ปัญญาคืออะไร

ปัญญา คือ “ความรอบรู้” ความรู้ที่รู้มาโดยรอบนั้น จะรู้จากอะไรที่ไหนๆ เมื่อใช้ความรู้นั้นๆ ให้เป็นประโยชน์ได้ ก็ต้องนับว่าเป็นปัญญาทั้งสิ้น

เวสสเทวีฉันท์ ๑๒
๏ ต้นไม้ใบร่วงหล่น พรากประจากต้นตลอดไป
จนหมดไม่มีใบ เหลือละเมื่อนั้นก็พลันตาย ฯ
๏ ตามอ้างตัวอย่างเป็น- ธรรมดาเห็นเถอะหากหมาย
ถึงคน, ยลบรรยาย ย่อมบผิดแผกบแปลกแปร ฯ
๏ ผู้ที่มีปัญญา โปร่งปรุปรีชาฉลาดแล
เหลวใหลไม่แยแส สนเสาะผลเพิ่มเพาะปัญญา ฯ
๏ ให้เยี่ยมให้เปี่ยมอยู่ นั่นก็ย่อมรู้จะโรยรา
เรียวเรื่อยถึงเฉื่อยชา ช้ามิคมเฉียบมิฉับไว ฯ
๏ ที่สุดเสื่อมทรุดโทรม อย่างกะร่างโฉมชราไป
จนถึงซึ่งบรรลัย ชนม์สกนธ์แล้วก็เลยศูนย์ ฯ
๏ คนที่มีกิจการ ชำนิชำนาญณงานธูร
แท้เขาทราบเค้ามูล ว่าวิชามวลละล้วนมี ฯ
๏ มากมายทั้งหลายแหล ควรจะเรียนแลจะรู้ดี
ให้เด่นเป็นเกียรติศรี สมเพราะศึกษาพยายาม ฯ
๏ ยังน้อยยังด้อยหนอ ยังมิมากพอจะเผยนาม
เป็นปราชญ์ทรงศาสตร์ตาม เกียรติยศเลิศฉะนั้นเลย
๏ ความรู้เรียกว่าดี โดยนิยมมีเพราะเราเคย
คาดหลงไปลงเอย เอากะตำรับกะตำรา ฯ
๏ ด้วยเราเข้าใจถือ ว่าเพราะหนังสือผิว์ศึกษา
เพียงอ่านพลิกผ่านตา จบตลอดเล่มก็เลิกกัน ฯ
๏ กล่าวว่า “ข้ารู้แล้ว- พอละ” เพิกแพ้วและพักพลัน
ทิ้งร้างไป่สร้างสรรค์ เสริมเพาะเพิ่มเติมผะเดิมมา ฯ
๏ นี้ไม่ใช่ตั้งอยู่ ในสภาพภูมิปัญญา
ย่อมเสื่อมอย่างพฤกษา ปราศจากใบประลัยทราม ฯ
๏ ศัพท์ว่า “ปัญญา” นั้น แปลและรู้กันก็คือ “ความ-
รอบรู้” จักรู้ตาม ควรจะรู้จากอะไรใด ฯ
๏ รู้ได้รู้ให้เด่น ใช้ก็ให้เป็นประโยชน์ไป
ย่อมเป็นปัญญาใน ทุกสถานหมายเสมือนกัน ฯ
๏ สิ่งเช่นเห็นด้วยตา ยินกะหูมาประมวลสรรพ์
ทราบได้ด้วยใจอัน เกี่ยวกับอาจรู้เจริญไว ฯ
๏ หวังรู้เฟื่องฟูเพิ่ม พูนพิชาเดิมประการใด
รู้แล้วให้แผ้วไพ- บูลย์อุบัติมีทวีมา ฯ
๏ ทั้งมวลล้วนของดี แท้และควรที่จะศึกษา
ทราบดูด้วยหูตา จนกระทั่งใจตริไตร่ตรอง ฯ
๏ สังเกตทราบเหตุผล ธรรมชาติคน ฯลฯ สิ่งของ
เป็นไปอย่างไรมอง แม่นประจักษ์มั่นเพราะปัญญา –(ยลแล) ๚

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ