเฉลิมพักตร์
ที่ในห้องหอพระจมื่นไวย ให้จัดธูปเทียนไว้ดอกไม้ปัก
มีดหมอเปลี่ยนปลอกหอกชนัก พร้อมพรักเรียบเรียงไว้เคียงกัน
ให้ชุมพลชำระสระสนาน ขุนแผนอ่านคาถาเสกอาถรรพ์
ลูบไล้ว่านยาทาน้ำมัน คงกระพันเขี้ยวงาสารพัด
พอแสงทองพวยพุ่งจะรุ่งเช้า ชุมพลเข้าหอพระที่สงัด
นิ่งนั่งบริกรรมทำอาพัด อัดใจเป่าปลุกเครื่องสาตรา
เดชะพระเวทวิทยาการ สะเทื้อนสะท้านด้วยฤทธิพระคาถา
ชุมพลเห็นประสิทธีก็ปรีดา จึงแต่งตัวลงมาที่หน้าเรือน
ขุนแผนพระไวยพลายชุมพล ทั้งสามคนรีบมาข้าตามเกลื่อน
ตรงมาตำหนักแพไม่แชเชือน อยู่ริมเขื่อนคอยองค์พระทรงธรรม์ ฯ
๏ จะกล่าวถึงพระองค์ผู้ทรงฤทธิ ประจามิตรเกรงเดชทุกเขตขัณฑ์
สถิตแท่นแม้นมหาเวชายันต์ เสมอชั้นบัณฑุกัมพล์อมรินทร์
สาวสุรางค์นางบำเรอเสนอนารถ บำรุงราชรู้เชิงบันเทิงถวิล
นางสำรับขับเพลงบรรเลงพิณ บำเรอปิ่นปัถพีให้ปรีดา
ครั้นรุ่งเช้าเสร็จทรงสรงสนาน นางอยู่งานตั้งเครื่องกันพร้อมหน้า
ทรงระลึกนึกถึงเรื่องกุมภา ดำรัสว่าวันนี้จะลงแพ
ดูชุมพลมันประจญจับกุมภีล์ นางพวกนี้จะไปอย่าให้แซ่
พระสั่งเสร็จเสด็จลงสู่แพ ตำรวจแห่สองข้างทางกระบวน
ถึงประทับกับเกยเลยลีลาศ ขึ้นสู่อาสน์พระองค์ทรงพระสรวล
ขุนนางราบกราบก้มบังคมควร ทุกถ้วนล้วนเหล่าท้าวพระยา
พวกท้าวนางต่างพากันลงไป พวกนางในพร้อมหมดไม่ขาดหน้า
พระวงศาข้าละอองรองบาทา ทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายในไปพร้อมกัน
จึงตรัสว่าฮ้าเฮ้ยจมื่นไวย อ้ายชุมพลอยู่ไหนอย่างไรนั่น
พระไวยให้เรียกชุมพลพลัน คลานมาอภิวันท์ข้างพระไวย
รับสั่งถามเป็นกะไรไอ้ชุมพล จะจับจระเข้มนตร์ได้ฤๅไม่
ขอเดชะพระองค์ผู้ทรงชัย ถ้าไม่ได้เกล้ากระหม่อมก็ยอมตาย
เออกระนั้นสิว่าให้น่าฟัง มึงทำให้ได้ดังที่มาดหมาย
ถ้าแม้นมึงฆ่ากุมภาตาย อ้ายพลายเป็นรวยด้วยรางวัล ฯ
๏ พลายชุมพลคำนับรับสั่ง ถอยหลังลุกมาขมีขมัน
ให้ถอยแพเข้ามาที่ท่าพลัน อภิวันท์กราบงามลงสามลา
อธิษฐานนมัสการพระเป็นเจ้า จงปกเกล้าคุ้มภัยให้แก่ข้า
คุณพระธรณีพระคงคา คุณบิดรมารดาจงคุ้มครอง
ก้าวลงแพคนแลละลานจิตร ต่างคิดกลัวหมดสยดสยอง
ที่ผู้ใหญ่ให้พรออกแซ่ซ้อง ที่สาวแส้แลจ้องไม่วางตา ฯ
๏ ครานั้นโฉมเจ้าพลายชุมพล ฤทธิรณเหลือดีมีสง่า
โหงพรายรายรอบทั้งกายา ให้ปล่อยแพออกมาที่กลางชล
อ่านคาถาพระสยมภูวนารถ ลำเลิกชาติกุมภามาแต่ต้น
โปรดกำราบสาปให้อยู่เมืองคน และประทานพระมนตร์ปราบกุมภา
โอมอ้ายนักกระผุดอย่านิ่งนาน กูฤๅคือพระกาลจะมาฆ่า
พระอิศวรท่านใช้ให้กูมา ผลาญเอาชีวามึงขึ้นไป
โอมอ้ายนักกระผุดตัวไหนกล้า จงเร่งผุดขึ้นมาอย่าช้าได้
เสกข้าวสารปะรางควานแล้วซัดไป มึงกบดานอยู่ทำไมไอ้กุมภีล์
พรายใดที่ได้อยู่รักษา อย่าช้าถอยไปให้พ้นที่
เสกน้ำซ้ำสาดไปทันที พรายเถรต่างหนีลี้หลีกไป ฯ
๏ ครานั้นกุมภาขรัวตาขวาด แกไม่อาจกบดานนิ่งอยู่ได้
เห็นชุมพลบนแพแลขึ้นไป จริงเหมือนนึกตรึกไว้ก็ยินดี
อ้ายชุมพลมาให้ดังใจคิด กูจะเอาชีวิตให้เป็นผี
แกผุดฟ่องล่องลอยหลังนที พระพันปีแลตะลึงเป็นช้านาน
ผู้คนบนแพห้ามไม่หยุด มันถอยรุดลงมาจนหน้าฉาน
ที่ข้างในโขลนไล่ตะลีตะลาน ช่างหน้าด้านนี่กะไรไม่มีฟัง
เมื่ออยากดูแล้วก็นั่งจงฟังห้าม รูปงามงามสันจะลายเสียดายหลัง
ดูยิ่งห้ามยิ่งกล้าว่าไม่ฟัง นางชาววังเหล่านี้ไม่มีอาย ฯ
๏ ครานั้นชุมพลคนกล้า เห็นกุมภาผุดขึ้นดังใจหมาย
ผุดเหนือน้ำมันจะทำอันตราย อันแสนร้ายนี่มันรู้ว่ากูมา
จึงเสกด้ายสายสิญจน์เข้าสามเส้น ขะมักเขม้นพันมือไว้คอยท่า
มีดหมอเหน็บมั่นกับกายา ถือชนักตั้งท่าจะชิงชัย ฯ
๏ ครานั้นขรัวตาวิชาดี ได้ทีโถมมาหาช้าไม่
แพชุมพลดังจะล่มลงจมไป ละลอกใหญ่แต่ละลูกถูกกระเด็น
เสียงซ่าคนแซ่แพแทบหัก คึกคักตั้งตาคอยเขม้น
พวกจ่าโขลนร้องด่าอีหน้าเป็น ช่างทะเล้นนี่กะไรไม่ลื้นเลย
ชาวประชามาดูอยู่สลอน เขมรมอญพวกพม่าเสียงหวาเหวย
ญวณกะเหรี่ยงเจ๊กฝรั่งยังไม่เคย ไหนว่าเฮ้ยมึงกล้าก็มาดู
นางทวายอายเอียงเสียงแปร่งแปร่ง แมงขะแวงเฉมะราฉามะหลู
เจ้ามอญว่าอาละกูลทิ้งปูนพลู ลาวบ่ฮู้หันข้อยยั่นจริง
ผู้คนมากมายหลายภาษา บ้างยืนนั่งตั้งตาริมตลิ่ง
เจ๊กกับแขกมันทะเลาะกันเพราะพริ้ง เสียงหนุงหนิงเหนอหนาน่าเอ็นดู
เจ้าแขกว่าเมาะโมหะโยเปาะ เจ๊กทะเลาะอั๊วละไหม่ไอ้มู่ทู่
พอจระเข้ขึ้นก็ตื่นพรู ยัดเยียดเบียดดูริมวารี ฯ
๏ ครานั้นเจ้าพลายชายชุมพล ฤทธิรณสามารถดังราชสีห์
เห็นกุมภามาใกล้ก็ได้ที แทงกุมภีล์ดังฉาดเลือดสาดไป
จระเข้เถรถูกแทงก็แว้งหาง เสียงโผงผางแพป่นไม่ทนได้
ชุมพลตกจากแพคนแซ่ไป พระทรงภพตกพระทัยพันทวี
ดำรัสร้องว่าอ้ายไวยอย่างไรหวา อ้ายกุมภาทับชุมพลลงกับที่
พวกขุนนางตกใจใช่พอดี พระไวยกราบสามทีแล้วทูลไป
ชุมพลไม่แพ้แก่กุมภา สักประเดี๋ยวคงคร่าขึ้นมาได้
พวกขุนนางต่างนึกไม่ไว้ใจ พวกข้างในเสียงแซ่แลตะลึง
สงสารสาวคราวรักชุมพลนั้น ให้พรั่นพรั่นหวั่นไหวอาลัยถึง
บ้างซ่อนหน้าร้องไห้ใจคะนึง พ่อพลายเมื่อไรจึงจะขึ้นมา ฯ
๏ ครานั้นโฉมเจ้าพลายชุมพล มุดน้ำดำทนด้วยคาถา
ชักมีดหมอต่อสู้กับกุมภา ข้างขรัวตาหักโหมโจมประจัญ
เอาหางฟาดฉาดรับด้วยมีดหมอ แกแว้งขบหลบล่อแล้วห้ำหั่น
เถรกดชุมพลกอดต้นคอพลัน เถรผุดชุมพลรันขึ้นขี่คอ
พระทรงภพตบพระเพลาเอาสิหวา ให้มันกล้าอย่างนี้สิลูกพ่อ
เอาให้มันสัจจังอย่ารั้งรอ พวกขุนนางต่างหัวร่อพลายชุมพล
ขุนแผนนั่งตั้งตากับพระไวย พวกข้างในวิ่งดูอยู่สับสน
เสียงคนฮาลั่นสนั่นชล ผู้ดีปนกับขี้ข้าไม่ว่าไร
พวกข้าหลวงต่างมองแล้วร้องมี่ พ่อชุมพลหล่อนช่างขี่จระเข้ได้
บ้างก็ว่าน่ากลัวมันสุดใจ ทั้งยาวใหญ่ดูราวสักเก้าวา
ฝ่ายโขลนจ่ามาห้ามมิให้แซ่ นี่แน่แม่อึงไปเขาจะด่า
ดูอะไรเขาให้ดูแต่ตา อย่ามาฮาอยู่ที่นี่รีบหนีไป ฯ
๏ ครานั้นเถรขวาดชาติกุมภีล์ ชุมพลขี่อยู่บนหลังหาลงไม่
แกแว้งเหวี่ยงเบี่ยงสะบัดด้วยขัดใจ ชุมพลได้ทีแทงด้วยแรงฤทธิ
ฉับฉับยับย่อยล้วนรอยแทง จนน้ำแดงดาษไปด้วยโลหิต
จระเข้เถรเหลือทนก็พ้นคิด พลางนิมิตด้วยพระเวทวิทยา
อ่านคาถาถ้วนคำรบร้อยแปดที เพศกุมภีล์ก็กลับเป็นมัจฉา
ชุมพลหายกลายเป็นสกุณา เที่ยวดำด้นค้นปลาในวารี
คนที่ดูพรูตื่นยืนสะพรั่ง ตำหนักแพเพียงจะพังลงกับที่
พระสนมกำนัลพวกขันที อึงมี่แซ่ซ้องริมท้องชล ฯ
ฝ่ายว่าพระองค์ผู้ทรงศักดิ์ รับสั่งซักพระนายเป็นหลายหน
อย่างไรนั่นมันหายทั้งสองคน อ้ายชุมพลแพ้ชนะประการใด
พระไวยตาจ้องดูน้องชาย รู้แยบคายไม่พะวงสงสัย
จึงทูลว่าไพรีแปลงหนีไป ชุมพลนั้นแปลงไล่ไปติดตัว
พอขาดคำก็เห็นเถรแปลงใหม่ เป็นช้างงาตัวใหญ่มิใช่ชั่ว
ขึ้นไล่คนแตกมาดูน่ากลัว ฝ่ายชุมพลแปลงตัวเป็นเสือพลัน
ตามขึ้นบนตลิ่งวิ่งไล่ช้าง โดดผางเกาะงวงเข้าไว้มั่น
ช้างสะบัดเสือกระเด็นเผ่นมาทัน พอช้างหันเสือปุบตะครุบคอ
พวกคนดูบ้างกลัวมัวจะหนี บ้างยืนดูอยู่กับที่ไม่ย่นย่อ
เสือเกาะได้ถนัดกัดที่คอ จนช้างงองวงร้องออกก้องไป
พวกขุนนางต่างพากันฮาลั่น พระทรงธรรม์ยังพะวงสงสัย
เสือฤๅช้างข้างเราหาออไวย ขอรับใส่เกล้ากระหม่อมพยัคฆา
เสือกัดช้างป่นจนยืนนิ่ง ช้างหายกลายเป็นลิงไปต่อหน้า
ชุมพลก็แกล้งแปลงกายา กลายเป็นงูเห่ากล้าเข้าราวี
ฝ่ายพวกคนดูรู้ว่าแปลง ต่างแทรกแซงจะดูอยู่ไม่หนี
ใครหนอแปลงเป็นลิงทำสิงคลี ถ้ามันดีก็ไม่พ้นชุมพลงู
ลิงสู้งูขบทบกระหวัด งูรัดเอาลิงลงกลิ้งอยู่
ลิงก็หายกลายเป็นขรัวตาครู ชุมพลหายจากงูเป็นคนไป
สองมือรวบรัดมัดเถรขวาด อ้ายอุบาทว์นึกว่ามาแต่ไหน
แล้วพามาหน้าที่นั่งในทันใด บังคมไหว้คอยสดับรับโองการ ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงศักดิ์ ปิ่นปักอยุธยามหาสถาน
เห็นได้ตัวเถรมาหน้าพระลาน ตบพระหัตถ์ฉัดฉานประภาษมา
เออมันน่าขอบใจอ้ายชุมพล ช่างกล้าหาญทานทนเป็นหนักหนา
ความชอบครั้งนี้มีเต็มประดา เอาเถิดหวาจะให้มึงให้ถึงใจ
แล้วทรงขัดเคืองชำเลืองแล ทุดอ้ายแก่โกโรกโหยกเหยกใหญ่
นี่มันเป็นชีบาประสาไร เที่ยวกัดกินคนได้ผิดมนุษย์
ตั้งหน้ามาเล่นเอากรุงไกร ดูกำเริบเติบใหญ่เป็นที่สุด
คงเป็นพวกทรยศคดประทุษฐ์ อุดหนุนกันให้แกล้งจำแลงมา
ฮ้าเฮ้ยจมื่นศรีเสาวรักษ์ เอาอ้ายเถรไปซักให้หนักหนา
อย่ากลัวบาปติดไม้ใส่ขื่อคา เอาให้ได้ความว่ามาทำไม
จะมีใครใช้สอยมันมาแน่ บ้านช่องข่องแขวมันอยู่ไหน
ตัวของมันชื่อเรียงเสียงไร เหตุใดจึงแกล้งแปลงอินทรีย์
สั่งแล้วเบือนพระพักตร์มาทักว่า ดูราพระกาญจน์บุรีศรี
อ้ายลูกชายพลายชุมพลคนนี้ ไม่เสียทีเลี้ยงไว้ให้กับกู
มันรู้เท่าเจ้าเล่ห์ที่แปลงมา แล้วอาสากล้ารับไปต่อสู้
ได้เห็นฤทธิ์ด้วยกันมันพอดู พอเป็นคู่กับอ้ายไวยใช้การงาน
ตรัสเสร็จพระเสด็จลีลาศ จากอาสน์คืนเข้าพระราชฐาน
พวกนางในเสนาข้าราชการ ก็เข้าวังกลับบ้านสำราญใจ ฯ
๏ ฝ่ายเหล่าชาวประชาพากันกลับ คั่งคับโจษกันสนั่นไหว
ชมชุมพลคนดีออกมี่ไป ช่างกะไรฤทธิ์เดชวิเศษครัน
อ้ายเถรเถ้าที่แกล้งจำแลงมา มันก็ตัวครูบาที่กล้ากลั่น
เอามดหมอถ่อพายตายตั้งพัน เขาขยันมัดกลิ้งเป็นลิงทโมน
บ้างว่ากูดูเพลินจนลืมลุก ช่างสนุกจริงจริงยิ่งกว่าโขน
บ้างว่าเห็นงูกูเกือบโจน มันเพนโพนมาใกล้ไม่ถึงวา
ฝ่ายพวกแขกฝรั่งทั้งจีนจาม ก็เดินชมกันตามเพศภาษา
ไม่เคยเห็นที่ไหนแต่ไรมา แต่เจ๊กว่าเมืองจีนนั้นเคยมี
เมื่อครั้งเกียงจูแหยแก้กลศึก ก็รบกันครั่นครึกกระบวนผี
แต่เป็นการนานช้ากว่าพันปี เราได้เห็นครั้งนี้เป็นบุญตา
ฝ่ายข้างพวกผู้หญิงริงเรือ บ่นว่าเบื่อรบพุ่งยุ่งหนักหนา
ให้เสียวไส้ไม่ดูได้เต็มตา เวทนาแต่เจ้าพลายชายชุมพล
รูปทรงบอบบางเหมือนอย่างเหลา กลัวอ้ายเถ้าเจ้ากรรมจะทำป่น
บ้างก็ว่าเป็นห่วงถึงบวงบน ให้หล่อนพ้นไภยันอันตราย
ที่สาวสาวนิ่งให้ผู้ใหญ่ว่า เดินก้มหน้ากรุ้มกริ่มยิ้มไม่หาย
จะพลอยพูดจาด้วยก็ขวยอาย ใจคะนึงถึงเจ้าพลายจนมาเรือน ฯ
๏ ครานั้นจมื่นศรีเสาวรักษ์ราช ชาญฉลาดว่องไวใครจะเหมือน
มาจากตำหนักแพไม่แชเชือน ร้องเตือนหลานชายพลายชุมพล
จงระวังเถรเถ้าเจ้ามารยา คุมมาอย่าให้ใครสับสน
แล้วสั่งตำรวจในให้ไล่คน มาจนที่นั่งหลังโรงเรือ
ให้เอาตัวขรัวตาเข้ามาถาม มึงบอกความตามจริงอย่าฟั่นเฝือ
ไยจึงมาฆ่าคนจนเป็นเบือ ใครไว้เนื้อเชื่อใจใช้มึงมา ฯ
๏ ครานั้นขรัวตานั่งหน้าเศร้า แถลงเล่าเสกแสร้งแกล้งมุสา
ไม่มีใครใช้สอยอาตมา นึกอยากดูอยุธยาก็มาเอง
พระหมื่นศรีว่าอ้ายนี่ไม่บอกจริง มันกลอกกลิ้งพูดโกงทำโฉงเฉง
ดูพาราฆ่าคนออกครื้นเครง อ้ายแสนเพลงไยไม่ตรงมาดีดี
คงจะมีผู้ใดใช้ลงมา ตำรวจเอาหลักคาเข้ามานี่
ตำรวจหน้าพากันวิ่งเป็นสิงคลี ปักหลักลงตรงที่โรงเรือพลัน
ทั้งโซ่ตรวนขื่อคาเอามาครบ พวกตำรวจเต้นหรบอยู่ตัวสั่น
ผูกเถรขวาดเข้าไว้เร่งไม้พลัน ห้อมล้อมหลายชั้นทั้งนอกใน ฯ
๏ จึงพระหมื่นศรีผู้ปรีชา ตั้งกระทู้ถามมาหาช้าไม่
จงแจ้งความตามจริงอย่านิ่งไว้ มึงอยู่ไหนใครใช้ให้มึงมา ฯ
๏ เถรเจ็บแจ้งจริงทุกสิ่งสิ้น ข้าอยู่เมืองเชียงอินท์พระเจ้าข้า
เดิมเป็นบ่าวสาวน้อยเจ้าสร้อยฟ้า ชื่อว่าเถรขวาดจงแจ้งใจ
ครั้นลงมาอยู่วัดพระยาแมน ชุมพลลูกขุนแผนจับมาได้
เขาจะฆ่าฟันให้บรรลัย จึงหนีไปเชียงอินท์ถิ่นอาตมา
จะมีใครใช้มาหามิได้ แค้นใจพลายชุมพลคนจับข้า
จึงได้แกล้งแปลงตัวเป็นกุมภา มากรุงศรีอยุธยาในครานี้
ด้วยคาดว่าถ้าใครไม่ต่อสู้ ชุมพลรู้คงอาสามาเร็วรี่
ถ้าหลงกลล่อลวงได้ท่วงที จะกดจมวารีให้บรรลัย
อันที่พระองค์ผู้ทรงยศ ข้าหาได้คิดคดขบถไม่
เป็นความสัตย์ทุกสิ่งจริงในใจ อันโทษทัณฑ์ฉันใดได้เมตตา ฯ
๏ ครานั้นพระหมื่นศรีมีศักดิ์ หัวร่อคักว่าอ้ายแก่แก้หนักหนา
มึงโกรธแค้นชุมพลคนวิชา ก็กินคนป่นมาด้วยเหตุใด
มิรู้ฤๅกำหนดบทพระอัยการ ฆ่าคนท่านประหารให้ตักษัย
มึงบังอาจทรยศขบถใจ แก้ไขป่วยการล้วนมารยา
แล้วสั่งให้เสมียนเขียนคำเถร พอจวนเพลก็เข้าพระโรงหน้า
เสด็จออกกราบทูลพระกรุณา ให้ทราบตามวาจาของตาชี ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงเดช ทราบเหตุใคร่ครวญเป็นถ้วนถี่
อ้ายนี่ไหนว่าตายเสียหลายปี เออเดี๋ยวนี้ทำไมไพล่กลับมา
ฮ้าเฮ้ยพระยาอนุชิต ช่างปกปิดปดกูได้ต่อหน้า
ว่าเถรเณรครั้งนั้นมรณา เดี๋ยวนี้กลับเป็นมาจะว่าไร
ท่านจางวางตำรวจไม่เงยหน้า เกรงพระราชอาญาจนเหงื่อไหล
กระหม่อมฉันโฉดเขลาเบาใจ ด้วยผู้คุมยามในว่าวอดวาย
ก็วางใจไม่พินิจพิจารณา ให้ไปทิ้งป่าช้าด้วยมักง่าย
ถ้ามิโปรดโทษมีถึงที่ตาย ทูลแล้วก็ถวายบังคมคัล ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงภพ ฟังจบตรัสไปทันใดนั่น
แต่นี้ไปให้ตั้งเป็นแบบบรรพ์ ถ้าหากคนโทษนั้นจะบรรลัย
ให้หมายบอกมหาดเล็กแลตำรวจ ออกไปตรวจเสียก่อนอย่าขาดได้
พร้อมกับกลาโหมมหาดไทย แล้วจึงให้เอาศพไปป่าช้า
แล้วจึงตรัสสั่งเจ้ากระทรวง ทั้งลูกขุนศาลหลวงจงพร้อมหน้า
ปรึกษาโทษเถรเถ้าเจ้ามารยา ว่ามาตามกำหนดบทพระอัยการ
ฝ่ายลูกขุนศาลาแลศาลหลวง ทุกกระทรวงปรึกษาว่าขาน
เถรขวาดโทษมหันต์อันธพาล ควรประหารให้สิ้นชีวาลัย
พระองค์ทรงฟังคำปรึกษา พระโองการสั่งมาหาช้าไม่
อ้ายนี่เจ้ามารยาอย่าไว้ใจ จงมอบให้อ้ายชุมพลเอาไปฟัน
สั่งเสร็จพระเสด็จขึ้นข้างใน นครบาลรีบไปขมีขมัน
หมายบอกรับสั่งพระทรงธรรม์ เถรนั้นมอบให้พลายชุมพล ฯ
๏ ครานั้นพระไวยวรนาถ พยาบาทขรัวตามาแต่ต้น
อ้ายเถรเถ้านี้ขลังทั้งเวทมนตร์ แน่ะชุมพลอย่าได้วางใจมัน
ขุนแผนส่งฟ้าฟื้นให้ลูกชาย ทั้งสองนายสั่งกำชับคับขัน
เจ้าจงเป็นเพชฌฆาตฟาดฟัน แล้วหัวนั้นเอาไว้ให้จงดี
เมื่อเสียบไว้ให้ผู้คุมคอยรักษา ทุกเวลาอย่าประมาทคลาดจากที่
ให้ระวังนั่งยามตามอัคคี พวกมันมีมันจะมาพากันไป
ชุมพลรับสั่งไม่ยั้งหยุด รีบรุดลามาหาช้าไม่
นำหน้าพาเถรตระเวนไป นครบาลนายไพร่ก็คุมตาม
ผู้คนพลเมืองนั้นดาษดื่น แตกตื่นกันดูอยู่ล้นหลาม
ตำรวจตรวจตราว่าห้ามปราม คอยห้ามมิให้เข้าใกล้เคียง
ครั้นถึงตะแลงแกงก็ยั้งหยุด อุตลุดผู้คนไม่ขาดเสียง
ปักหลักมัดเถรนั่งเอนเอียง ชุมพลเหวี่ยงดาบฉาดคอขาดไป
พวกคนผู้มาดูเขาเข่นฆ่า จะมีใครเวทนาก็หาไม่
บ้างว่าสมน้ำหน้าสาแก่ใจ พระเถรอะไรมันกินคน
ที่เป็นญาติพี่น้องของคนตาย ก็ด่าว่าวุ่นวายอยู่เกลื่อนกล่น
แล้วต่างคนคืนสถานบ้านเรือนตน ฝ่ายชุมพลสั่งผู้คุมคอยระวัง
ศีรษะเสียบรักษาอย่าประมาท เผื่อคนดีมันจะอาจเข้ามามั่ง
จงพิทักษ์รักษาอย่าได้พลั้ง กำชับสั่งเสร็จสรรพแล้วกลับมา ฯ
๏ จะกล่าวถึงพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ทศทิศกลัวแสยงทั้งแหล่งหล้า
สถิตในแท่นที่ศรีไสยา พระสนมดาษดาดังดาวราย
บ้างโบกปัดพัดถวายให้สำราญ บ้างอยู่งานนวดเคล้นพระเส้นสาย
บ้างร้องรับขับเสียงจำเรียงราย ทรงสบายเบิกบานสำราญฟัง
ครั้นรุ่งแสงสุริยาภาณุมาศ สกุณชาติแซ่ซ้องดังเสียงสังข์
เสด็จจากที่สุวรรณบัลลังก์ พระสนมหมอบสะพรั่งประนมกร
ทรงชำระสระสรงแล้วทรงเครื่อง อร่ามเรืองเนาวรัตน์ประภัสสร
ออกข้างหน้าว่าขานการนคร ประทับที่บรรจถรณ์บัลลังก์ทรง
พวกขุนนางต่างกราบอยู่พร้อมหน้า งามสง่าดังท้าวครรไลหงส์
พร้อมเสนาอำมาตย์พระญาติวงศ์ พระองค์ทรงรำพึงถึงชุมพล
ด้วยมันปราบกุมภีล์มีความชอบ ควรประกอบยศศักดิ์เป็นพักผล
จะเอาไว้ใช้สอยอีกสักคน แยบยลมันก็คล้ายกับอ้ายไวย
ดำริพลางทางมีสีหนาท ตรัสประภาษสั่งมาหาช้าไม่
อ้ายชุมพลทำชอบกูขอบใจ อาสาไปไม่เห็นแก่ชีวิต
ความชอบครั้งนี้มีหนักหนา ถ้าไม่ได้กุมภาก็จะผิด
ให้มันเป็นที่หลวงนายฤทธิ์ จะเอาไว้ใช้ชิดอยู่กับกู
กรมเมืองทหารในไปจัดการ หาที่บ้านปลูกเรือนให้มันอยู่
อ้ายไวยเอ็งไปช่วยแลดู มันหนุ่มนักจักไม่รู้เรื่องเรือนชาน
แล้วจึงตรัสสั่งชาวคลังใน จัดผ้าสมปักไหมสไบส่าน
ทั้งเงินตราห้าชั่งตั้งใส่พาน พระราชทานแล้วเสด็จขึ้นข้างใน ฯ
๏ ครานั้นหลวงนายได้ประทาน แสนสำราญยิ้มย่องผ่องใส
ให้ข้าคนขนของไปทันใด พระนายไวยนำหน้าออกมาพลัน
ถึงบ้านบอกบิดาหาช้าไม่ ต่างดีใจปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
ทั้งวงศ์ญาติชื่นบานสำราญครัน อยู่เป็นสุขทั่วกันแต่นั้นมา ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ