ตอนที่ ๑๐ พลายแก้วได้นางลาวทอง

๏ มาจะกล่าวถึงแสนคำแมน เป็นนายแคว้นหมู่บ้านจอมทองใหญ่
กับนางศรีเงินยวงผู้ดวงใจ รักใคร่ได้กันแต่ก่อนมา
สองเถ้ามีลูกสาวชื่อลาวทอง ปกป้องพิทักษ์รักษา
เจริญรุ่นละมุนทั้งกายา อายุได้สิบห้าปีปลาย
งามปลั่งดังบัวขึ้นบนนํ้า ยังไม่ต้องแดดช้ำเมื่อยามสาย
ไฝฝ้าหน้านางไม่มีระคาย ไหล่ผายเอวกลมดังแกล้งรัด
ชายใดยังมิได้จะมาต้อง ด้วยทั้งสองพี่เลี้ยงเขาเจนจัด
นางเวียงนางวันนั้นสันทัด ปรนนิบัติปกไว้ในห้องนอน
เมื่อนายพลายแก้วมาตีเวียง ชาวบ้านหลีกเลี่ยงไปซุ่มซ่อน
ถูกไทยไล่แตกเข้าดงดอน เขาขับต้อนไว้ได้ก็มากมาย
เว้นแต่บ้านจอมทองของคำแมน ยังหนาแน่นอยู่ได้ไม่ระสํ่าระสาย
ปลดปลอดรอดตัวด้วยนายพลาย มิให้ทำอันตรายจึงอยู่ดี
ครั้นการทัพระงับสงบแล้ว เจ้าพลายแก้วจะกลับไปกรุงศรี
เงินยวงภิริยากับสามี ตรีตรึกนึกคุณของแม่ทัพ
ร้อยบ้านพันเมืองได้เคืองแค้น หนีเแล่นป่นไปเขาไล่จับ
ล้มตายชายหญิงก็ย่อยยับ เขาระงับเป็นสุขแต่บ้านเรา
บัดนี้เขาจะกลับไปเมืองใต้ เขาจะทำอย่างไรไม่รู้เท่า
จะมานั่งนิ่งอยู่เหมือนดูเบา ฉวยถ้าเขากวาดกว้านบ้านจอมทอง
จะพากันย่อยยับอัปภาคย์ ได้ทุกข์ยากไปหมดทั้งบ้านช่อง
ยายตาปรึกษากันปรองดอง ลาวทองลูกเราผู้ร่วมใจ
จะพาไปยกให้เป็นคำนับ แม่ทัพเห็นทีจะรักใคร่
ถึงลูกเราจะเข้าไปกรุงไทย พอจะออกหน้าได้ไม่อับอาย
แม่ทัพชุบเลี้ยงเจ้าลาวทอง คงมิให้พวกพ้องต้องระส่ำระสาย
ชาวบ้านก็จะเป็นสุขสบาย ไม่ต้องหวั่นอันตรายที่ทัพไทย
ครั้นตกลงปลงใจกันทั้งสอง จึงเรียกเจ้าลาวทองพิสมัย
นางเวียงนางวันมาทันใด นั่งใกล้สองเถ้าแล้วเล้าโลม
โอ้เจ้าลาวทองของพ่อแม่ เป็นสาวแส่บริสุทธิ์สวาดิโฉม
ศึกเสือเหนือใต้มาไล่โรม ข้าวยากหมากโทรมทุกสิ่งไป
ร้อยบ้านพันเมืองได้เคืองแค้น เหลือแสนที่จะซ่อนเจ้าไว้ได้
กองทัพเขาจะกลับไปเมืองไทย เห็นเขาจับขับไล่ซึ่งครอบครัว
ทรัพย์สินสาระยำสํ่าเสีย ผัวพลัดเมียเมียก็พลัดผัว
ผ้านุ่งสักนิดไม่ติดตัว พ่อกลัวเราจะเป็นเหมือนเช่นนั้น
นายทัพเขาประคับประคองเรา ห้ามเหล่าพวกไพร่ไม่หํ้าหั่น
จึงได้เป็นสุขทุกคืนวัน พ่อคิดพรั่นเมื่อเขาจะกลับไป
บุราณท่านว่าเขาขุดบ่อ ล่อให้ปลาหลงไม่สงสัย
ยังไม่กินค่อยประคิ่นประคองไว้ บัวในสระศรีมิให้ช้ำ
สายชลมิให้ข้นขุ่นมัว ตัวปลาปล่อยกินอยู่คลาคล่ำ
เหมือนเขาปล่อยเราไว้ยังไม่ทำ เมื่อเขากลับจับจำก็จวนเจียน
จะหลบลี้หนีไปข้างไหนพ้น ต้องผ่อนปรนดับความหนามเสี้ยน
อย่าให้เราหญ้าแพรกนี่แหลกเตียน เจ้าดังหนึ่งเทียนประทีปตาม
พ่อแม่แก่แล้วไม่เห็นหน มืดมนอยู่ในป่าพนาหนาม
จะแจ่มแจ้งก็เพราะแสงเจ้าส่องงาม พยายามเลี้ยงลูกจึงรำพึง
เมื่อน้อยน้อยร้อยชั่งพึ่งพ่อแม่ ครั้นพ่อแม่เถ้าแก่พ่อแม่พึ่ง
จะยกเจ้าให้เขาไปเคล้าคลึง แม่อย่าขึ้งเคียดแค้นรำคาญใจ
เขาก็เป็นยอดทหารชาญณรงค์ คงไปได้ดีอย่าสงสัย
เจ้าจะได้พึ่งพาข้างหน้าไป อันเชียงใหม่กับกรุงอยุธยา
คงจะเป็นสงครามกันลามลั่น รบกันสืบไปเมื่อภายหน้า
เจ้าเป็นสาวนวลละอองอันต้องตา ฝ่ายไหนไปมาจะย่ำยี
ถ้าอยู่ยืดไปในจอมทอง ใครมาก็จะปองอยู่อึงมี่
ลวนลามแอ่วเจ้าเฝ้ายวนยี น่าที่จะต้องเสียเป็นเมียมัน
ยากง่ายก็ไปตายเสียไกลไกล เห็นจะไม่เป็นไรดอกจอมขวัญ
เขาก็หนุ่มเจ้าก็สาวพอคราวกัน ดวงชะตาเจ้านั้นก็ว่าดี
สาววันสาวเวียงไปเลี้ยงน้อง ปกป้องกันกว่าจะเป็นผี
ข้าไทแม่จะให้ไปตามมี อย่าโศการาคีจะขุ่นมัว ฯ
๏ ครานั้นจึงโฉมเจ้าลาวทอง ยกสองมือทูนขึ้นเหนือหัว
ร้องไห้กลิ้งเกลือกเสือกตัว ระเริ้มริกรัวรัวทั้งกายา
กอดเท้าพ่อแม่สะอื้นไห้ นํ้าตาไหลซึมซาบลงอาบหน้า
เช็ดน้ำตาคลอหล่อหลั่งตา แล้ววอนว่ารำพันพิไรไป
เจ้าประคุณทูนหัวของลาวทอง ไม่ปกครองลูกแล้วฤๅไฉน
ปกผมร่มเกล้าอยู่เท่าไร ลูกนี้จึงได้เป็นตัวมา
อาบน้ำป้อนข้าวทุกเช้าเย็น ไม่วายเว้นพิทักษ์รักษา
ปรนนิบัติสารพัดด้วยเมตตา จึงได้เป็นตัวมาถึงเพียงนี้
ลูกหมายว่าจะตายกับฝ่าเท้า แทนคุณแม่เจ้าจนเป็นผี
คิดอยู่ทุกทิวาราตรี ถึงจะมีลูกผัวไม่ไปไกล
ไม่สมนึกเสียแรงคะนึงปอง ลาวทองหาได้แทนพระคุณไม่
อยู่ด้วยหลัดหลัดจะพลัดไป เมื่อไรจะได้คืนมาพบกัน
วิบากจากแล้วก็จำไป ถ้าใกล้ใกล้ก็มิสู้จะโศกศัลย์
ได้เห็นหน้ามาเยียนเวียนทุกวัน เพียงนั้นพอเห็นไม่เป็นไร
นี่จะลิบลับไปนับปี หารู้ที่จะมาเยี่ยมมาเยียนไม่
สุดหล้าฟ้าดินสิ้นแดนไตร สุดใจจริงแล้วทุกเวลา
เจ็บไข้ตายเป็นไม่เห็นกัน นับวันเช้าเย็นไม่เห็นหน้า
ทุกข์ภัยใครเลยจะนำพา เหมือนพ่อแม่เมตตาคอยตามใจ
ไปมีผัวถึงผัวจะรักนัก ฟูมฟักมิให้ห่างระคางได้
จะกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูประการใด ก็ไม่เหมือนพ่อแม่ที่เลี้ยงมา
เขาคนอื่นแท้แท้นี่แม่เอ๋ย ไหนเลยเขาจะเห็นแก่น้ำหน้า
ผิดใจก็จะทำไม่นำพา มิใช่ว่าหนุ่มแท้อยู่เมื่อไร
นี่หลับตาตามไต้กระทั่งตอ คอจะหักยังหารู้สึกไม่
ลูกเมียเขามีที่พอใจ จะหวงหึงอึงไปทุกประการ
ลูกจะโต้ตอบเขาที่ไหนได้ คารมไทยมันแจดอยู่จัดจ้าน
จะลำเลิกเบิกส่งถึงพงศ์ปราณ ฉวยทัดทานเถียงบ้างจะขัดใจ
ตัวเป็นเมียน้อยนี้ร้อยยาก จะออกปากถุ้งเถียงก็ไม่ได้
ผัวเขาเขาจะเข้าด้วยกันไป ถ้ารักใคร่ไปตลอดพอรอดตัว
จะเฝ้ากันอยู่อย่างไรทั้งตาปี มิทีหนึ่งก็ทีหนึ่งลับหลังผัว
มันจะข่มด้วยคารมให้หลาบกลัว ถ้าดื้อดึงไปก็หัวจะเลือดย้อย
ไหนเจ้ามันจะด่าข้ามันจะตี จะเหยียบขยี้ขยำให้ตํ่าต้อย
ผัวมามันจะบอนค่อนตะบอย ถ้าเชื่อถือก็จะพลอยกันตีเอา
สำหรับก็จะยับไปทุกท่า ลงเป็นข้าขี้ชกคนใช้เขา
ยิ่งคิดไปใจเสียอยู่ซบเซา เกิดมาเสียเปล่าไม่เป็นตัว ฯ
๏ ฝ่ายแสนคำแมนกับเงินยวง เหงาง่วงใจเสียทั้งเมียผัว
นํ้าตาหลั่งไหลใจระรัว กลัวจะเหมือนลูกว่ายิ่งอาลัย
แข็งขืนอารมณ์มาข่มทุกข์ ปล้ำปลุกปลอบลูกอย่าร้องไห้
ดูแล้วแก้วพ่อมิเป็นไร ชันษาเจ้าจะได้เป็นผู้ดี
กำหนดในปีนี้จะมีคู่ พิเคราะห์ดูใคร่ครวญเป็นถ้วนถี่
ตามกระทรวงในดวงชะตานี้ ต้องตกที่นางสีดาพะงางาม
ได้เมื่อทศพักตร์มันลักหนี พระรามตามตีไม่เข็ดขาม
คืนไปได้คงกับองค์ราม อย่าครั่นคร้ามเลยจะมีที่พึ่งพา
แต่จะกระเดื่องใจเมื่อไปถึง นิดหนึ่งเท่านั้นไม่หนักหนา
พ้นนั้นนับวันนับเวลา จะลอยฟ้าฟูฟ่องไม่หมองใจ
เกิดมาชะตาเจ้าอย่างนั้น จงกลืนกลั้นน้ำตาอย่าร้องไห้
อาบน้ำเสียจวนคํ่าจะได้ไป ข้าไทพี่เลี้ยงมาพร้อมกัน
ปลอบนางย่างเยื้องมาถึงที่ ทาสีตักน้ำมาเต็มขัน
ผลัดผ้าลูบทากระแจะจันทน์ ผัดหน้าผิวพรรณเป็นนวลใย
เกล้าผมสมทรงกะทัดรัด ดอกไม้ทองแซมทัดสะบัดไหว
เกี้ยวกระหวัดปิ่นพลอยลอยวิไล สอดใส่ดอกมะเขือทองคำพราย
ห้อยสายระย้าเพชรเก็จก่อง สังวาลทองพลอยพริ้งสะอิ้งสาย
เด่นดวงกุดั่นพรรณราย กำไลสวมขวาซ้ายสอดพร้อม
ใส่แหวนเพชรนิลมรกต สไบสีสุกสดตรลบหอม
พ่อแม่เป็นผู้ใหญ่จะไปดอม ข้าไทแวดล้อมกันลงเรือน
ข้าวของกำนัลนั้นหนักหนา บ่าวข้ายกขนมากล่นเกลื่อน
ลูกหลานพี่น้องไม่ต้องเตือน ไปเป็นเพื่อนลาวทองทุกตัวคน
ตามมีตามยากมาฝากทัพ ตะลุ่มหับหาบหามอยู่สับสน
ถึงค่ายเข้าไปด้วยบัดดล ชาวพลพวกทัพก็รับรอง
แลชมโฉมลาวสาวเป็นขนัด ชะช่างจัดจริงหวาหน้าผ่องผ่อง
นางเดินกลางเอวกลมนมเป็นกอง อล่องฉ่องผิวหน้าเป็นนวลจันทร์
อีเดินถัดหยัดเหยาะอย่างจะรำ ผิวขำเอวกลมดังแกล้งปั้น
เหมาะเจาะจริงหวาตาเป็นมัน อ้ายมั่นว่ากูได้ไม่ไว้มือ
ครั้นถึงพลายแก้วผู้แม่ทัพ นั่งพับเพียบพร้อมไม่อึงอื้อ
ข้าวของกองตั้งนั่งพนมมือ นับถือไหว้ท่านผู้แม่ทัพ ฯ
๏ พลายแก้วเชื้อเชิญท่านทั้งสอง ขึ้นบนพรมลาวทองเลื่อนขยับ
นั่งไหว้เสงี่ยมเฟี้ยมพับ เจ้าพลายรับไหว้ท่านทั้งสองรา
ชำเลืองดูลูกสาวขาวจิ้มลิ้ม เหมาะละม้ายคล้ายพิมพี่นักหนา
ตายายชายตามาปะตา ก็หยิบพานหมากมาพูดอื่นไป ฯ
๏ ฝ่ายว่าผัวเมียทั้งสองรา ต่างพูดตามประสาเป็นผู้ใหญ่
ข้อยออกมาหาอาญาไทย ด้วยขอบใจท่านนักที่ป้องกัน
ร้อยบ้านพันเมืองไม่หลอเหลือ เป็นเบือฉิบหายด้วยห้ำหั่น
จนน้ำกินบ่ได้ไหลเป็นมัน ฟันดังฟันปลาบ่ราครือ
แต่บ้านจอมทองของข้าน้อย บ่ยับย่อยชาวทัพเขานับถือ
ข้าวของสิ่งไรอยู่ในมือ มิได้ยื้อแย่งทำให้ช้ำใจ
ข้อยขอบคุณท่านเป็นเที่ยงแท้ ถึงคุณพ่อคุณแม่บ่ปานได้
ท่านจะยกทัพกลับเมืองไทย สิ่งใดข้าวของก็บ่มี
ตามจนตามยากมาฝากบ้าง เป็นเสบียงกลางทางจนถึงที่
เงินทองของตูบ่สู้มี จะแจกรี้พลท่านที่ขึ้นมา
ข้อยมีแต่ลูกสาวลาวทอง กับข้าวของหน่อยนิดคิดมาหา
เจ้าลาวทองลูกแก้วผู้แววตา ให้เป็นข้าช่วงใช้ไปจนตาย
ไร้ญาติขาดแล้วนะนายเด อย่าทอดเททุ่มทิ้งให้สูญหาย
ข้อยขอฝากตัวเจ้าขรัวนาย ด้วยพลัดพรายพ่อแม่ไปแต่ตัว
แม้นหม่อมพลายแก้วมิเอ็นดู ลาวทองลูกตูบ่มีหัว
ไกลตาข้าน้อยนี้นึกกลัว จะยังชั่วก็เพราะท่านกรุณา
ข้าเถ้าทั้งคู่นี้อยู่ไกล เมื่อไรจะได้ล่องลงไปหา
เมื่อหน้าถ้าท่านได้ขึ้นมา จงเมตตาแวะเยี่ยมให้เย็นใจ ฯ
๏ ครานั้นจึงโฉมเจ้าพลายแก้ว ยิ้มแล้วตอบมาหาช้าไม่
ท่านอย่าโศกาอาลัยไป รู้แล้วว่าไกลกันสุดตา
ลูกท่านท่านรักดังดวงใจ เอามาให้ก็เพราะท่านรักข้า
เป็นกุศลหนหลังได้สร้างมา จึงเพอิญเมตตาบ้านจอมทอง
เข้าบ้านไหนไล่ตีแตกระยำ แต่บ้านนี้ไม่ทำช่วยปกป้อง
ใช่ใครแนะนำในทำนอง ว่าลูกของท่านมีที่ต้องใจ
ไม่แจ้งจริงจริงจึงนิ่งอยู่ พึ่งรู้เดี๋ยวนี้เอามาให้
ยินดีเหลือที่จะอุปไมย ถึงเราได้เงินทองมามากมาย
หญิงชายคั่งคับนับพัน อยู่นั่นมิได้นึกคะนึงหมาย
หญิงใดก็มิได้มาแอบกาย นอนดายเด็ดเดียวไม่ดูดี
ท่านพาลาวทองมายกให้ จะเลี้ยงไว้ให้สมซึ่งศักดิศรี
ท่านอย่าคิดกังขาราคี ร้อยปีไม่อยากให้จากกัน
จะร่วมเรียงเคียงหน้ากว่าจะตาย ไม่เบื่อหน่ายแหนงจิตรบิดผัน
บรรดาได้ทรัพย์มานับพัน ไม่แบ่งปันให้ใครเท่าใยยอง
สารพัดสมบัติที่ตีได้ ชั้นต่ำลงไปจนข้าวของ
อย่าวิตกจะยกให้ลาวทอง สองท่านอย่าได้เป็นกังวล
ว่าแล้วสั่งบ่าวให้จัดของ เสื้อผ้าเงินทองนั้นเป็นต้น
วัวควายช้างม้าข้าคน ยกขนมาให้ยายกับตา
บรรดาลูกบ้านทั้งปวงนั้น ก็ตอบของกำนัลให้หนักหนา
ทั้งสิ้นยินดีปรีดา สาธุเป็นพ่อข้อยบ่แพั
เงินคำทำได้จะไปบ้าน กลับมาให้ทานข้อยเหลือแหล่
ยิ่งพี่ยิ่งน้องมองชะแง้ แท้แล้วควรท่านเป็นเจ้านาย
ยายตาพูดจากับแม่ทัพ คำนับลาท่านจะผันผาย
ฝากลูกวอนว่าทั้งตายาย ลาวทองใจหายห่วงมารดา
กราบไหว้ร้องไห้สะอึกสะอื้น เมื่อไรจะได้คืนขึ้นมาหา
ต่างคนซึมซาบอาบน้ำตา สองราแข็งข่มอารมณ์ไป
หาบขนเงินทองเสื้อผ้า บรรดาของนายพลายแก้วให้
บ้างพูดกันซิกซี้ดีใจ แต่สองเถ้าอาลัยถึงลาวทอง
ทั้งบรรดาข้าคนบ่นถึงนาย ตะวันบ่ายก็มาถึงบ้านช่อง
พ่อแม่โศกาน้ำตานอง เข้าห้องใจหายทั้งยายตา ฯ
๏ ครานั้นพลายแก้วผู้แม่ทัพ ครั้นสุริยาลาลับพระเวหา
พลบคํ่ายํ่าคลุ้มชอุ่มตา ดาษดาเทียนเถือกประเทืองพราย
พร้อมพลทหารชาญณรงค์ แวดวงเมียงหมอบอยู่มากหลาย
หัวเมืองท้าวพระยาบรรดานาย ก้มกายกราบกรานด้วยเกรงฤทธิ์
ปรึกษาเสร็จสงครามเมืองเชียงทอง ได้ครอบครัวเนืองนองอกนิษฐ
บาญชีมีนายเสมียนคิด อาญาสิทธิ์นายหมวดให้ตรวจตรา
อาวุธยุทธภัณฑ์ที่ลาวทิ้ง ลาวแตกต้อนชิงได้หนักหนา
เป็นของหลวงทั้งปวงให้ตีตรา เงินขาเกวียนของที่ต้องการ
ช้างม้าดีดีบาญชีหมาย วัวควายนั้นให้พวกทหาร
เชี่ยนขันโตกถาดตะลุ่มพาน ผู้ใดรานรบได้ให้ผู้นั้น
อย่าได้ส่อเสียดเบียดเบียนว่า ริษยายํ่ายี่ตีบังกั้น
ทุกสิ่งสารพัดเป็นสัตย์ธรรม์ อิกห้าวันจะยกไปพารา
อันซึ่งตัวพระยาเชียงทองนั้น ข้องเกี่ยวราชทัณฑ์อยู่หนักหนา
จะพาเอาลงไปอยุธยา เฝ้าฟังบัญชาจะอย่างไร
มาดแม้นพระองค์ลงโทษทัณฑ์ จะป้องกันทูลขอให้จงได้
กำแพงระแหงให้ลงไป จะเพ็ดทูลให้ด้วยชอบพอ
ครั้นสั่งแล้วพลันมิทันช้า ต่างคนลุกลาไปสอสอ
จัดแจงตามสั่งไม่รั้งรอ รู้ต่อต่อกันทั้งนั้นไป ฯ
๏ พวกไพร่ในค่ายเจ้าพลายแก้ว ครั้นขุนนางไปแล้วหาช้าไม่
ปิดทับพับพรมระงมไป เวลาคํ่ายํ่าได้สักยามปลาย
ข้าไทใช้สอยก็นอนหลับ เทียนดับสิ้นแสงสูญหาย
พลายแก้วชำเลืองเยื้องกราย รูดม่านมั่นหมายเจ้าลาวทอง
ไม่พบพักตร์ซักลาวที่เคยใช้ บอกว่าไปอยู่กับนางต่างห้อง
ด้วยพี่เลี้ยงเคียงข้างคอยประคอง ร้องไห้ตั้งแต่พ่อแม่ไป
เพื่อนไปเว้าเล่นเจรจา ยังหาหายโศกากำสรดไม่
เจ้าพลายแก้วสั่งพลันทันใด เอ็งจงลงไปอย่าช้าที
บอกพี่เลี้ยงเวียงวันทั้งสอง ให้พาเจ้าลาวทองขึ้นมานี่
ว่ากูเชิญขึ้นมาพาที ปรึกษากันที่จะอยู่ไป ฯ
๏ ฝ่ายสาวพรหมาก็รับคำ อำลาลุกมาหาช้าไม่
ถึงห้องลาวทองเข้าทันใด นั่งใกล้แล้วกล่าวซึ่งวาจา
บอกสามนางนั่งอยู่พรั่งพร้อม ว่าหม่อมพลายแก้วเธอให้หา
เชิญขึ้นไปสั่งสนทนา ว่าแล้วก็ลาไปทันใด ฯ
๏ ครานั้นจึงโฉมเจ้าลาวทอง กอดสองพี่เลี้ยงสะอื้นไห้
รู้ว่าพลายแก้วแววไว จะให้ขึ้นไปถึงห้องนอน
ให้หวาดหวั่นจิตรคิดพรั่น พี่วันพี่เวียงขึ้นไปก่อน
ว่าพลางยกมือขึ้นไหว้วอน น้องห่อนที่จะเว้าเจ้านายเป็น
เลี้ยงน้องมาจนน้องเป็นสาว บ่าวใดก็มิได้มาเบิ่งเห็น
ฟ่อแม่ป้อนข้าวทุกเช้าเย็น กลางเวนกลางคํ่าบ่เคยใคร
จะให้น้องไปเว้าเจ้านายทัพ จะขอรองขอรับเป็นสังไหน
บ่ฮู้บ่หันประการใด น้องไปบ่ฮอดพี่นางวัน ฯ
๏ ครานั้นนางวันกับนางเวียง พี่เลี้ยงฟังนางพลางรับขวัญ
ต่างปลอบตอบเจ้าลาวทองพลัน แม่จะคิดเดียดฉันท์ไปไยมี
พ่อแม่ให้มาเป็นข้าเขา จงถือใจไยเล่านะเจ้าพี่
ต้องให้เขาเมตตาปรานี จะได้ดีก็เพราะรู้บำรุงใจ
ถ้าขืนขัดอารมณ์เขาตรมเกรียม โหดเหี้ยมไมตรีหาดีไม่
พี่น้องจะต้องซึ่งโทษภัย ลุกเลยลามไปถึงบิดา
คุณท่านคุ้มครองป้องกันเรา จึงยกเจ้าลาวทองให้เป็นข้า
หมายใจว่าจะได้เป็นหน้าตา ฟอแม่พี่งพาจนกันตาย
เจ้าลืมอีสังบ่ฟังข้า จะพลอยพาพ่อแม่เราฉิบหาย
จงเอ็นดูปูย่าตายาย หมายพึ่งจึงให้มาเป็นเมีย
อย่าจู้จี้เลยพี่จะไปเพื่อน แก้มเปื้อนแม่เช็ดน้ำตาเสีย
นิจจาน้องยังหมองระทวยเพลีย อย่าปลกเปลี้ยปลอบให้เอาแป้งทา
พี่เลี้ยงเคียงนางข้างละคน แต่เวียนวนวุ่นวายกันหนักหนา
เดินใกล้ถึงม่านคลานเข้ามา สองนางต่างพากันเข้าไป
เจ้าลาวทองถอยหลังลงนั่งทรุด กระชุ่นฉุดมือมาหาช้าไม่
พอม่านแหวกสว่างกระจ่างไป แสงไฟปลาบต้องละอองนวล
เจ้าลาวทองซบหน้าไม่นั่งตรง บังม่านหมอบลงให้ปั่นป่วน
พี่เลี้ยงเลี่ยงหลีกให้ลอยนวล นางก็ซวนทรุดแอบพี่เลี้ยงบัง ฯ
๏ ครานั้นจึงโฉมเจ้าพลายแก้ว เห็นนางมาแล้วยังแอบหลัง
ก็รู้ว่านางประหม่าละล้าละลัง อยู่ข้างหลังพี่เลี้ยงลออตา
พินิจน้องผ่องผิวเจริญพักตร์ สวาดิรักมิได้วายเสนหา
นึกถวิลยินดีปรีดา ยิ้มเยื้อนสนทนาปราศรัยนาง
ร้อยชั่งนั่งขึ้นเป็นไรเจ้า อย่าบังเงาเชิญนั่งข้างสว่าง
สนทนากันเล่นเย็นเย็นพลาง ขอถามนางทุกข์ร้อนแต่ก่อนไร
วันทัพมาถึงบ้านจอมทอง น้องตระหนกตกใจฤๅหาไม่
บ้านอื่นตื่นแตกกระจายไป ไยเจ้ากล้าอยู่แต่บ้านเดียว
ฤๅเข้าใจใครบอกว่าพี่มา เมตตาไม่จับขับเคี่ยว
ฤๅคนดีมีอยู่อย่างไรเจียว จึงไม่เที่ยวทิ้งบ้านประการใด ฯ
๏ ครานั้นนางวันกับนางเวียง ทั้งสองหมอบเมียงยกมือไหว้
สะกิดเจ้าลาวทองให้ตอบไป นางไม่สนทนาพาที
ทั้งสองพี่เลี้ยงจึงเบี่ยงบ่าย ยิ้มพรายตอบความไปตามที่
วันเมื่อทัพไทยไล่ตี หนีไม่ทันด้วยว่าไม่รู้ตัว
อนึ่งก็ขึ้นกับลำพูน ไม่มีมูลเหตุศึกสงบทั่ว
จึงปกป้องครองทรัพย์และครอบครัว หนีไปก็กลัวจะม้วยมรณ์
จึงคิดกันเข้าสงบสงัดอยู่ แต่ผู้คนบนเรือนนั้นเร้นซ่อน
พ่อเถ้าห้ามว่าอย่าซอกซอน ค่อยนิ่งนอนอยู่กับเหย้าอย่าเศร้าใจ
ถึงกองทัพจะมาจับไปทั้งบ้าน หาพลัดวงศ์วานนั้นไปไม่
เดชะบุญคุณท่านช่วยคุ้มภัย จอมทองจึงได้เป็นตัวมา
ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายเศร้า ต่อเจ้าลาวทองมาเป็นข้า
หมายใจจะได้เป็นหน้าตา ขอพึ่งบาทาคุ้มวันตาย ฯ
๏ พลายแก้วยิ้มแล้วก็ตอบคำ ชะรอยบุญเราทำไว้มากหลาย
จึงพิกลดลใจทั้งไพร่นาย มิได้ทำอันตรายบ้านจอมทอง
ที่จริงใจก็ไม่คิดคะนึงความ ว่าจะได้เมียงามมาร่วมห้อง
เวลาเย็นเห็นหน้ามาเนืองนอง สองท่านพาเจ้าลาวทองมา
ความนิยมสมคิดเหมือนจิตรใจ ถึงได้เชียงทองก็น้อยกว่า
เหตุไรเจ้าจึงไม่สนทนา ฤๅว่าใจนางไม่เต็มใจ
ทั้งสองพี่เลี้ยงเคียงข้าง ช่วยถามนางดูให้สิ้นสงสัย
มิสมัครไม่รักก็แล้วไป อย่าร้องไห้แก้มน้องจะหมองมัว ฯ
๏ ครานั้นนางวันกับนางเวียง พี่เลี้ยงเชิงดีมิใช่ชั่ว
สะกิดเจ้าลาวทองต้องตัว ทูนหัวนิ่งไยไม่เจรจา
ถ้าได้ดีสองพี่จะได้พึ่ง แม้นแข็งขึงมิฟังคำพี่ว่า
ตัวน้องต้องไปอยุธยา ไม่เห็นหน้าสองพี่จะหนีคืน
เลี้ยงมาหมายว่าจะพึ่งบุญ ไม่ให้พึ่งก็หมุนมุ่งไปอื่น
เสียแรงวอนสอนสั่งทุกวันคืน ยังสะอื้นไม่เอ็นดูกับพี่ยา ฯ
๏ ครานั้นจึงโฉมเจ้าลาวทอง ได้ฟังทั้งสองพี่เลี้ยงว่า
จะออกปากยากสุดจะเจรจา ด้วยไม่เคยสนทนาภาษาไทย
นึกกลัวสองพี่จะหนีทิ้ง ถ้าไปจริงแล้วหามีที่เห็นไม่
จะโต้ตอบคำชายให้อายใจ หวั่นไหวสะทึกสะเทินทั้งกายา
จำเป็นจำใจจะออกปาก ยังกระดากกระเดื่องเขินเมินหน้า
พี่เลี้ยงหยิกเน้นให้เจรจา นางประหม่าเสียงสั่นให้พรั่นใจ
ตัวข้อยจะประนอมยอมเป็นข้า หมายว่าจะเมื้อถึงเมืองใต้
แต่หากห่วงหลังนักจะหักไป เป็นจนใจไม่รู้ที่จะพาที ฯ
๏ พลายแก้วเห็นนางยังประหม่า พูดไม่เงยหน้าขึ้นจากที่
ครั้นจะสนทนาให้ช้าที เซ้าซี้อยู่ก็เนิ่นเกินเวลา
จึงเอื้อมมือหยิบหมากที่ในพาน อัดอั้นใจอ่านพระคาถา
ด้วยเคยเชื่อใจแต่ไรมา ไม่ช้าส่งให้พี่เลี้ยงพลัน
ช่วยยื่นหมากไปให้เจ้าลาวทอง ทั้งสองพี่กินหมากในพานนั่น
สนทนาเวลาก็ดึกครัน ไปเถิดวันอื่นจึงขึ้นมา
พี่เลี้ยงรับหมากมายื่นให้ เจ้าลาวทองรับไว้ไม่เงยหน้า
ไม่กินกลัวจะไม่ให้ไคลคลา ครั้นกินหมากมนตราให้เสียวใจ
ตั้งแต่ยามเย็นนางมาอยู่ หาได้ดูหน้าตาเจ้าพลายไม่
ครั้นต้องหมากมนตร์เคี้ยวประเดี๋ยวใจ ก็อาลัยลอบเหลือบชำเลืองตา
เห็นเจ้าพลายนายทัพขยับยิ้ม ปิ้มประหนึ่งจะคลานเข้าไปหา
เจ้าพลายแก้วแว่วเห็นกิริยา ก็รู้ว่าต้องเทพรำจวนใจ
เบือนหน้ามาบอกกับสองนาง ไปพลางวันอื่นจงมาใหม่
หาวนอนแล้วสิน้องลาวทองไป ดับไฟมืดมิดทำนิทรา
สองนางเยื้องย่างมาทั้งคู่ ปิดประตูรีบไปไม่คอยท่า
ลาวทองเพ่งพิศยิ่งติดตา ไม่ออกมาหมายอยู่เป็นคู่ครอง ฯ
๏ พลายแก้วลุกลงมาจากเตียง เดินเมียงมาจะปิดประตูห้อง
มือคลำขยำถูกเจ้าลาวทอง นางนิ่งอยู่มิได้ร้องประการใด
หยุดยั้งนั่งใกล้ใครนี่หือ หาอออือออกปากกะไรไม่
ต่อปัดมือจากอกจึงตกใจ คิดว่าใครนี่เล่าเจ้าลาวทอง
ร้อยชั่งนั่งไยไม่บังควร เวลาจวนรุ่งสางสว่างห้อง
เลียมลูบจูบโฉมประโลมลอง ประคองกอดอุ้มแก้วขึ้นเตียงพลัน
ทรุดลงประจงวางกลางที่นอน อย่าอาวรณ์มาพี่จะรับขวัญ
ยิ้มพลางทางเคล้าพัลวัน รวยระรื่นรสจันทน์กระแจะทา
อ่อนนุ่มเนื้อหนังสนิทนิ่ม จิ้มลิ้มน่ารักเป็นหนักหนา
เต้าตั้งดังดอกปทุมา เมื่อกลีบแย้มผกาเสาวคนธ์
คึกคึกพายุกล้าเมฆาเกลื่อน ธุลีเลื่อนฝุ่นฟุ้งเป็นลมฝน
ประเปรี้ยงเสียงซ่าในสากล ไม่ทานทนไหลนองทั้งแดนไตร
เสื่อมคลายหายมืดมัวพยับ เดือนกลับส่องกระจ่างสว่างไสว
ทั้งสองสุขเกษมเปรมใจ ตีเหล็กไฟจุดประทีปประเทืองพราย
ลาวทองระทวยใจในที่นอน ซบซ่อนหน้าลงไปเงยหงาย
เจ้าพลายแอบแนบข้างไม่ห่างกาย ประจงจูบมิได้วายทำวนใจ
เชยคางให้นางลุกขึ้นกินหมาก ไม่เปรี้ยวปากฤๅช่างทนกะไรได้
ตระกองกกยกสะพักใส่ตักไว้ ระทวยใจอกอ่อนละมุนงาม
จูบผมชมแอบแนบหน้า อย่าหลับตาลุกขึ้นเถิดจะขอถาม
เป็นสัตย์จริงนะเจ้าจะเล่าความ พี่แสนรักจักตามอารมณ์นาง
ถ้าไม่กีดราชการงานทัพ พี่นี้ไม่กลับลงไปล่าง
สงสารโศกใจไม่วายวาง ด้วยจะร้างแรมท่านผู้ใหญ่ไป
ตัวพี่ถึงที่ได้เคล้าคลึง รำลึกถึงพ่อแม่ยังร้องไห้
สงสารท่านทั้งสองจะหมองใจ ต่างอยู่ต่างไปใจเสียดาย
ครั้นจะทิ้งเจ้าไว้ในจอมทอง พี่รำลึกถึงน้องไม่เหือดหาย
ได้เมียจากเมียก็เสียดาย คิดไปให้ระคายรำคาญใจ
เอาความรักหักเสียทั้งสองข้าง จะไปล่างด้วยกันอย่าร้องไห้
ฤๅจะอยู่เมืองบนก็ตามใจ ผัวไม่ว่าเจ้าให้เคืองระคาย ฯ
๏ ลาวทองสะเทิ้นเมินหน้า เสนหาเหิมใจไม่เหือดหาย
กอดแนบแอบอิงกับอกพลาย นางไม่คิดกลับกลายประการใด
พ่อแก่แม่เถ้าเป็นที่รัก ฟูมฟักเฝ้าเลี้ยงมาจนใหญ่
บ่ตอบคุณสองท่านได้ปานใด ก็อาลัยเหลือที่จะรำพัน
จากอกสองเถ้ามาเว้าผัว ระวังตัวกลัวจะปะปิสังหั้น
เมื่อใหม่ใหม่ก็พิไรว่ารักกัน ครั้งถึงเวียงใต้ข้อยคิดกลัว
ถ้าปะแคล่วคล่องเป็นสองรัก ก็ยากนักด้วยเขาเป็นเจ้าผัว
ถ้าหม่อมรักฟักฟูมพอรอดตัว ครั้นถึงเมียน้องกลัวมิเป็นการ
รักหม่อมยอมตามไปจนถึง อย่าคะนึงเลยที่ว่าจะอยู่บ้าน
เพราะความรักเข้ามาทำจัณฑาล ด้านไปกว่าจะตายลงต่อตา ฯ
๏ ครานั้นจึงโฉมเจ้าพลายแก้ว ยิ้มรับขวัญแล้วจึงตอบว่า
พี่รักเจ้าลาวทองผ่องโสภา ยิ่งกว่าร้อยรักผู้ใดใด
ถึงเมียพี่มีอยู่ก็อย่าพรั่น แต่เช่นน้องนึกนั้นอย่าสงสัย
ถนอมนวลให้ถ้วนทุกคนไป ตามน้อยตามใหญ่ให้เสมอกัน
เจ้าแก้วตากำพร้าไม่มีญาติ อย่าหวั่นหวาดวิโยคโศกศัลย์
ปลอบพลางทางเคล้าพัลวัน ป่วนปั่นเปี่ยมรสรัญจวนใจ
สัพยอกหยอกนวลชวนพูด กระซิบสูดสองแก้มเจ้าแจ่มใส
ประคองนมผงมแก้มแนมใน ฟูมไฟราคร้อนระบมทรวง
จนเวลาสุริยาจะใกล้เช้า เฝ้าคลึงเคล้ามิได้งีบระงับง่วง
ครั้นเวลาสุริยาระยับดวง หอมพวงพุ่มช่อผกาการ
รวยรื่นภุมรินบินเคล้า ดุเหว่าแว่วเสียงเพราะเสนาะหวาน
แสนภิรมย์ชมชิดสนิทนาน ก็รูดม่านออกมานอกด้วยทันใด
พวกเหล่าลาวเชลยก็หมอบคลาน ประคองพานน้ำผ้าเช็ดหน้าให้
พานหมากตั้งวางไว้ข้างใน เจ้าพลายแก้วออกไปนั่งยังขุนนาง ฯ
๏ ครานั้นจึงโฉมเจ้าลาวทอง อยู่ในห้องคิดตริดำริร่าง
จะจากไปเช้าเย็นเว้นวาง จะสืบสร้างฝีมือให้ฦๅดี
คิดแล้วจึงเรียกสองพี่เลี้ยง พี่เวียงพี่วันเข้ามานี่
จึงแจ้งความพลันทันที น้องนี้ตรึกไว้เห็นได้การ
ตัวเราสิจะลงไปเมืองใต้ เมื่อไรจะคืนขึ้นมาบ้าน
ฝีมือปักทำเราชำนาญ จะปักม่านไว้ให้เห็นประจักษ์ตา
ถวายไว้ในวัดเมืองลำพูน ให้เป็นเค้ามูลไปเบื้องหน้า
สองพี่หาผ้าเนื้อดีมา จัดหาสิ่งของด้วยทันใด
ตำต้มประสมแล้วย้อมผืน สดชื่นม่วงมันด้วยเนื้อไหม
เข้าสะดึงกรึงมุมเสมอไป นางก็นั่งตั้งใจด้วยปรีดา
สองนางพี่เลี้ยงเคียงข้าง ร้อยไหมให้พลางทั้งซ้ายขวา
ปักเป็นเรื่องพระยามารา ยกพลโยธากองทัพชัย
มาประจญใต้ต้นมหาโพธิ กริ้วโกรธกระทืบช้างที่นั่งไล่
พวกพลแปรร่างต่างต่างไป บ้างสวมใส่เสนาะเกราะพราย
บ้างแบกตะบองตะแบงมาน ขี่สารสูงสุดพระเมรุหมาย
กำซาบศรขรรค์พรรณราย จักรแก้วแพรวพรายคทาธร
ตรีศูลเสน่าเกาทัณฑ์ กั้นหยั่นโล่เขนแลสลอน
ขี่คชสารกล้างางอน สิงหราชฤทธิรอนระเหิดตาม
มิ่งม้าแม้นม้าพลาหก ผจงยกย่ำย่างกลางสนาม
ล้วนประดับประดาเครื่องม้างาม บ้างขี่โคโตหลามกระบวนทัพ
ปักเป็นธงหน้าคลาเคลื่อน เมฆเกลื่อนอาทิตย์ก็มิดดับ
เทพทุกราศีก็หนีลับ ระยับด้วยทองถมทุกแห่งไป
ที่ม่วงก็ม่วงเป็นมันแสง ที่แดงก็แดงดังชาดใส่
ต้นไม้ไสวพริ้งทั้งกิ่งใบ ปักนกหกไล่ไต่ตามกัน
สารพัดหยัดยืนเหมือนอย่างเป็น แลเขม้นจิกกินแล้วบินผัน
ปักเขาสุทัศน์สัตภัณฑ์ วินันตกการวิกยุคันธร
ถัดมาห้าแถวแนวสมุทร คงคาใสสุดแลสลอน
เป็นละลอกกระฉอกชโลธร ฝูงกินนรวิทยามาอาบกิน
ปักเป็นบัวบานตระการตา ภุมราบินร่อนกระพือผิน
ปักเป็นสัตว์จัตุบาทดาษดิน กินรินร่อนร่าอยู่เรียงราย
ลาวทองน้องนั่งมาแต่เช้า เท่าถึงพระอาทิตย์ก็ตกหาย
เจ้าพลายแก้วชำเลืองเยื้องกราย ถึงห้องเห็นม่านพรายดูพราวตา
ยืนพิศดูน้องลาวทองปัก น่ารักฝีมือเจ้าหนักหนา
นั่งเฟี้ยมเสงี่ยมงามทั้งกายา ละม้ายหน้าเจ้าพิมพิลาไลย
ยิ่งแสนพิศวาสจะขาดจิตร หวนคิดถึงพิมเพื่อนพิสมัย
ฝีมือม่านลาวทองต้องใจ ได้กับฝีมือพิมก็ยิ้มมอง
นั่งใกล้ใจเสียวไม่อยู่ได้ ลุกหันเข้าไปถึงในห้อง
เอนตนบนฟูกเจ้าลาวทอง นอนตรองอยู่ในทับจนหลับไป ฯ
๏ ลาวทองกับสองนางพี่เลี้ยง ตามตะเกียงปักม่านหานอนไม่
พอสว่างสางแสงอโณทัย ก็แล้วเสร็จดังใจจินตนา
ตัดจากสะดึงที่ขึงกาง สองนางอาบน้ำแล้วผัดหน้า
เครื่องหอมจอมจันทน์กระแจะทา มาหาพลายแก้วผู้แววไว
สามนางหมอบเมียงเคียงข้าง เจ้าพลายแก้วเห็นนางลงนั่งใกล้
ยังคิดถึงเจ้าพิมพิลาไลย ปราศรัยว่าเจ้าปักฝีมือดี
ช่างรู้เรื่องนิทานมารประจญ ฉลาดล้นหญิงใดในกรุงศรี
ถึงในอยุธยาธานี ไม่เหมือนฝีมือพิมโอ๊ยลาวทอง
ลาวทองได้ฟังเรียกพลั้งชื่อ ยื่นมือมาสะกิดพี่ทั้งสอง
คิดแล้วตอบไปด้วยใจปอง ม่านของข้อยนี้จำนงใจ
จะถวายไว้ในวัดเจดีย์หลวง ด้วยตัวนี้จะล่วงไปเวียงใต้
แล้วจะปั้นรูปทรงจำนงใจ เชิญไปด้วยข้อยหน่อยเถิดรา
พ่อแม่แก่เถ้าเป็นทุกข์ถึง จะค่อยคลายคะนึงด้วยรูปข้า
บ้านกับวัดใกล้พอไปมา จะจารึกรูปข้าว่าชื่อพิม
เออดูนี่อะไรทำใจหวาด ฝีปากบางดังชาดประจงจิ้ม
นี่มินึกว่าเมียข้าชื่อพิม ยิ้มแล้วก็ลุกไปทันใด
ลาวทองสองนางก็ตามมา บ่าวข้าเดินตามงามไสว
พวกชายตามหลังสะพรั่งไป เข้าในวัดเมืองลำพูนพลัน
กราบพระนมัสการแล้วออกมา จัดได้นายสาเป็นช่างปั้น
ข้าไทโขลกปูนพร้อมมูลกัน นํ้าเชื้อโมงนั้นทั้งหนังวัว
เหนียวดีแล้วขยี้ขยำปั้น นั่งดูอยู่ด้วยกันทั้งเมียผัว
ปั้นเหมือนสนิทไม่ผิดตัว งามดีถ้วนทั่วทั้งกายา
แล้วจารึกรูปว่าชื่อลาวทอง เรียกสองพี่เลี้ยงเข้ามาหา
กราบกรานม่านคลี่ด้วยปรีดา ร้อยสายสอดมาค่อยผูกพัน
แล้วนั่งลงพินิจพิษฐาน ขอเดชะม่านข้าสร้างสรรค์
ปักเสร็จสิ้นผืนคืนกับวัน กางกั้นถวายพระปฏิมากร
เป็นปัจจัยให้ถึงพระนิพพาน สมบัติพัสถานอย่าย่อหย่อน
แม้นตายวายชีพม้วยมรณ์ ขอให้จรฟากฟ้าสุราลัย
อนึ่งนั้นรูปปั้นกับม่านนี้ ร้อยปีอย่าให้สาบสูญได้
ถ้าว่าเมืองลำพูนสูญเมื่อใด จึงให้สาบสูญไปตามกัน
ครั้นพิษฐานแล้วก็กราบลา ชวนหม่อมผัวมาขมีขมัน
มาถึงกองทัพเข้าฉับพลัน ชวนกันเข้าในค่ายสบายใจ ฯ
๏ ครั้นสนธยายํ่าคํ่าแล้ว พลายแก้วลาวทองผ่องใส
นอนในห้องทั้งสองสำราญใจ ลาวทองหลับไปในไสยา
เวลาดึกเดือนส่องผ่องแผ้ว เจ้าพลายแก้วนึกคะนึงถึงเคหา
ปานนี้พิมนิ่มน้องของพี่ยา จะละห้อยคอยท่าทุกคืนวัน
ถ้ามีรับสั่งมาให้หาทัพ จะได้กลับไปชมภิรมย์ขวัญ
การศึกก็สำเร็จเสร็จพลัน นี่อิกสักกี่วันจะได้ไป
แต่อัดอึดฮึดฮัดให้ขัดจิตร หลับนอนหาสนิทลงได้ไม่
ยิ่งคิดก็ยิ่งนานรำคาญใจ ต้องจำกลํ้ากลืนไว้ในใจคอ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ